“ตำแหน่งที่รับผิดชอบอยู่ตอนนี้คือ FAB Manager - F&B and Entertainment Specialist เป็นตำแหน่งใหม่ที่โรงแรม วี กรุงเทพฯ (VIE Hotel Bangkok) ครีเอทขึ้นมาให้ ซึ่งคำว่า FAB มาจาก Fabulous แปลว่า ดีเลิศ โดยหลักๆ แล้วจะดูแลภาพรวมของพนักงานให้ไปเป็นไปตามมาตรฐานของโรงแรม เรื่องความบันเทิงต่างๆ และเรื่องคุณภาพของอาหารด้วย นอกจากนี้ยังมีส่วนร่วมในการคิดค้นสูตรเครื่องดื่มที่มีความแตกต่าง เพื่อใช้เป็นจุดขายแก่ลูกค้าที่จะมาใช้บริการที่นี่

“ก่อนที่จะมายืนอยู่จุดนี้ได้ต้องบอกเลยว่า โชคดีที่เรียนมาทางด้านการโรงแรมและได้ทำงานจนเติบโตมาในสายอาชีพที่ตั้งใจไว้ โดยเริ่มจากการเป็นพนักงานเสิร์ฟในห้องอาหาร แต่รู้สึกว่าตัวเองชอบหรือสนใจเรื่อง บาร์ เครื่องดื่ม มากเป็นพิเศษ และทางโรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ ก็มองเห็นความสามารถของเรา จึงได้มาทำงานในส่วนของบาร์ ซึ่งเราก็เติบโตมาจากที่นี่ เมื่อมีโอกาสได้ร่วมงานกับโรงแรม วี กรุงเทพฯ ก็รับผิดชอบดูแลเรื่องความบันเทิงอย่างเต็มตัว ทำให้ได้ค้นพบตัวเองว่าความจริงแล้วเราไม่เพียงทำในส่วนของโรงแรมได้อย่างเดียว แต่ยังสามารถทำในด้านความบันเทิงได้เป็นอย่างดีอีกด้วย ซึ่งก็ทำให้เรารู้สึกว่ามีความสุขกับงานที่ทำ”

จากประสบการณ์การร่วมงานที่ผ่านมาของเธอกับโรงแรมที่เก่าแก่ที่สุดในเอเชีย ทำให้เธอรู้ว่าหัวใจของการบริการที่แท้จริงคือ การทำงานด้วยใจที่พร้อมจะให้บริการแขกอยู่เสมอ ซึ่งต้องคอยหมั่นสังเกตและเรียนรู้ว่าเขาต้องการอะไร แล้วหยิบยื่นให้โดยที่แขกไม่ต้องร้องขอ

“ส่วนหัวใจของการให้ความบันเทิงแก่ลูกค้า คือ ทำอย่างไรจะทำให้คนมาที่บาร์แล้วรู้สึกสนุก ผ่อนคลาย เพราะลูกค้าที่มาที่บาร์แห่งนี้ก็เพื่อต้องการปลดปล่อย พนักงานเองก็ต้องคิดว่าจะทำอย่างไรให้แขกมีความสุข บางครั้งมีลูกค้ามาเพียงคนเดียว เราก็ต้องคิดว่าจะทำอย่างไรให้เขารู้สึกสนุก เราก็จะสอนพนักงานให้รู้จักการ Entertain ลูกค้า

“ความยากของการทำงานที่นี่คือต้องดูแลตึก YTSB (Yellow Tail Sushi Bar - เยลโล่ เทล ซูชิ บาร์) ซึ่งคอยให้บริการดื่ม กิน ชิลล์ แดนซ์ แบบครบวงจร แต่เป็นตึกที่เพิ่งเปิดใหม่ อยู่ด้านหน้าของ โรงแรม วี กรุงเทพฯ ทำให้ยังไม่ค่อยเป็นที่รู้จักของคนทั่วไป ดังนั้นความท้าทายก็คือ เราจะทำอย่างไรให้คนรู้จักตึก YTSB ซึ่งมีทั้งหมด 5 ชั้น อันประกอบไปด้วย วีบาร์ (VIE BAR) ระเบียงโอเพ่นแอร์ (YTSB Terrace) ร้านอาหารญี่ปุ่นที่เน้นความสด (Yellow Tail Sushi Bar) และดาดฟ้าชั้นบนสุดของตึกที่เป็นสระว่ายน้ำ (VIE POOL) โดยจะต้องคิดว่าทำอย่างไรให้คนที่มามีความสุขด้วย 

“นอกจากนี้ยังต้องทำงานใกล้ชิดกับฝ่ายการตลาดมากๆ เพราะต้องครีเอทธีมปาร์ตี้ สร้างโปรโมชั่นเก๋ๆ ใหม่ๆ ออกมาตลอดเวลา และต้องวางแผนการทำงานล่วงหน้าในแต่ละปี ส่วนกลยุทธ์สำคัญที่ทำให้ YSTB เป็นที่รู้จักคือ ต้องอาศัยโซเชียลเน็ตเวิร์ก คอนเน็คชั่นต่างๆ แล้วร่วมมือกับคนที่ทำงานในแวดวงเดียวกันเพื่อให้งานที่จัดออกมาเป็นที่รู้จักให้มากที่สุด”

แน่นอนว่าการทำงานทุกอย่างก็ต้องเจออุปสรรค โดยเฉพาะอย่างยิ่งในงานบริการด้วยแล้ว คงหลีกเลี่ยงปัญหากระทบกระทั่งกับลูกค้าไม่ได้ แต่อุปสรรคเหล่านี้ก็ทำให้เธอเติบโตและแข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิม

“เคยเจอปัญหาในชีวิตที่มันหนักๆ แล้วเกิดขึ้นพร้อมกัน สิ่งที่ทำได้อย่างเดียวคือ อยู่นิ่งๆ แล้วก็ค่อยๆ คิดหาวิธีแก้ปัญหาไปทีละขั้น ซึ่งในที่สุดแล้วมันก็จะผ่านไปได้เอง สิ่งหนึ่งที่            หลีกเลี่ยงไม่ได้ในการทำงานแบบนี้คือ ลูกค้าเมาแล้วคุยไม่รู้เรื่อง จนต้องพาออกไปข้างนอกเพื่อไปคุยกัน ส่วนคำพูดที่ว่า ลูกค้าคือพระเจ้า จริงๆ แล้วเราต้องดูว่าสิ่งที่เขาต้องการมันสมเหตุสมผลหรือไม่ อะไรที่เราให้ได้เราก็ให้ ถ้าอะไรที่เราให้ไม่ได้ ก็ต้องอธิบายให้เขาเข้าใจ หาวิธีการพูดเพื่อให้เขารู้สึกไม่เสียหน้า และหาสิ่งอื่นมาทดแทนให้ ซึ่งปัญหาทุกอย่างเกิดขึ้นนี้มันก็ช่วยเพิ่มพูนประสบการณ์การทำงานให้เราทั้งนั้น

“สิ่งที่ทำให้มายืนอยู่ ณ จุดนี้ได้คือ ความอดทน จะทำอะไรก็ต้องมีเป้าหมายในชีวิต แล้วลงมือทำให้สำเร็จ ฝึกตนเองให้เป็นคนช่างสังเกต สังเกตว่าคนที่เก่งๆ เขาทำงานกันอย่างไร ถ้าไม่เข้าใจให้ถาม ไม่หยุดที่จะขวนขวายเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ และที่สำคัญต้องเปิดใจรับฟังคำแนะนำ คำพูดของคนอื่น เพราะว่าเราไม่สามารถมองเห็นตัวเองได้ แต่เราต้องการกระจกที่จะคอยมาส่องเรา ซึ่งต้องขอบคุณคำแนะนำจากผู้มีประสบการณ์ที่ทำให้เรามีทุกวันนี้ได้”

ด้วยความที่คุณเก๋ วิมลวรรณ เป็นผู้หญิงคนแรกของโรงแรม วี กรุงเทพฯ ที่เข้ามารับผิดชอบดูแลงานในส่วนบาร์ อาหารและ เครื่องดื่ม ทำให้เธอต้องกระฉับกระเฉงอยู่ตลอด บางครั้งก็ต้องลุยเหมือนผู้ชาย ซึ่งทั้งหมดที่เธอทำลงไปก็เพียงเพราะอยากให้คนที่เธอรักมากที่สุดภาคภูมิใจ ทุกคำพูดและแววตาที่สื่อออกมาจึงเปี่ยมไปด้วยความมุ่งมั่นและความตั้งใจเกินร้อย

“ทุกวันนี้ภูมิใจมากตรงที่ว่าตอนเด็กๆ เกเรมาก จนคุณแม่นึกว่ามีลูกเป็นผู้ชาย แต่ผลการเรียนดีนะคะ ถึงเวลาที่ต้องอ่านหนังสือก็จะตั้งใจอ่าน เพราะอยากจะทำให้แม่ภูมิใจ รู้ว่าแม่เขาหวังกับเราไว้เยอะ พอก้าวมาถึงจุดนี้ได้ตัวเราเองก็ดีใจ ความสุขทุกวันนี้คือ การได้มาทำงาน ได้ยุ่งอยู่ตลอดเวลา เหมือนต้องคอยตื่นตัว ถ้าวันไหนหยุดอยู่เฉยๆ ก็จะรู้สึกเบื่อ แต่วันไหนมีงานให้เราได้ใช้ความคิด ก็จะรู้สึกสนุกและมีความสุขที่จะทำต่อไป”