ก้าวเดินออกจากชั้น 5 โทนสีของบริเวณโดยรอบก็แตกต่างออกไป จากสว่างด้วยแสงนีออนสีขาว สลับเหลือง ก็กลายเป็นสีส้มนวลจนรู้สึกสบายตา สบายใจ

ไลน์บุฟเฟ่ต์ที่อยู่ทางมุมห้องฝั่งซ้าย มองครั้งแรกรู้สึกถึงความธรรมดา ไม่น่าจะต่างกับบุฟเฟ่ต์ทั่วๆ ไป แต่เมื่อมองใกล้ๆ อาหารแต่ละอย่างนั้นต้องบอกว่าพิเศษมากๆ

แค่แวบแรกที่เห็น ตับห่าน หรือ ฟัวกรา วางเรียงกันเป็นแถวยาวอยู่บนถาดกลม แต่ละชิ้นผ่านการแล่ให้ได้ขนาดกำลังเหมาะ เพื่อพร้อมนำไปแนบกระทะให้สุก

“ขอ 2 ชิ้นครับ” เราเอ่ยปากบอกเชฟที่ยืนอยู่ตรงหน้า รสชาติและกลิ่นของฟัวกราที่อยู่ตรงหน้านั้นเย้ายวนเหลือเกิน

ถัดกันที่อยู่ใกล้ๆ เป็นฮอตดิช แต่ละอย่างที่เชฟสลับหมุนเวียนเปลี่ยนกันไป ทั้งอาหารไทยและต่างประเทศ ที่พิเศษอีกอย่างหนึ่งก็คือที่นี่มีปลาหิมะด้วย ปลาหิมะชิ้นโตผ่านการปรุงรสแบบสูตรเฉพาะของทางโรงแรม เนื้อปลาแน่น อร่อย แถมยังไม่ใช่ปลาเลี้ยงที่อยู่ในกระชัง แต่เป็นปลานำเข้าจากนอร์เวย์ 

เมนูเด็ดอีกอย่างหนึ่งก็คือ ซุ้มกริลล์ วันนี้เป็นขาหมูแฮม ขาหมูชิ้นใหญ่เกือบ 5 กิโลกรัม ถูกแล่บางๆ ทีละชิ้นๆ เสิร์ฟพร้อมกับซอสสูตรพิเศษ ใกล้ๆ กับขาหมูเป็นเนื้อสันนอกออสเตรเลีย ที่ย่างมาแบบพอดีๆ ทำให้เนื้อนุ่มน่ากินเป็นอย่างมาก

ซุ้มตรงกลางยังมีอาหารเด็ดๆ อีกหลากหลายอย่าง ทั้ง Seafood on Ice ที่ยกขบวนนำมาด้วยกุ้งใหญ่ หอยนางรมตัวเป้งๆรวมทั้งร็อคลอบสเตอร์ก็มีวางเรียงแถวแบบกินได้ไม่อั้น

อาหารญี่ปุ่นที่อยู่ใกล้ๆ กันก็น่าจะเรียกได้ว่าวิเศษไปเลย เพราะปกติแล้วไลน์บุฟเฟ่ต์ส่วนใหญ่จะมีแค่แซลมอน ซาบะ ทูน่า แล้วก็ข้าวห่อสาหร่ายนิดๆ หน่อยๆ แต่ที่นี่จัดให้แบบเต็มๆ เพราะมีหอยปีกนก ไข่ปลาแซลมอน หอยแครงญี่ปุ่น ฯลฯ เรียกได้ว่าใครที่ชื่นชอบอาหารญี่ปุ่นที่เป็นซาซิมิหรือซูชิ The Glass House จัดเต็มจริงๆ

ของหวานก็มีให้เลือกมากมาย รวมถึงไอศกรีมโฮมเมดที่เปลี่ยนรสชาติให้ได้ลองกันทุกวันอีกด้วย

ทั้งหมดที่เล่ามา ถ้าเทียบกับราคาแล้ว ต้องบอกว่าคุ้มสุดๆ

ไม่เชื่อ ต้องลองครับ
 

How to Go?

ลงจากสถานีรถไฟฟ้าสุรศักดิ์ ก็สามารถเดินเข้าโรงแรมอิสติน แกรนด์ สาทร กรุงเทพฯ ได้เลย กดลิฟท์ขึ้นไปชั้น 5 ก็ถึงห้องอาหารแล้วครับ

หรือถ้าขับรถมาจากพระราม 4 ก็วิ่งเข้าถนนสาทร พอถึงสถานีรถไฟฟ้าสุรศักดิ์ ก็เตรียมเลี้ยวซ้ายเข้าในโรงแรม โทรจองล่วงหน้าได้ที่ โทร. 0-2210-8100 ต่อ The Glass House หรือ อีเมล [email protected] เว็บไซต์www.eastingrandsathorn.com