วิทยาศาสตร์การแพทย์ว่าด้วย การล้างพิษตับ

วิทยาศาสตร์การแพทย์ว่าด้วย การล้างพิษตับ

ก่อนอื่นเราต้องเข้าใจก่อนว่า สารพิษที่สามารถกำจัดออกได้จากการล้างพิษตับนี้ จะต้องมีคุณสมบัติเป็น สารพิษชนิดที่ละลายในไขมัน (Lipophillc toxin) ซึ่งจากงานวิจัย Factors affecting the storage and excretion of toxic lipophilic xenobiotics ที่ตีพิมพ์ในวารสาร Lipids ในปี 2001 โดย Ronald J.Jandacek และ Patrick Tso ได้ทำการทบทวนงานวิจัยจำนวนมากเกี่ยวกับ อุบัติการณ์แพร่กระจายของสารพิษชนิดที่ละลายในไขมันไปทั่วโลก 

โดยทั้งสองท่านนี้พบว่าสารพิษที่ละลายในไขมันนี้ก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพกับประชากรโลกเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะเป็นสารก่อมะเร็ง!!! และมีผลต่อระบบฮอร์โมนและต่อมไร้ท่อของมนุษย์ ซึ่งสารพิษชนิดที่ละลายในไขมันที่พบในสิ่งแวดล้อมนี้ ได้แก่ ยาฆ่าแมลงกลุ่มออร์กาโนคลอรีน หรือที่รู้จักกันดีในนาม ดีดีที และของเสียจากอุตสาหกรรมจากเตาเผาขยะ หรือจากโรงงานที่เปลี่ยนส่วนประกอบอิเล็กทรอนิกส์

ซึ่งบรรดาอาการต่างๆ เหล่านั้น รวมถึงโรคคลอร์แอคเน่ (ผื่นสิวปะทุจากยาฆ่าแมลง) และค่าเอนไซม์ตับเปลี่ยนแปลงไปจากปกติ หลักฐานของการแพร่กระจายในวงกว้างของสารพิษที่ละลายในไขมันในชั้นบรรยากาศนั้นได้มาจากการวิเคราะห์เนื้อเยื่อมนุษย์และน้ำนมมนุษย์ เส้นทางหลักของการเข้าของสารพิษที่ละลายในไขมันได้เข้าสู่ร่างกายมนุษย์ผ่านทางห่วงโซ่อาหาร และสะสมอยู่ในชั้นไขมันในร่างกายเรา เส้นทางปกติในการขับสารพิษตัวนี้คือ ‘น้ำดี’ 

อย่างไรก็ตาม มีการพบหลักฐานของการขับสารพิษนี้เข้าไปในลำไส้โดยไม่ใช้เส้นทางของการขับน้ำดีเช่นกัน การไหลเวียนของระบบลำไส้-ตับของสารประกอบพิษเหล่านี้จำนวนมาก ทำให้การขจัดพวกมันออกจากร่างกายเป็นไปอย่างเชื่องช้า การขจัดสารพิษเหล่านี้ออกจากร่างกายทำได้โดยการใช้สารกลุ่มหนึ่งซึ่งสามารถรบกวนการไหลเวียนของสารประกอบในระบบลำไส้-ตับที่ซึ่งเข้าสู่ลำไส้เล็กโดยระบบทางเดินน้ำดีและเส้นทางที่ไม่ใช่ระบบน้ำดีช่วยเพิ่มอัตราของการขจัดสารเหล่านี้จากร่างกายและลดค่าครึ่งชีวิตของการสะสมของสารพิษเหล่านี้ลง การลดของไขมันในร่างกายควบคู่ไปกับการรับประทานสารกลุ่มหนึ่งเหล่านี้ (ในที่นี้คือ น้ำมันชนิดที่ไม่ดูดซึม, เรซิน (ยา cholestymine), ไฟเบอร์, ถ่าน (Activated carbon) จะเป็นตัวช่วยรบกวนการไหลเวียนของระบบลำไส้-ตับได้และยังช่วยให้อัตราการขับสารพิษนั้นออกไปอีกด้วย นอกจากนี้ การลดน้ำหนักหรืออดอาหารยังมีส่วนช่วยให้ร่างกายขจัดสารพิษชนิดที่ละลายในไขมันนี้ออกจากร่างกายได้ดีขึ้นอีกด้วย

จากงานวิจัยชิ้นนี้ เป็นหลักฐานสำคัญและช่วยอธิบายกระบวนการล้างพิษตับได้อย่างเป็นเหตุเป็นผลโดยอาศัยความรู้พื้นฐานทางการแพทย์ทำให้เข้าใจกระบวนการล้างพิษตับ ซึ่งเป็นวิธีตามธรรมชาติของร่างกาย โดยมีขบวนการดังนี้ 

เมื่ออดอาหารร่างกายจะเผาผลาญไขมันออกมาเป็นพลังงาน ตามด้วยสารพิษชนิดที่ละลายในไขมัน (Lipophilic toxin) เมื่อสารพิษนั้นเข้าสู่ระบบหลอดเลือดแล้วผ่านตับ สารพิษจะผ่านระบบหมุนเวียนลำไส้-ตับ (Enterohepatic circulation) ผ่านกระบวนการล้างพิษ (Detoxification process) ตามธรรมชาติในตับ แล้วขับน้ำดีที่มีสารพิษปนเปื้อนนั้นออกมาทางท่อน้ำดีซึ่งมาเปิดตรงบริเวณลำไส้ส่วนต้น เมื่อเราทำให้ลำไส้โล่งๆ น้ำดีที่มีสารพิษนั้น ก็จะผ่านลำไส้ออกจากร่างกายได้สะดวกขึ้น โดยไม่ต้องตกค้างอยู่ในร่างกายกับกากอาหารในลำไส้นาน และเมื่อเรากินน้ำมันหรือไขมันเข้าไปจะเกิดการกระตุ้นให้ท่อตับ ท่อน้ำดีและถุงน้ำดี บีบตัวเพื่อนำเอาน้ำดีออกมาย่อยไขมันหรือน้ำมันนั้น 

เพราะฉะนั้นตามกลไกปกติ ยิ่งเรากินน้ำมันหรือไขมันมาก ร่างกายก็ย่อมผลิตน้ำดีออกมามากตามไปด้วย และเมื่อเรากินดีเกลือไปทั้งก่อนและหลังช่วงที่เรากินน้ำมันมะกอก ก็จะทำให้น้ำมันมะกอกนั้นกลายเป็นเปรียบเสมือนน้ำมันที่ไม่ดูดซึม ดีเกลือซึ่งทำให้ลำไส้บีบตัวเร็วๆ (ท้องเสีย) และขับเอาน้ำดีที่มีสารพิษออกมาทางอุจจาระในที่สุด โดยพยายามให้น้ำดีที่มีสารพิษปนนั้นอยู่ในลำไส้ในเวลาที่สั้นที่สุดเพื่อลดการดูดซึมน้ำดีกลับเข้าระบบหลอดเลือดดำ พอร์ทัล เฮปปาติก ไม่ให้ดูดซึมกลับเข้าไปตับอีกครั้ง 

นอกจากนี้ การกิน ซิลล์เลียม (Psyllium) ซึ่งเป็นเส้นใยไฟเบอร์ และผงถ่าน Activated carbon นั้น จากงานวิจัยข้างต้น ก็ได้อธิบายไว้ว่า เป็นตัวช่วยลดการดูดซึมกลับของสารพิษที่ปนออกมากับน้ำดี

ที่สำคัญมีการพบว่าการพบสารพิษชนิดที่ละลายในไขมันนั้นพบได้จากน้ำนมแม่เป็นจำนวนมากทั่วโลก และอาจจะมีความสัมพันธ์กับความผิดปกติของพัฒนาการของเด็กในปัจจุบัน เพราะมนุษย์อยู่ในตำแหน่งบนสุดของห่วงโซ่อาหาร 

อย่างไรก็ดีนมแม่ก็ยังจัดเป็นสิ่งที่มีประโยชน์และดีที่สุดสำหรับเด็กทารก หมอจึงมีข้อเสนอแนะเพิ่มเติมสำหรับหนุ่มคนไหนที่ภรรยาเตรียมพร้อมในการเป็นคุณแม่นั้น ควรจะให้ภรรยาทำการล้างพิษตับสักหลายๆ ครั้งก่อน (โดยต้องทำการล้างพิษตับก่อนตั้งครรภ์) ก็อาจจะช่วยลดอุบัติการณ์การเกิดปัญหาพัฒนาการของเด็กในปัจจุบันลงได้มากน้อยตามปัจจัยอื่นๆ ประกอบด้วย

แต่อย่างไรก็ตาม การล้างพิษตับ นั้น ยังไม่มีงานวิจัยเกี่ยวกับการใช้การล้างพิษตับในการรักษาโรคโดยตรง เท่าที่พอสืบค้นได้ในปัจจุบันจะเป็นกรณีเคสตัวอย่างหรือกรณีศึกษามากกว่า จึงจำเป็นต้องมีการศึกษาวิจัยเพิ่มเติมถึงผลดีที่จะได้รับจากการล้างพิษตับ เพื่อให้ทุกคนสามารถได้ประโยชน์จากการล้างพิษตับอย่างแท้จริงต่อไปครับ 

 

น้ำดื่ม น้ำแข็ง ไม่สะอาดเสี่ยงปนเปื้อน

น้ำดื่มเป็นสิ่งจำเป็นต่อการดำรงชีวิตในแต่ละวัน ยิ่งในช่วงนี้ฝนตกหนัก และสภาพอากาศทั่วไปยังร้อนอบอ้าว การดื่มน้ำผสมน้ำแข็งก็ยิ่งทำให้รู้สึกชื่นใจ แต่หากไม่ระวัง น้ำดื่ม น้ำแข็งก็อาจมีสารปนเปื้อนเชื้อจุลินทรีย์ก็เป็นได้

เช่นนั้นแล้ว การเลือกซื้อ เลือกดื่มผลิตภัณฑ์เหล่านี้ควรพิจารณาฉลากอาหาร ซึ่งต้องแสดงรายละเอียดให้ครบถ้วน มีเลขสารบบอาหาร (เลข อย.) วันเดือนปีที่ผลิต หรือวันหมดอายุชัดเจน น้ำดื่มก็ควรเลือกภาชนะบรรจุที่สะอาด และปิดสนิท ไม่รั่ว ไม่ซึม หรือมีคราบสกปรก รวมไปถึงไม่มีร่องรอยการเปิดใช้ ลักษณะน้ำที่บรรจุอยู่ต้องสะอาด ไม่มีตะกอน ไม่มีสี ไม่มีกลิ่น รสที่ผิดปกติ 

 

ส่วนน้ำแข็ง ก็พิจารณาสภาพถุง ต้องไม่รั่วซึม ลักษณะน้ำแข็งใส ไม่มีสิ่งผิดปกติอยู่ในถุง เท่านี้ก็ลดความเสี่ยงต่อสารปนเปื้อนได้แล้ว

การล้างพิษตับแบบง่ายๆ 5 วัน