FIFTY FIVE FINE STEAKS & WINE
ห้องอาหาร FIFTY FIVE อยู่บนชั้น 55 ของโรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ เซ็นทรัลเวิลด์ ภายในถูกออกแบบด้วยดีไซเนอร์ที่มาจากนิวยอร์ก เพื่อให้คุณได้สัมผัสกับบรรยากาศที่เหมาะที่สุดสำหรับการกินสเต็ก และยังมีเพลงแจ๊สที่เปิดคลอเบาๆ ให้คุณได้รู้สึกอิ่มเอมใจไปตลอดมื้อ
เริ่มต้นด้วย Starters ของที่นี่จะมีทั้งหมด 4 แบบ คือ Salads, Cold Starters, Soups และ Warm Starters จานที่ยกมาให้กับเรานั้นเป็น Cold Starters ที่เรียกว่า Furikake seared Tuna Tataki จะเป็นทูน่าที่นำมาคลุกกับผงเขียวๆ แดงๆของญี่ปุ่น รสชาติคล้ายกับปลาป่น ปลาแห้ง แล้วก็มีพริกหยวก 3 สี เอามาซอยแล้วก็ผสมกับน้ำมะนาว รสชาติจะออกเปรี้ยวหน่อย แต่เนื้อทูน่าจะหวาน จานนี้จะให้รสชาติเปรี้ยวหวาน และให้กลิ่นหอมในปาก เหมาะที่จะเรียกน้ำย่อยได้เป็นอย่างดี
จานต่อไปเป็นเนื้อปลาแซลมอนที่เรียกว่า Sock-eye Salmon จานนี้เป็นเนื้อปลาแซลมอนที่แตกต่างจากที่อื่น เพราะเป็นปลาแซลมอนพันธุ์ Sock-eye โดยครึ่งตัวของปลาแซลมอนชนิดนี้จะมีสีแดง เนื้อจะแน่นกว่าปกติ และรสชาติของเนื้อปลาจะหวานในตัว แม้ว่าปกติเนื้อปลาแซลมอนจะแน่นอยู่แล้วเพราะเป็นปลาที่ว่ายทวนน้ำมาวางไข่ทำให้มีกล้ามเยอะ แต่ตัวนี้จะพิเศษกว่าตรงที่มีรสหวานนิดๆ
เนื้อปลาแซลมอนจะถูกนำมา Pan-fire แล้ว Grill เพื่อให้สีของหนังนั้นดูน่ากินและกรอบ จากนั้นก็เข้าเตาอบเพื่อให้เนื้อด้านในสุก และแม้เนื้อปลาจะสุก แต่เนื้อจะไม่แข็ง ให้ความอร่อยแบบนุ่ม หวาน หอม
ปลาแซลมอนว่าอร่อยแล้ว แต่สำหรับใครที่ชื่นชอบสเต็ก เนื้อสเต็กจานนี้ต้องยกนิ้วให้จริงๆ สำหรับ Roasted Wagyu Rib of Beef โดยที่นี่จะแบ่งเป็น 3 ไซส์ คือแบบ Ladies Cut 9 oz, Gents Cut 12 oz และจานที่ยกมาให้เราได้ชิมเป็นแบบDiamond Cut 20 oz และในแบบ Diamond Cut นั้นเนื้อจะติดกระดูกหน่อยๆ แต่ไม่มีความเหนียวแม้แต่น้อย เนื้อละลายในปากได้จริงๆ ซอสที่เตรียมมาให้ก็เข้ากับรสชาติเนื้อได้ดี จานนี้บอกได้คำเดียวใครที่ชื่นชอบสเต็กไม่ควรพลาด
นอกจากนั้น ที่นี่ยังมีเนื้อนำเข้าจากอเมริกาที่ที่อื่นไม่มี โดยเนื้อนี้จะปั๊มตราจากอเมริกาเลย ก่อนขึ้นเครื่องมาจะนำเนื้อที่ได้ไปทำให้แห้งนิดหน่อยเพื่อให้รสชาติยังคงอยู่ในเนื้อ ทำให้เวลามาทำเป็น Medium Rare หรือ Rare เนื้อจะไม่ค่อยมีเลือดเท่าไรแต่เนื้อจะนุ่มมากๆ นอกจากนั้นยังมีเนื้อจากออสเตรเลีย ฝรั่งเศส อีกด้วย
และหากใครที่ยังไม่พอแค่สเต็กอยากเพิ่ม Topping อื่นๆ เสริมเข้าไปทางร้านก็มีให้เลือกเช่นกัน เช่น Half Lobster, Slab of Foie Gras, Blue Cheese Crumbles และอีกมากมาย
ส่วนใครที่ไม่กินเนื้อ ที่นี่ก็ยังมีเตรียม Lamb Chops, Pork Chop, Chicken ไว้ด้วย อย่างเช่น Spanish Iberico Pata Negra Pork Chop จานนี้จะเป็นเนื้อหมูป่าจากสเปนซึ่งเป็นหมูดำ คำว่า Iberico คือการเลี้ยงแบบฟาร์มเปิดที่ให้กินแต่ลูกสนอย่างเดียว ซึ่งจะทำให้เนื้อหมูนุ่มและอร่อยขึ้น ส่วนอีกจานที่แนะนำคือ Butterflied Spring Chicken เนื้อไก่ที่เสิร์ฟไก่ทั้งตัว
และต้องบอกว่าที่นี่รวบรวมเนื้อชั้นดีจากทั่วโลกไว้จริงๆ เพราะมี Lobster ไว้เสิร์ฟด้วย ที่นี่จะทำทั้งหมด 3 แบบตามแต่ว่าคุณจะเลือกแบบไหน ไม่ว่าจะเป็น ย่าง (Grill) อบชีส (Thermidor) หรือผัดกับซอสมะเขือเทศ (Americaine) ที่นิยมที่สุดคงเป็นอบชีส แต่ใครที่สั่งก็คงต้องรอสักหน่อยเพราะใช้เวลาในการปรุงประมาณ 30 นาที โดยเชฟจะนำเนื้อกุ้งไปผัดกับชีส ครีม แล้วนำกลับไปใส่ในเปลือกแล้ววางชีสทับจึงค่อยนำมาเสิร์ฟทำให้ต้องเสียเวลากับจานนี้มากหน่อย แต่รสชาติก็คุ้มค่าที่รอคอย
อาหารที่เป็นเครื่องเคียงของที่นี่มีให้เลือก 2 แบบ ทั้งแบบมันฝรั่งและแบบผัก เลือกได้ตามใจชอบ ยังมีเกลือสีชมพูที่ให้รสชาติเค็มอมหวานไว้สำหรับกินกับขนมปังหรือเนื้ออีกด้วย
สำหรับใครที่ชื่นชอบไวน์ ที่นี่ก็มีไวน์ให้เลือกจากทั่วทุกสารทิศ โดยเวลาที่จะหยิบไวน์นั้นท่านจะได้เห็นไวน์แองเจิลบินขึ้นไปหยิบไวน์ให้ท่านในห้องเก็บไวน์ ใครอยากเห็นต้องลองสั่งไวน์สักขวดครับ
ปิดท้ายกันด้วยของหวานอย่าง Baked Chicago Cheese Cake ที่เนื้อเค้กทั้งนุ่มและหวานกำลังเหมาะ รับรองว่าหากใครได้ขึ้นมาที่นี่แล้ว จะต้องหวนกลับมาอีกครั้งอย่างแน่นอน
How to Go?
หาไม่ยากเลยครับ เพราะโรงแรมเซ็นทาราแกรนด์และบางกอกคอนเวนชันเซ็นเตอร์ เซ็นทรัลเวิลด์ ตั้งอยู่บริเวณสี่แยกราชประสงค์ หรือที่เดียวกับเซ็นทรัลเวิลด์นั่นเอง ขึ้นไปที่ชั้น 55 ได้เลยครับ ที่นี่เปิดตอน 11.30-14.30 น. และ 18.00-23.30น. สอบถามเพิ่มเติม โทร.0-2100-6255