คนเก่าจากไป คนใหม่ก็แค่พริ้นต์ออกมา ‘โรเบิร์ต แพททินสัน’ เป็น ‘มิกกี้’ กับภารกิจสุดห่วยของมนุษย์ใช้แล้วทิ้งใน “Mickey 17” 6 มีนาคม ในโรงภาพยนตร์

คนเก่าจากไป คนใหม่ก็แค่พริ้นต์ออกมา ‘โรเบิร์ต แพททินสัน’ เป็น ‘มิกกี้’ กับภารกิจสุดห่วยของมนุษย์ใช้แล้วทิ้งใน “Mickey 17” 6 มีนาคม ในโรงภาพยนตร์

พง จุน โฮ ผู้เขียนบทฯ / ผู้กำกับฯ เจ้าของรางวัล Academy Award จากเรื่อง Parasite” สู่ผลงานภาพยนตร์แหวกแนวเรื่องต่อไปของเขา Mickey 17” ดัดแปลงจากนิยายในชื่อเดียวกันของ เอ็ดเวิร์ด แอชตัน ว่าด้วยเรื่องราวของ มิกกี้ บาร์นส  รับบทโดย โรเบิร์ต แพททินสัน ฮีโร่จำเป็นที่พบว่าตัวเองอยู่ท่ามกลางบรรยากาศอันไม่ปกติในการร่วมงานกับนายจ้าง ซึ่งเขาต้องรับงานที่... ยอมตายเพื่อความอยู่รอด

 “Mickey 17” นำแสดงโดย โรเบิร์ต แพททินสัน (The Batman, Tenet) นาโอมี แอ็คกี้ (Star Wars: Episode IX – The Rise of Skywalker) สตีเวน หยวน ผู้ชิงรางวัล Academy Award (Minari, Beef) พร้อมด้วยผู้ชิงรางวัล Academy Award โทนี่ คอลเลต์ (Hereditary) และมาร์ค รัฟฟาโร (Poor Things)

‘พง จุน โฮ’  กับเรื่องราวเบื้องหลังของ Mickey 17

คุณมักจะสร้างภาพยนตร์ที่กระตุ้นความคิด มีความพิเศษในการสำรวจวัฒนธรรมผ่านรูปแบบที่แปลกใหม่ อะไรคือสิ่งที่สร้างสรรค์วิธีคิดของคุณ และที่พิเศษกว่านั้นคือคุณสังเกตอะไรบ้างเพื่อที่จะเลือกโปรเจกต์งานนั้น?

พง จุน โฮ : สำหรับการค้นหาแรงบันดาลใจ ผมคิดว่าคุณต้องมีความอยากรู้อยากเห็นเป็นปกติในชีวิต แน่นอนว่าอาจได้แรงบันดาลใจจากภาพยนตร์ หนังสือการ์ตูน และนิยาย แต่ผมพยายามเปิดรับทุกสิ่งที่อยู่รอบตัว ผมได้แรงบันดาลใจส่วนใหญ่มาจากตรงไหนบ้าง? ผมพยายามทำให้ตัวเองตื่นตัวตลอดเวลา

เมื่อคุณเลือกโปรเจกต์ได้เรื่องหนึ่งแล้ว คุณช่วยเล่าถึงขั้นตอนการเขียนบทฯ ได้ไหม คุณรู้ได้อย่างไรว่าบทของคุณพร้อมสำหรับการถ่ายทำแล้ว?

พง จุน โฮ : ขั้นตอนการเขียนบทฯ หรือ? มันเต็มไปด้วยความเปล่าเปลี่ยวและเจ็บปวด [หัวเราะ] บางครั้งผมไม่อยากจะแตะต้องมันเลยสักนิด มันเป็นเรื่องที่ยาก แต่แน่นอนว่ายังไงผมก็ต้องทำ ผมเป็นผู้เขียนบทฯ – ผู้กำกับฯ มานานแล้ว ผมเขียนบทฯ ทุกเรื่องด้วยตัวเอง ฉะนั้นคุณจะเรียกว่าเป็นโชคชะตาก็ว่าได้ แต่ผมรู้เสมอว่ามันต้องนานกว่า 6-8 เดือนแน่นอน ผมจึงต้องเผชิญหน้ากับมัน ผมพยายามทำให้ตัวเองโดดเดี่ยวมากที่สุด เพราะผมมักจะเขียนได้ดีขึ้นเมื่ออยู่คนเดียว

แรงดึงดูดเข้าสู่เรื่อง “Mickey 17” คืออะไร รวมถึงสิ่งที่ทำให้คุณตัดสินใจสร้างหนังเรื่องนี้?

พง จุน โฮ : จากที่สรุปความรู้สึกได้จากนิยายต้นฉบับ ผมรู้สึกหลงใหลกับเรื่องนี้ขึ้นมาทันที เมื่อผมอ่านทีละหน้า ผมยิ่งจดจ่อกับเนื้อเรื่อง เพราะผมคิดว่ามันมีคอนเซ็ปต์ที่โดดเด่น นับเป็นการพิมพ์ร่างมนุษย์และต่างจากการโคลนมนุษย์ มันเหมือนเราพรินต์มนุษย์ออกมาราวกับมนุษย์เป็นกระดาษ เอกสารที่พรินต์ออกมาได้ และผมคิดว่าการพรินต์มนุษย์ออกมาแบบนั้น แม้ในด้านแสดงความรู้สึกเราก็สัมผัสได้ถึงเรื่องเศร้าที่จะเกิดขึ้นได้ ความคิดต่างๆ พุ่งออกมาและผมก็เข้าไปอยู่ในโลกใบนั้นทันที

และผมพบว่าตัวละคร มิกกี้ บาร์นส มีความน่าสนใจ แม้แต่ในนิยายต้นฉบับก็ตาม มิกกี้ดูเป็นคนธรรมดาทั่วไป แต่ผมอยากทำให้เขาดูธรรมดากว่านั้น เป็นคนทั่วไปกว่านั้น ดูเป็นคนชนชั้นล่าง ดูเป็นคนขี้แพ้สุดๆ ทุกไอเดียสำหรับการดัดแปลงเรื่องพุ่งเข้ามาหาผมทันที ผมหลงใหลคอนเซ็ปต์ของการพิมพ์มนุษย์ออกมา และชอบในเสน่ห์ของตัวละครมิกกี้ที่ไม่ใช่ซูเปอร์ฮีโร่ เขาคือคนธรรมดาทั่วไปที่ต้องผ่านการเดินทางหลุดโลกนี่

เอกลักษณ์ผลงานของคุณคือการผสมผสาน การหักมุม และฉีกกฎไอเดียของแนวต่างๆ เวลาสร้างโปรเจกต์ใหม่ คุณช่วยเล่าถึงโทนเรื่องในการบาลานซ์หนังเรื่องนี้ได้ไหม? อาจรวมถึงเครื่องมือที่คุณใช้สร้างบาลานซ์นั้นให้สำเร็จด้วย?

พง จุน โฮ : ผมเจอคำถามแบบนี้เยอะมากระหว่างการสัมภาษณ์ พวกเขาพูดกันว่าหนังของผมมีการผสมผสานหลายแนว และสงสัยว่าผมวางแผนทุกอย่างได้อย่างไร หรือมักจะถามว่าผมวางแผนจุดหักมุมที่เกิดขึ้นในเรื่องทั้งหมดได้อย่างไร แต่อันที่จริงผมไม่ได้คิดตัดสินใจเรื่องพวกนั้นโดยทันที มันขึ้นอยู่กับสัญชาตญาณในช่วงที่ผมเขียนขึ้นมา และพอผมเขียนเสร็จ ผมเองก็ยังแปลกใจว่าเรื่องราวจะออกมาเป็นแนวไหน

คุณช่วยเล่าเกี่ยวกับ โรเบิร์ต แพททินสัน ได้ไหม เขาสะดุดสายตาคุณครั้งแรกเมื่อไหร่?

พง จุน โฮ:  เรารู้จักเขามาตั้งแต่เรื่อง “Harry Potter and the Goblet of Fire” แต่ผมเห็นแววของเขาอีกมุมในฐานะนักแสดงจากเรื่อง “Good Time” ที่ร่วมงานกับพี่น้องแซฟดี้ และการแสดงที่น่าประทับใจของเขาในเรื่อง “The Lighthouse” ร่วมกับ วิลเลม เดโฟ เขากลายเป็นนักแสดงอีกขั้นจากผลงาน 2 เรื่องนั้น เช่นเดียวกับเรื่อง “The Batman” เวลาที่ผมเห็นเขารับบทตัวละครที่มีเอกลักษณ์ และถ่ายทอดออกมาในแบบของเขาอย่างแปลกใหม่ ผมคิดว่าการรับบท มิกกี้ 17 และ มิกกี้ 18 จะจุดไฟในตัวเขาฐานะนักแสดง และพวกเราคงจะมีความสุขและสร้างแรงบันดาลใจให้กันและกันได้

คุณช่วยเล่าเกี่ยวกับสิ่งที่โรเบิร์ตแสดงเพิ่มเข้าไปในตัวละครของคุณที่เขียนขึ้นมาได้ไหม เช่น น้ำเสียง ท่าทาง? เขาทำให้ตัวละครธรรมดามีชีวิตขึ้นมาได้อย่างไรบ้าง?

พง จุน โฮ : ช่วงที่ผมดัดแปลงเนื้อเรื่องให้เข้ากับบท ผมเพิ่มรายละเอียดที่เล่าเกี่ยวกับตัวละครนี้ไปเยอะมาก แต่ไม่ว่าจะใส่รายละเอียดไปเยอะแค่ไหน สุดท้ายมันก็แค่ตัวอักษรที่อยู่บนกระดาษ มันมีชีวิตขึ้นมาได้ด้วยตัวละครเหล่านี้ และร็อบใส่ความสร้างสรรค์ในแบบของเขา ใส่หลายไอเดียลงไป รวมถึงเพิ่มรายละเอียดที่สะท้อนถึงตัวละครได้ชัดเจน ผมทั้งเซอร์ไพรส์และประทับใจในทุกสิ่งที่เขาสร้างขึ้นมาเพื่อตัวละครและภาพยนตร์

สำหรับเรื่อง Mickey 17 มันเหมือนเขามีไอเดียเรื่องรายละเอียดต่างๆ อย่างดีเยี่ยม แต่มันเหมือนกับ มิกกี้ 18 ที่ร็อบพาเข้าสู่มิติใหม่ เขาข้ามผ่านเส้นกำหนดที่ผมสร้างเอาไว้สำหรับตัวละครนี้ เพิ่มอีกหลายไอเดียพิเศษ ถ่ายทอดพลังใหม่ๆ ซึ่งเป็นสิ่งที่ผมไม่เคยนึกภาพมาก่อน เขามีการเล่นสดในบทอย่างสนุกสนาน และนับเป็นเรื่องสนุกที่ได้ดูเขาทำให้ มิกกี้ 17 มีชีวิตขึ้นมาในฉากได้ ผมรู้สึกดีมาก โดยเฉพาะสิ่งที่เขาสร้างเอาไว้สำหรับ มิกกี้ 18

นักแสดงคนอื่นๆ ก็ดูมีฝีมือน่าทึ่งเช่นกัน คุณช่วยเล่าถึงมาร์ค รัฟฟาโร, สตีเวน หยวน, โทนี่ คอลเลต์, นาโอมี แอ็คกี้ ให้ฟังได้ไหม?

พง จุน โฮ : มาร์ครับบทตัวละครที่สำคัญมาก เป็นทั้งวายร้ายและจอมเผด็จการ เรียกเขาแบบนั้นก็ได้เลย แต่เขาไม่เคยรับบทร้ายมาก่อน เขาค่อนข้างเซอร์ไพรส์ตอนที่ผมส่งบทให้เขาครั้งแรก เขาถามว่า “ทำไมคุณถึงส่งบทนี้มาให้ผม? ผมไม่ถนัดเลยสักนิด!” แต่สุดท้ายเขาก็พบความสนุกและเพลินกับการทำงาน เขามีความสุขกับการรับบทร้าย ตัวละครของเขาเกี่ยวข้องกับเรื่องเสียดสีการเมืองและสร้างความตลกให้หนังเรื่องนี้ เป็นอีกมุมหนึ่งในตัวเขาที่เราไม่เคยเห็นมาก่อน มันเลยวิเศษมากที่ได้เห็นการแสดงของเขาและผมคิดว่าเขาเองก็สนุกเช่นกัน โทนี่ คอลเลต์ รับบท ยัลฟา ภรรยาของเขา และมีเรื่องราวระหว่างคู่รักที่เป็นพลังในการขับเคลื่อนเรื่องราวเล็กๆ สตีเวน หยวน รับบท ทีโม อย่างที่ผมเกริ่นไปตั้งแต่ตอนแรกว่า หนังเรื่องนี้มีความเป็นไซไฟแต่รู้สึกต่างจากหนังไซไฟ สตีเวนช่วยสร้างมุมที่ไม่ให้เป็นหนังไซไฟลงไป เขาทำให้หนังเรื่องนี้มีความเป็นเอกลักษณ์ เขาเหมือนซอสพิเศษที่เพิ่มเข้าไปในหนังสร้างโทนและรายละเอียด เขาเป็นตัวละครที่สนุก ส่วนนาโอมิก็ช่วยถ่ายทอดความอบอุ่นออกมา เธอมีพลังของนักแสดงสูงมาก เธอรับบท นาชา ซึ่งเป็นตัวละครที่มิกกี้พึ่งพาตลอดทั้งเรื่อง และมีความสัมพันธ์แบบตัวละครหญิงชายที่ตรงกันข้ามกับที่เคยเห็นบนหน้าจอ นาชาเป็นคนมีพลัง กล้าหาญ และมีเสน่ห์มากกว่า

เราคุยกันเรื่องการสร้างโลกขึ้นมาได้ไหม? คุณช่วยพูดถึงการทำงานร่วมกับทีมครีเอทีฟในการสร้างสิ่งต่างๆ ทั้งโลก สิ่งมีชีวิต และอุปกรณ์ล้ำสมัยแห่งอนาคตให้ฟังได้ไหม?

พง จุน โฮ : ผมมีประสบการณ์ด้านการสร้างตัวละครวิชวลเอ็ฟเฟ็กต์มาแล้วจากหนังเรื่อง “Okja” ที่ผ่านมา ในเรื่องนี้เองก็เช่นกัน พวกครีปเปอร์ไม่ใช่แค่สิ่งมีชีวิต แต่ยังเป็นตัวละครหลักที่สร้างผลกระทบต่อมิกกี้อย่างมาก เรามีการสร้างตัวละครใหม่ที่ทำให้รู้สึกมีชีวิตขึ้นมา เราร่วมงานกับทีมวิชวลเอ็ฟเฟ็กต์ที่เก่งมาก ผมเคยร่วมงานกับ แดน กลาส ที่ปรึกษาที่ผมเคยร่วมงานในเรื่อง “Okja” และผู้จำหน่วยวิชวลเอ็ฟเฟ็กต์ที่น่าทึ่งอีก 2 รายอย่าง Double Negative และ  Framestore เรายังมีตกล้องฝีมือดี ดาเรียส คอนจิ ผู้ชำนาญตัวจริงที่สร้าง “Okja” ขึ้นมาร่วมกับผม และผู้ออกแบบฉาก ฟิโอน่า ครอมบี ผู้เคยสร้างผลงานอันน่าทึ่งกับ ยอร์กอส ลานธิมอส มาแล้ว ผมดีใจที่ได้ฝากชีวิตไว้กับผู้ชำนาญที่เก่งเหล่านี้ ผู้ประพันธ์ดนตรี จุง แจอิล ของเราเคยสร้างผลงานในเรื่อง “Parasite” และ “Okja” ร่วมกับผม นี่เป็นเรื่องที่ 3 ที่เราได้ร่วมงานกัน มันเลยเป็นโอกาสที่ได้สำรวจความคุ้นเคยเดิมในพื้นที่ใหม่ แคทเธอรีน จอร์จ ก็เป็นเพื่อนร่วมงานอย่างยาวนานของเรา เราร่วมงานในเรื่อง  “Snowpiercer” และ “Okja” มาด้วยกัน เธอเข้าใจตัวละครได้ไมเหมือนใคร เวลาเห็นเธอสวมชุดต่างๆ จึงเป็นเรื่องที่สนุกได้ตลอด

ธีมที่มักจะพบในผลงานของคุณคือเรื่องการสำรวจ การเสียดสี ความไม่เสมอภาค ความเจ้าเล่ห์ที่มีอยู่บนโลกของเรา… การส่องแสงสว่างในมุมที่มีเรื่องทุจริต คุณอยากเล่าอะไรถึงเรื่องเหลานั้นไหม และมันช่วยหล่อหลอมการถ่ายทอดเรื่องราวของคุณได้อย่างไรในเรื่องนี้?

พง จุน โฮ : ผมไม่ได้สร้างหนังขึ้นมาเพื่อเสียดสีการเมือง ผมไม่อยากให้หนังเป็นแค่เครื่องมือการเผยแพร่ ผมพยายามสร้างหนังที่มีความงดงามและสนุกนแบบของตัวเอง เรื่อง “Mickey 17” คือส่วนหนึ่งจากการพยายามนั้น แต่ผมคิดว่าทุกสิ่งที่เกิดขึ้นกับมิกกี้ ทั้งสภาพสถานการณ์ การถูกปฏิบัติอย่างที่เห็นในเรื่องล้วนเกี่ยวข้องกับการเมืองในตัวมันเอง ประเด็นสำคัญคือเราเคารพและปฏิบัติต่อมนุษย์กันอย่างไร มันไม่ใช่แค่แบ่งแยกไปที่เรื่องการเมืองในเรื่องอย่างเดียว หากคุณเห็นการดิ้นรนของ มิกกี้ 17 และ มิกกี้ 18 ที่ต้องฝ่าฟัน คุณจะเข้าใจโดยธรรมชาติว่าเกี่ยวข้องกับการเมือง

ในส่วนของการถ่ายทำและลำดับภาพ มีการเตรียมเรื่องสตอรี่บอร์ดและการวางคอนเซปต์เยอะมาก จากนั้นคุณแค่ถายทำการแสดงที่จำเป็นในฉากนั้น ไม่รวมในส่วนของเพิ่มขยาย คุณช่วยเล่าถึงเทคนิคนั้นให้ฟังหน่อยได้มั้ย และคุณเตรียมการแสดงแบบนี้ได้อย่างไร?

พง จุน โฮ : ครับ ผมหลงใหลในสตอรี่บอร์ดของตัวเองกับพวกภาพวาดมากเลยครับ เป็นผลงานที่ทุ่มเทอย่างหนักทั้งทางกายและใจ แต่ผมไม่สามารถสร้างหนังขึ้นมาได้หากไม่มีมัน ผมต้องมีภาพฉากต่างๆ ให้เห็นเพื่อความอุ่นใจ จากนั้นค่อยถ่ายทำจริง พอผมสร้างสตอรี่บอร์ดเสร็จเรียบร้อย โดยส่วนตัวแล้วผมจะรู้สึกว่าภาพยนตร์เสร็จร้อยบร้อยไปด้วย สตอรี่บอร์ดของผมค่อนข้างตรงตามฉากที่กำหนดเอาไว้ และมีการกำหนดทิศทางของกล้องด้วย ผมค่อนข้างจะถ่ายทำให้ตรง 99% สุดท้ายแล้วภาพยนตร์จะไม่ต่างจากสตอรี่บอร์ดเลย แต่ในส่วนการแสดงของนักแสดง ผมจะเปิดโอกาสให้ได้มากที่สุด ผมเปิดรับการแสดงสดจากนักแสดงเสมอ มันจะมีความแตกต่างกัน ผมมีตำแหน่งการจัดวางกล้องและเฟรมที่ตรงกับสตอรี่บอร์ดของผม แต่ผมจะบอกนักแสดงให้ทำตัวสบายๆ และมีอิสระได้อย่างเต็มที่ มันดูขัดแย้งกันแต่นั่นคือการทำงานของผม

คุณช่วยเล่าเกี่ยวกับโทนเรื่องและความสวยงามในหนังให้ฟังหน่อยครับ มีอะไรบ้างที่คุณทำสำเร็จในเรื่อง “Mickey 17” อย่างที่ไม่เคยทำมาก่อน?

พง จุน โฮ : โดยรวมแล้วรายละเอียดจะคล้ายกับเรื่องที่ผมเคยสร้างมาก่อน แต่ความจริงแล้วนี่เป็นครั้งแรกที่ผมได้เจาะลึกถึงเรื่องความโง่เขลาเบาปัญญาของมนุษย์ และความโง่นั้นทำให้พวกเขาดูยิ่งน่ารักขึ้นขนาดไหน ผู้คนมักจะคอยพูดแต่หนังเรื่องนี้มีความอบอุ่นขนาดไหน เปรียบเทียบกับผลงานของผมที่ผ่านมา หนังของผมมักได้รับแต่คำวิจารณ์ที่รุนแรงเสมอ อาจเป็นเพราะผมอายุมากขึ้นด้วย แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องแย่ที่ได้ยินเสียงตอบรับใหม่ๆ เหล่านี้ นี่คือหนังไซไฟที่ผู้คนเดินทางไปยังดาวเอเลี่ยน มียานอวกาศและทุกอย่าง แต่เป็นเรื่องเกี่ยวกับคนที่งี่เง่าทั้งหลาย มันสนุกมากครับ ไมใช่หนังอวกาศฟอร์มยักษ์ที่ผู้คนไล่ยิงเลเซอร์กัน เกี่ยวกับพวกขี้แพ้งี่เง่ามากกว่า [หัวเราะ] ในหนังเต็มไปด้วยพวกคนงี่เง่าทั้งนั้น

เนื้อเรื่องเกิดขึ้นในโลกอนาคตที่พวกเราน่าจะไม่มีใครอยากอยู่ คุณช่วยเล่าถึงเรื่องราวนี้ เกี่ยวกับโลก บรรยากาศที่นั่น และผู้คนจากมุมมองของคุณได้ไหม?

พง จุน โฮ : นั่นไม่ใช่บรรยากาศของโลกที่เสื่อมสลาย แต่มันเป็นโลกที่แห้งแล้ง ทุกคนพากันหนีหายจากไป นั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้นทุกวัน พวกเขาขึ้นยานอวกาศที่เหมือนเที่ยวบินจากแอลเอสู่นิวยอร์ก ไม่ได้มีการอพยพกันมากขนาดนั้น ในหนังจะให้บรรยากาศที่สมจริง มีการเดินทางจากโลกสู่ดาวดวงอื่นได้เหมือนเป็นทางเลือกทั่วไป ผู้คนในเรื่องนี้ต่างพากันเดินทางอย่างไร้จุดหมาย มีแต่ความอ้างว้าง ไม่มีครอบครัวแต่พวกเขายังตามหาความรัก นี่เป็นหนังเกี่ยวกับเรื่องราวความรักระหว่างมิกกี้กับนาชาด้วย ซึ่งเป็นมุมของผู้คนตามหาความสัมพันธ์ที่เป็นส่วนสำคัญของเรื่องราว

หนังเรื่องนี้ได้รับความสนใจและสร้างความตื่นเต้นให้แฟนๆ จำนวนมาก ทำไมคุณคิดว่าจะครองใจผู้ชมได้และคาดหวังว่าผู้ชมจะรักอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้?

พง จุน โฮ : อย่างแรกเลย [หัวเราะ] โรเบิร์ต แพททินสัน เป็นนักแสดงที่มีเสน่ห์มาก ผมคิดว่านั่นคือสิ่งที่เรียกความสนใจให้ผู้คนได้ ผมมไม่ได้พูดเล่นนะ เราจะเห็นอีกด้านของเขาในเรื่องนี้ เป็นด้านที่เราไม่เคยเห็นจากเขา และมีการผสมผสานกันอย่างลงตัวทั้งเนื้อเรื่องและภาพรวม เป็นส่วนหนึ่งที่ดีมาก นี่คือหนังไซไฟแต่มีความตลกและเกี่ยวกับเรื่องราวของมนุษย์ ผมหวังว่าผู้ชมจะสนุกกับสิ่งนั้น และเมื่อทุกคนกลับไปบ้านหลังจากได้ดูหนัง ผมหวังว่าพวกเขาจะมีช่วงเวลาได้คิดว่าอะไรทำให้พวกเรามีความเป็นมนุษย์ เราต้องทำอะไรเพื่อคงความเป็นมนุษย์ อย่างน้อยก็คิดสัก 3 นาที [หัวเราะ]

ทำไมพวกเขาต้องดูหนังบนจอยักษ์พร้อมระบบเสียงที่ดี?

พง จุน โฮ : เราอยู่ในยุคของสตีมมิ่ง แต่มีบางสิ่งที่เราหาได้จากเวลาที่ดูหนังบนจอยักษ์เท่านั้น แน่นอนว่าบนจอยักษ์เหมาะสำหรับการชมภาพที่น่าตื่นตาและสิ่งมีชีวิตต่างๆ แต่ผมคิดว่ามันเป็นสัมผัสที่มีพลังในการดูการแสดงออกอย่างทุ่มเทของนักแสดง สีหน้าของมนุษย์ที่มาจากดินแดนเดิมของตัวเอง อย่างที่ผมเกริ่นไปว่าเรามีนักแสดงที่มีฝีมือ ร็อบ, มาร์ค รัฟฟาโร, โทนี่ คอลเลต์, สตีเวน หยวน, นาโอมี แอ็คกี้ และนักแสดงทุกคนถ่ายทอดการแสดงที่เข้มข้นออกมา นันคือสิ่งที่เหมาะสำหรับการชมบนจอยักษ์ ร็อบ แพททินสั บนจอไอแมกซ์ มันคือประสบการณ์ที่ดีเยี่ยมมาก

เขากำลังจะตาย เพื่อช่วยคนทั้งโลก เมื่อคนเก่าจากไป คนใหม่ก็แค่พริ้นต์ออกมา พบกับภารกิจสุดห่วยของมนุษย์ใช้แล้วทิ้งใน “Mickey 17 - มิกกี้ 17” สัมผัสประสบการณ์ความตื่นเต้นแบบเต็มพิกัด 6 มีนาคม ในโรงภาพยนตร์ ทั้งระบบปกติ 4DX  ScreenX และเต็มตามากกว่าที่เคยในระบบ IMAX 

 

 

คนเก่าจากไป คนใหม่ก็แค่พริ้นต์ออกมา ‘โรเบิร์ต แพททินสัน’ เป็น ‘มิกกี้’ กับภารกิจสุดห่วยของมนุษย์ใช้แล้วทิ้งใน “Mickey 17” ผลงานการกำกับและเขียนบทเรื่องล่าสุดของ ‘พง จุน โฮ’ จาก Parasite