คำตอบของคำถามทั้งหมดก็คือมีนักร้องอีกหลายคนที่ทำได้แบบนั้น แต่คงไม่มีใครเหมือนเขาคนนี้ ป้าง นครินทร์ กิ่งศักดิ์

ล่าสุดเขาเพิ่งจะออกซิงเกิ้ลใหม่ที่มีชื่อว่า ปอดแหก สิ่งที่น่าสนใจไม่น้อยไปกว่าตัวเพลงก็คือนางเอกมิวสิควิดีโอที่สั่งตรงมาจากประเทศญี่ปุ่นที่มีชื่อว่า มิยาบิ (ดาราหนังเอวีที่ผู้ชายทุกคนรู้จักเธอดี) นี่คือหนึ่งในตัวอย่างเล็กๆ น้อยๆ ที่เขามักจะมีลูกเล่นใหม่ๆมานำเสนอให้แฟนเพลงได้ติดตามกันอยู่เสมอ

“ผมว่ามันคือความเป็นครีเอทีฟ ผมเป็นคนชอบคิดอะไรแปลกๆ ไปเรื่อย แต่พอบอกว่าผมเรียนจบบัญชี จุฬาฯ มา มันก็เลยฟังดูไม่ค่อยเข้ากัน ผมก็ยังงงๆ เหมือนกัน (หัวเราะ)”

ย้อนกลับเมื่อปี พ.ศ. 2535 เขาเป็นที่รู้จักต่อสาธารณชนจากการเป็นครึ่งหนึ่งของ ไฮดร้า วงดนตรีที่เขาทำร่วมกับ ปอนด์ ธนาลวสุต แต่การทำงานที่เรียกว่าเป็นตัวตนของเขาจริงๆ นั่นคือการออกอัลบั้มเดี่ยวในอีก 2 ปีถัดมาที่มีชื่อว่า ไข้ป้าง อัลบั้มที่บรรจุเพลงดังๆ ในยุคอัลเตอร์เนทีฟครองเมืองไว้มากมายไม่ว่าจะเป็น สบายดี, ประตู, เอื้อมไม่ถึง ซึ่งอัลบั้มนี้เองที่ฉีกสไตล์จากชุดเก่าอย่างสิ้นเชิง ทั้งเรื่องของแนวเพลง และที่สำคัญคือลูกเล่นของโทนเสียง

“ความจริงคือเสียงผมมันไปกับดนตรี พอมาเป็นศิลปินเดี่ยว เราก็อยากจะให้ผลงานออกมาเป็นตัวเองมากที่สุดนั่นคือที่เรารู้สึกว่าเราอยากทำ ตอนนั้นผมไม่ค่อยมีเหตุผลว่าทำไมถึงร้องออกไปแบบนั้น แต่ผมก็เชื่อในสิ่งที่มันออกไป”

ไข้ป้างถือเป็นอัลบั้มที่ประสบความสำเร็จอย่างสูง ในเวลาต่อมาก็มีอัลบั้มหลักๆ ทยอยตามกันมาในระยะเวลา 10 กว่าปี ไม่ว่าจะเป็น ฉลองครบรอบ 30 ปี, ขายหน้า, หัวโบราณ, เลี่ยมทอง, ดอกเดียว ซึ่งถือว่าแต่ละชุดยังสามารถคงความเป็นตัวตนและเอกลักษณ์ของตัวเองไว้ได้เป็นอย่างดี น่าสนใจที่ว่าถ้าต้องเลือกสักอัลบั้มมาเป็นผลงานชิ้นเอก เขาจะเลือกอัลบั้มไหน

“ผมขอเลือกอัลบั้ม หัวโบราณ เพราะมันเป็นการผสมผสานที่เหมือนเป็นสิ่งใหม่ๆ ที่ผมได้ลองทำดู แต่ก่อนผมเล่นเพลงหนักๆ มาตลอด ก็เลยอยากทำเพลงร็อกที่มันสวยๆ ฟังแล้วไม่รุนแรงจนเกินไป อยากให้มันมีมิติเยอะๆ มีการผสมเพลงลุกทุ่งเชยๆ เราก็ทำลงไปหมดเลย แล้วคนก็ค่อนข้างชอบ เราเองก็รู้สึกว่าทำได้ดีพอสมควร อย่างการบันทึกเสียงก็จะเป็นกึ่งๆ อนาลอค เรียกว่าพยายามใช้วิธีโบราณ แต่ก็ยังดีอยู่”

วันที่ 3 เดือนกันยายน พ.ศ. 2545 อัลบั้มหัวโบราณได้ถือกำเนิดขึ้นบนแผง โดยเว้นระยะจากอัลบั้มเดิมคือ ขายหน้า ไปกว่า 3ปี โดยมีสัญลักษณ์สำคัญคือรูปเต่าล้านปีที่นอนหงายอยู่บนปกอัลบั้ม อัลบั้มนี้ใช้เวลาแต่ง 4 เดือน และใช้เวลาอีกร่วมๆ 9 เดือนในการเรียบเรียงให้สมบูรณ์กว่าจะสำเร็จออกมา

“มันเป็นอัลบั้มแรกที่ผมเข้ามาในแกรมมี่ด้วย ผมเข้ามาในเงื่อนไขที่ว่าผมต้องได้ทำเพลงเองเหมือนเดิม เพราะฉะนั้นผมก็ต้องพิสูจน์ตัวเอง ก็เลยมีความกดดันพอสมควร เพราะถ้าคุณบอกว่าอยากทำเอง แล้วคุณทำได้สักแค่ไหนที่ไม่ยอมให้ทีมงานเข้าไปช่วย ตอนนั้นพอทำเสร็จ ก็มาให้ทีมงานฟัง ก็มีบางจุดที่อยากให้เปลี่ยน เพราะว่ามันไม่มีเพลงมันๆ ไม่มีเพลงที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเองเหมือนแต่ก่อน แต่ผมก็ยืนยันว่า ณ อารมณ์นี้อยากให้มันเป็นแบบนี้ ก็เลยยืนยันว่าจะไม่ขอเปลี่ยน สุดท้ายก็ออกมาเป็นอย่างที่ได้ฟังกัน”

ผลก็คืออัลบั้มนี้มีเพลงดังๆ มากมาย อาทิเช่น เธอมีจริง, อากาศ, คู่ชีวิต แต่เพลงที่ได้รับการกล่าวถึงมากที่สุดก็เห็นจะเป็นเพลงแก้วตาขาร็อก ซึ่งไม่ว่าเขาจะไปที่ไหนก็มักจะมีคนขอเพลงนี้อยู่เสมอๆ

“อย่างตอนเล่นคอนเสิร์ตก็จะมี สห. (สารวัติทหาร) มาคอยคุม เพื่อไม่ให้วัยรุ่นตีกัน แต่พอเวลางานเลิกทุกคนกลับกันเกือบหมดสห. ก็บอกว่าก่อนกลับพี่ป้างช่วยเล่นแก้วตาขาร็อกให้ฟังหน่อยได้มั้ย (หัวเราะ)”

การเดินทางของบทบทเพลงก็เหมือนกับการเดินทางของการเวลาที่ต้องมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ชีวิตจริงของเขาคนนี้ก็เช่นกัน

“ตอนนี้สิ่งที่วางแผนคงไม่ใช่เป็นเรื่องอะไรที่ใหญ่โตนัก มันเป็นเรื่องของการรักษาสิ่งที่เราทำแล้วมีความสุขยืดเวลาไปให้นานที่สุด เรื่องเพลงคือสิ่งที่ทำให้เรามีความสุขมาตลอดชีวิตตั้งแต่เรารับรู้มา พออายุเรามากขึ้นเราก็อยากรักษามันให้นานเท่าที่เราจะทำได้ เป็นความฝันที่ไม่ได้ใหญ่โตอะไร มันคงไม่ได้ดังเหมือนสมัยก่อนแล้ว แต่ถ้าเรามีความสุขมีคนที่ชอบฟังไปเรื่อยๆ ได้รับสิ่งดีๆ ตอบแทนจากแฟนเพลง เท่านี้ก็รู้สึกว่าคุ้มแล้วที่เราทุ่มเทลงไป”