U drink I drive เป็นธุรกิจแนวใหม่ในประเทศไทย ที่เกิดจากสองผู้บริหารสาว คุณสิรโสมย์ บริสุทธิ์สุวรรณ์ และคุณณัชมน วิริยะลัมภะ โดยทั้ง 2 คนนำผลงานวิจัยในระดับปริญญาโท มาต่อยอดจนกลายเป็นงานบริการพนักงานขับรถระดับมืออาชีพ เพื่อส่งคุณและรถของคุณถึงบ้านอย่างปลอดภัย หลังจากที่ผู้ใช้บริการเสร็จสิ้นจากงานปาร์ตี้สุดเหวี่ยง

ประเทศไทยมีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุ สูงเป็นอันดับ 3 ของโลก ซึ่งสาเหตุหลักเกิดจากเมาแล้วขับ ล่าสุดจึงเกิดธุรกิจน้องใหม่ U drink I drive ดื่มไม่ต้องขับ กลับบ้านสบาย บริการคนขับรถที่การันตีความปลอดภัยด้วยระบบ GPS ตรวจสอบตำแหน่งคนขับรถ และกล้องวีดีโอบันทึกภาพตลอดการเดินทางพร้อมยกระดับการบริการในแบบที่คุณพอใจ ภายใต้การบริหารของผู้บริหารสาวสวยทั้งสองคน

คุณณัชมนได้เล่าให้ฟังถึง ผลการรีเสิร์ชที่พบว่า ‘คนไทยเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุบนท้องถนนเป็นอันดับ 3 ของโลก และ 40 เปอร์เซ็นต์ของอุบัติเหตุบนท้องถนนเกิดจากการเมาแล้วขับ’ จึงเกิดพื้นฐานความคิดในการทำ Business Plan ด้วยเพราะอยากจะลดปัญหาการเสียชีวิตจากสาเหตุเมาแล้วขับ

ดังนั้นทางออกในสังคมไทยจึงยังมีไม่มากพอ อีกทั้งยังเป็นปัญหาในเรื่องความปลอดภัยที่ตามมาอีกมากมายสำหรับผู้หญิง คุณสิรโสมย์ จึงมองเห็นช่องทาง เมื่อต้องไปปาร์ตี้แล้วมีการดื่ม เมื่อไม่พร้อมที่จะต้องขับรถกลับเอง เพื่อความสะดวกในหลายๆ ด้าน จึงคิดว่าการบริการในลักษณะนี้จะสามารถตอบโจทย์ได้

สำหรับการให้บริการของ U drink I drive นั้น หลังจากโทรหาศูนย์บริการ U drink I drive แล้วลูกค้าจะได้รับ SMS ยืนยันการนัดหมาย เมื่อถึงเวลา พนักงานจะไปรับ และขับรถไปส่งถึงปลายทางและพิเศษกว่านั้นหากลูกค้าที่เป็นผู้หญิงกังวลเรื่องความปลอดภัยและความเหมาะสมเป็นพิเศษก็สามารถขอรับบริการจากพนักงานขับรถที่เป็นผู้หญิงได้อีกด้วย

คุณณัชมนยังได้อธิบายอีกว่า “ระบบเปิดใช้งานมาประมาณ 4 เดือนแล้วค่ะ แต่ช่วงเตรียมงานใช้เวลาประมาณปีนึง การใช้บริการค่อนข้าง User Friendly ใช้ง่ายมาก เพียงแค่ลูกค้าโทรมาว่าอยู่ที่จุดไหน ให้มารับหน่อย ยกตัวอย่างจากซอยทองหล่อมาส่งที่ถนนสาทร ถ้าระยะทาง 5 กิโลเมตร จะอยู่ที่ 500 บาท พอวางสายเราจะส่งข้อความไปทางโทรศัพท์ สำหรับเวลานัดหมาย ชื่อพนักงานขับรถที่จะไปรับ เพื่อเป็นการเซฟความปลอดภัยให้กับลูกค้า พอพนักงานขับรถไปถึงจุดนัดพบก็จะนำนามบัตรกับใบขับขี่หรือบัตรประชาชนที่มีชื่อของเขาให้ลูกค้าดูว่าตรงกันนะ

“ความปลอดภัยจะสำคัญที่สุด ยิ่งในสังคมไทยด้วย จะไม่ค่อยยอมให้ใครมาขับรถตัวเองง่ายๆ แน่ พนักงานของเราจะมีกล้องวีดีโอติดไว้ที่หู สามารถที่จะดูสดๆ ในแอพพลิเคชั่นบนมือถือได้ ว่าพนักงานคนนั้นกำลังทำอะไร มองอะไรอยู่ หรืออยากได้ภาพย้อนหลังเราก็จะส่งให้ทางเมลในวันรุ่งขึ้น จะบันทึกภาพเอาไว้ทั้งหมด แถมพนักงานขับรถทุกคน ยังผ่านการอบรมและทดสอบจาก Limousine Express เพื่อการันตีคุณภาพการให้บริการดีที่สุด (การให้บริการนี้พัฒนามาจากการให้บริการในประเทศออสเตรเลีย)

“ที่สำคัญในตัวกล้องไม่ได้แค่ป้องกันลูกค้าเท่านั้น ยังป้องกันพนักงานขับรถของเราด้วย อย่างลูกค้าบางคนที่เมาแล้วหลับไปพอตื่นขึ้นมาเกิดของหายแล้วอาจเข้าใจผิดว่าพนักงานของเราเอาไปก็จะสามารถดูได้เลย มีหลักฐานแน่นอน ส่วนการคัดเลือกพนักงานของเราก็สำคัญค่ะ เราเป็นพาร์ทเนอร์กับทาง Limousine Express ซึ่งเปิดบริการมานานกว่า 15 ปีแล้ว เขาจะมาคัดเลือกคนให้ ใจรักบริการ ไม่มีประวัติก่ออาชญากรรม ไม่มีประวัติทำผิดกฎจราจร อย่างฝ่าไฟแดง ขับรถเร็วเกินกำหนด อายุงานในการขับรถบริการแต่ละคนต้องไม่ต่ำกว่า 5 ปี” คุณสิรโสมย์ ได้กล่าวเพิ่มเติม

U drink I drive การันตีถึงความปลอดภัยของลูกค้า ด้วยการนำเทคโนโลยี GPS มาใช้ในการระบุตำแหน่งพนักงานขับรถและนำกล้องวีดีโอ บันทึกภาพตลอดการเดินทาง 
ซึ่งข้อมูลทั้งหมดจะเป็นความลับระหว่าง U drink I drive กับ ลูกค้าเท่านั้น

“ฟี้ดแบ็คคือสิ่งที่เราต้องการมากที่สุด เพื่อที่จะปรับปรุงบริการของเราให้ดีขึ้นทุกวัน เราจะติดต่อกลับไปถามลูกค้าที่ใช้บริการ ผลตอบรับคือพวกเขาชอบมาก มีลูกค้าท่านเดิม
ใช้ซ้ำทุกอาทิตย์เพราะติดใจในบริการ คือเมื่อเทียบกับเงินค่าปรับเมื่อเจอด่านตรวจแอลกอฮอล์ และการเสียเวลาในการดำเนินการต่างๆ ที่วุ่นวาย ถือว่าคุ้มกับค่าใช้จ่ายมาก” ทั้งคู่กล่าวทิ้งท้าย

นี่คือทางออกที่ดีที่สุดในเวลานี้ สำหรับผู้ที่ต้องการขับรถยนต์ส่วนตัวไปแฮงค์เอ๊าท์ โดยไม่ต้องกังวลถึงการเดินทางกลับบ้านด้วยความเสี่ยง ไม่ปลอดภัยทั้งเรื่องการขับขี่ 
ที่อาจทำให้เกิดอุบัติเหตุ และยังเสี่ยงกับการถูกตำรวจจับในด่านเป่าแอลกอฮอล์อีกด้วย 

อีกทั้งหากผู้ใช้บริการเป็นผู้หญิง U drink I drive ก็มีพนักงานขับรถผู้หญิงด้วยเช่นกัน การันตีในทุกความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น เพราะหัวใจในการบริการที่สำคัญคือความปลอดภัยและความสะดวกสบายนั่นเอง 

FYI
สำหรับอัตราค่าใช้บริการ U drink I drive เริ่มต้นที่ 500 บาท ในระยะทาง 5 กิโลเมตรแรก และเมื่อเข้าสู่กิโลเมตรที่ 60 จะคิดค่าบริการเพิ่ม 50 บาทในทุกๆ 5 กิโลเมตร เช่น กิโลเมตรที่ 1 - 5 ค่าบริการ 500 บาท กิโลเมตรที่ 6 - 10 ค่าบริการ 550 บาท และถ้า 15 กิโลเมตร ค่าบริการก็จะอยู่ที่ 600 บาท

ข้อมูลเพิ่มเติมและสอบถามได้ที่ www.udrinkidrive.co.th, www.facebook.com/udrinkidrive.th, IG@udrinkidrive, Line.Udrinkidrive และโทร. 09-1080-9108