นท เกริกฤทธิ์วณิช

นท เกริกฤทธิ์วณิช

ยุคสมัยนี้อาชีพนักลงทุนเป็นอาชีพในฝันของคนจำนวนไม่น้อย เพราะนอกจากจะเป็นอาชีพที่มีอิสรภาพทางการเงินและเวลาแล้ว ยังให้ผลตอบแทนสูงอีกด้วย ทว่าความเสี่ยงหรือโอกาสที่จะขาดทุนก็สูงขึ้นตามมูลค่าที่จะได้รับเช่นกันหากขาดความรู้ความเข้าใจในตลาดหุ้นอย่างแท้จริง ดังนั้นจะดีกว่าไหมถ้าได้ผู้มีประสบการณ์อย่างคุณโจ้ นท เกริกฤทธิ์วณิช ประธานบริหาร ผู้ก่อตั้งศูนย์การเรียนรู้ Star Trader Thailand มาแนะนำเคล็ดลับในการลงทุนแบบมืออาชีพ

หลังจากที่เขาเรียนจบปริญญาโทด้าน International Business Management University of Surrey ที่ประเทศอังกฤษ จึงกลับมาทำงานในบริษัทรถยนต์ค่ายหนึ่ง จนกระทั่งเกิดวิกฤติทางเศรษฐกิจ

“ผมเริ่มสนใจเรื่องหุ้นตั้งแต่อยู่มหาวิทยาลัย พอเกิดวิกฤติราคาน้ำมันและวิกฤติแฮมเบอร์เกอร์ ซึ่งขณะนั้นตลาดหุ้นอเมริกาดิ่งลง ส่วนตลาดหุ้นเมืองไทยก็ร่วงหนัก ทำให้คิดได้ว่า ‘ในวิกฤติที่เกิดขึ้นย่อมมีโอกาสตามมาเสมอ’ ผมจึงเริ่มศึกษาและลงทุนอย่างจริงจังตั้งแต่ตอนนั้นจนถึงตอนนี้

“หลังจากลงทุนได้ระยะหนึ่งก็เจอเพื่อนซึ่งตอนนี้ก็ได้ร่วมงานกัน ชื่อคุณยุ้ย พรวิมล รัตนประไพ เพราะคุยถูกคอ มีทัศนคติตรงกันเกี่ยวกับการเผยแพร่ความรู้เรื่องการลงทุนให้เข้าใจง่าย ฟังแล้วไม่ยุ่งยาก ไม่วิชาการมากเกินไป และสามารถนำไปใช้ได้จริง จึงร่วมกัน
ก่อตั้งโรงเรียน Star Trader Thailand ขึ้นมา”

ด้วยความที่ทั้งคู่เป็นหนุ่มสาวรุ่นใหม่ อายุเพียง 30 ต้นๆ แต่กลับต้องมาสอนพื้นฐานเรื่องการลงทุนให้กับลูกศิษย์ซึ่งเป็นถึงนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จแล้ว เจ้าของธุรกิจขนาดใหญ่ หรือแม้กระทั่งผู้สูงอายุ ทำให้เกิดคำถามตามมาว่า เขามีความรู้มากพอที่จะสามารถนำไปสอนลูกศิษย์เหล่านั้นได้หรือ

“ผมเชื่อว่าถ้าเป็นความรู้ที่มากจากประสบการณ์มันสามารถถ่ายทอดกันได้ ถามว่า
รู้เยอะๆ ดีไหม ตอบว่าดีแน่นอน แต่ถ้าเรามีความรู้มากๆ เต็ม 100% ที่แท้กลับใช้ได้จริงๆ เพียงแค่ 5 - 10% ก็คงไม่มีประโยชน์ บางคนรู้ทุกอย่าง แต่ทำอะไรไม่เป็นสักอย่าง สู้รู้ในสิ่งที่ควรรู้จริงๆ จะดีกว่า ผมว่าจริงๆ แล้วสิ่งที่ยากที่สุดไม่ใช่เรื่องของความรู้ แต่เป็นเรื่องของประสบการณ์ และสิ่งที่ควรทำหรือไม่ควรทำมากกว่า

“มีคนทำสิ่งที่ผิดพลาด ทำในสิ่งที่ไม่ควรทำ ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่มีคนบอก กว่าจะรู้อีกทีก็ผิดพลาดไปแล้ว เจ๊งไปแล้ว ประกอบกับนิสัยของคนส่วนใหญ่คืออยากลอง อยากท้าทาย อยากเรียนรู้ แต่อย่าลืมว่าบางครั้ง ‘ค่าเรียนรู้’ หรือ ‘ค่าประสบการณ์’ ในการลงทุน มันแพงมาก ผมจึงนำสิ่งที่เคยผิดพลาดด้วยตัวเองมาแล้วมาใช้ในการสอนลูกศิษย์ เพื่อบอกให้รู้ว่าเรื่องไหนไม่ควรทำผิดซ้ำอีก และจะได้รู้ว่าควรทำอย่างไรให้ลงทุนแล้วได้กำไร

“ผมว่าสิ่งที่ท้าทายที่สุดในการลงทุนคือ การรู้จักตัวเอง อย่างเวลาอ่านหนังสือเกี่ยวกับการลงทุนก็จะมีเทคนิคร้อยแปดพันเก้า ซึ่งต้องถามตัวเองให้ดีว่าวิธีการที่เราอยากจะเดินตามเหล่านั้น ตรงกับนิสัยจริงๆ ของเราหรือเปล่า บางคนมีนิสัยใจเย็น ซื้อทิ้งไว้เป็นปีเราอยากทำตามแต่เป็นคนใจร้อน พอหุ้นร่วงนิดเดียวก็ตกใจ เครียด ขายทิ้ง พอขายเสร็จ หุ้นขึ้นทันที นี่คือการวางแผนของคนเรา ซึ่งมีไม่เหมือนกัน ดังนั้นวิธีการลงทุนของแต่ละคนก็ไม่เหมือนกัน สิ่งสำคัญคือรู้จักตนเองหรือเปล่าว่าเหมาะกับวิธีไหนมากที่สุด

“นอกจากนี้การควบคุมตัวเองให้ได้ก็เป็นสิ่งที่ท้าทายเช่นกัน เพราะความโลภจะทำให้ขาดวินัย ตัวอย่างเช่น ตั้งเป้าไว้ว่าเมื่อหุ้นขึ้นถึงระดับนี้แล้วต้องขาย แต่เพราะโลภเข้าครอบงำ อยากขอเก็บไว้นานอีกหน่อย จนราคาลงแล้วก็มัวแต่คิดว่าเดี๋ยวราคาก็กลับขึ้นมาอีก จนในที่สุดหุ้นตัวนั้นมันลงไปเลย กลายเป็นว่าวิธีที่ควรจะทำอย่าง Cut loss ก็ไม่ยอมทำตั้งแต่แรก

“เคล็ดลับการลงทุนให้ประสบความสำเร็จคือ ต้องเริ่มศึกษาอย่างละเอียดก่อนดีกว่า จริงๆ แล้วคนชอบคิดว่าการลงทุนจะต้องมีเงินก่อน แต่ผมว่าความรู้ต้องมาก่อน ไม่ว่าจะมีเงินน้อยหรือมาก เวลาเสียก็หมดได้เหมือนกัน คนที่รอมีเงินมากๆ แล้วค่อยลงทุนทีเดียวมีแต่จะยิ่งเจ็บหนัก หากเรามีความรู้และเริ่มลงทุนตั้งแต่มีเงินน้อยๆ น่าจะเป็นวิธีการสร้างฐานอนาคตที่ดี แล้วก็ค่อยๆ หาความรู้จากมัน เพราะการลงทุนสามารถลงทุนได้ทั้งชีวิตอยู่แล้ว ที่สำคัญต้องหมั่นเติมความรู้ให้ตัวเองโดยการอ่านหนังสือ ซึ่งการอ่านหนังสือก็เหมือนเป็นการซื้อประสบการณ์ที่ดี ทำให้ได้เห็นแนวคิดของนักลงทุนที่ประสบความสำเร็จ และยังสามารถดึงเอาข้อดีที่ถูกกับนิสัยของเรานำมาใช้ในการลงทุน เลือกเอาสิ่งที่เหมาะกับตัวเรามาปรับใช้ นอกจากจะทำให้เราเก่งขึ้นยังได้เรียนรู้มากขึ้นอีกด้วย

“ส่วนเคล็ดลับที่ทำให้ธุรกิจประสบความสำเร็จคือ ต้องรู้ตัวตนของตัวเองว่ากำลังทำอะไรอยู่ หากมีคู่แข่งก็ต้องสร้างจุดเด่นของตัวเอง แล้วคงจุดเด่นตรงนั้นไว้ ทำทุกอย่างให้ออกมาดีที่สุด อย่าวอกแวก และให้พัฒนาตัวเองรวมถึงองค์กรจากภายใน ดีกว่าการไปดูคนอื่นแล้วก็นำมาเลียนแบบ

“เป้าหมายต่อจากนี้ ผมแค่อยากมีนักเรียนที่ประสบความสำเร็จเยอะๆ แต่บางครั้งก็รู้ว่าเป็นไปได้ยาก เพราะความสามารถในการเรียนรู้ของแต่ละคนต่างกัน ถ้าถามว่า ณ ตอนนี้ ความสุขของผมคืออะไร คงต้องบอกว่า ‘ครอบครัว’ เพราะเพิ่งแต่งงาน (ยิ้ม) คนเรากว่าจะรู้ว่าความสุขอยู่ตรงไหนก็ต้องใช้เวลานาน ถ้าคิดว่าความสุขอยู่ที่ครอบครัว ก็ควรใช้เวลาให้เต็มที่และดีที่สุด” 

Know Him

เขาจบการศึกษาระดับปริญญาตรี คณะวิศวกรรมศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีนานาชาติสิรินธร มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ 

Idol นักลงทุนของเขาคือ วอร์เรน บัฟเฟตต์ (Warren Buffett) และ จอร์จ โซรอส (George Soros) ที่รู้จักหาโอกาสจากความผันผวนของตลาดและเป็นนักเก็งกำไรที่ฉลาด

กิจกรรมสุดโปรดของเขานอกจากจะชอบเตะฟุตบอลแล้ว ยังชอบการถ่ายรูปและท่องเที่ยวต่างประเทศอีกด้วย

 

เคล็ด (ไม่) ลับ กับนักลงทุน 1