Life Refresher @NIKKO CAFÉ
ที่นี่เกิดจากการปั้นความฝันรวมกันจากหุ้นส่วนทั้งสี่คน เพื่อให้เกิดเป็น Café ที่สามารถตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของพวกเขาและกับอีกหลายคนที่มองหาร้านที่ให้บรรยากาศและความรู้สึกในลักษณะเดียวกัน ด้วยเพราะเข้าใจในธรรมชาติของสังคมที่แตกต่าง จึงอยากให้เกิด ‘ความรู้สึกไม่ใช่สำหรับทุกคน’ ขึ้นมา
ทันทีที่เห็นบรรยากาศสบายๆ จากหน้าร้าน ก็รู้ได้เลยว่า NIKKO CAFE อาจเป็นแหล่งแฮงก์เอ้าท์ที่สามารถรวบรวมคนที่มีจริตคล้ายๆ กันมารวมไว้ที่เดียวกันเลยก็ว่าได้ และเมื่อได้ก้าวเข้ามาในร้านกลับรู้สึกได้ถึงความใกล้ชิดและอบอุ่นระหว่างผู้มาเยือนและคนในร้านตั้งแต่ยิ้มทักทายในครั้งแรก
นอกจากนี้ด้วยคอนเส็ปต์ของร้านที่อยากให้ทุกพื้นที่นั้นกลายเป็นสัดส่วนบริเวณแห่งความสุข ที่สามารถตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ของผู้ที่มาเยือน และสามารถเป็นพื้นที่แชร์สังคมด้วยกันได้ อย่างบริเวณหน้าร้านเป็นโอเพ่นแอร์ไว้รองรับลูกค้าที่อยากมานั่งชิลล์ๆ และมีโซนที่จัดเป็นสวนด้านข้างสำหรับกลุ่มที่ต้องการไพรเวทขึ้นมาสักเล็กน้อย แต่ยังต้องการบรรยากาศที่สบายๆ ใกล้ชิดธรรมชาติ ส่วนในร้านหรือจะขึ้นไปชั้นบนก็จะแบ่งเป็นโซนเหมือนห้องสมุด สำหรับลูกค้าที่ต้องการความสงบสบายในแบบส่วนตัว หรือจะขยับออกไปสักนิดก็จะเป็นเทอเรสสำหรับแฮงก์เอ้าท์ในยามค่ำคืน
และแน่นอนว่าการใส่ใจในทุกรายละเอียดของความฝัน เมื่อมันได้เกิดขึ้นจริงส่วนที่จะมาเติมเต็มนั้นหนีไม่พ้นเมนูเครื่องดื่ม ที่พวกเขามีแนวคิดที่น่าสนใจคือ ‘ไม่อยากให้ช่วงเวลามันเป็นขีดจำกัดของการดื่ม และเครื่องดื่มแต่ละตัวจะมีความหลากหลายให้ลูกค้าได้เลือกดื่มได้อย่างลงตัว’
ครั้งนี้เราจึงเลือก Strawbeery Mojito เหล้ารัมตำกับมะนาวสด ใบมินท์ และสตรอเบอรี่สด รสชาติหวานหอม สดชื่น แต่ก็เข้มๆ กึ่มๆ ได้เหมือนกัน ส่วน Bouquet เป็นการผสมผสาน วิสกี้ญี่ปุ่น ว้อดก้า Elder Frower และดอกกุหลาบฝรั่งเศสแห้ง มาในแก้วแชมเปญใบเล็กๆ รสชาติออกขมกลางๆ หวานหน่อยๆ หอมกลิ่นกุหลาบในคอ เหมาะสำหรับคนที่ต้องการเร่งความเพลิดเพลินให้ขยับเข้ามาใกล้อีกสัดนิด ตบท้ายกันด้วย Dobble b 52 ซึ่งจะมาเป็นแก้วช็อตเล็กๆ สองที่ แบ่งเป็นโกโก้ และกาแฟ เพิ่มความน่าสนใจด้วยท็อปปิ้งของบาร์นมก็คือ เสริมฟองนมเย็น และซอสคาราเมลเข้าไปโดยใช้ Liquor ล้วนๆ ทันทีที่กระดกเข้าปาก สามารถเรียกจิตวิญญาณให้ตื่นขึ้นในยามค่ำคืนจริงๆ
แต่ละแก้วที่เกริ่นมา สัมผัสได้ทันทีถึงใจความสำคัญหลักที่พวกเขาพร้อมจะมอบให้ลูกค้าแต่ละคนที่เข้ามาเยือนก็คือคำว่า ‘คุณภาพ’ ดี เพราะคิดอยู่เสมอว่าหาก ‘เราชอบทานอะไร ลูกค้าก็ต้องได้ของคุณภาพแบบเราเหมือนกัน’ และด้วยความสุขที่พวกเขามีกับฝันที่เป็นจริงนี้ จึงพยายามที่จะใส่ไอเดียและพัฒนาร้านให้ดียิ่งขึ้นต่อไป
How to go
NIKKO CAFÉ ตั้งอยู่ในซอย เอกมัย 12 (BTS สามารถลงสถานีเอกมัย) จากถนนสุขุมวิท มุ่งหน้ามาซอยสุขุมวิท 63 เลี้ยวเข้าซอยเอกมัย 12 ขับตรงมาสักระยะจะพบร้าน Nikko Café อยู่ทางด้านขวามือ (สามารถจอดรถได้บริเวณร้าน) www.facebook.com/NikkoCafe