Aquaman and the Lost Kingdom : ส่งท้ายจักรวาล DCEU ด้วยความบันเทิงแบบเต็มสูบ นี่ไม่ใช่ผลงานที่เพอร์เฟคสนุกใช้ได้ | Film to Watch Short Review

Aquaman and the Lost Kingdom : ส่งท้ายจักรวาล DCEU ด้วยความบันเทิงแบบเต็มสูบ นี่ไม่ใช่ผลงานที่เพอร์เฟคสนุกใช้ได้ | Film to Watch Short Review

หลังพลิกโฉมเจ้าสมุทรสายมีมที่ใครๆ ต่างก็ล้อเลียนพลังพูดกับปลาและการขี่ม้าน้ำของเขาในคอมมิกให้กลายเป็นซูเปอร์ฮีโร่สุดเท่บนแผ่นฟิล์ม (ถึงกระนั้นก็ยังแอบเป็นตัวฮายิงมุกอยู่ดี) เริ่มตั้งแต่การปรากฏตัวสั้นๆ ใน Batman v Superman: Dawn of Justice (2016) มีบทบาทสำคัญใน Justice League (2017) และมีผลงานเดี่ยวอย่างเป็นทางการอย่าง Aquaman (2018) พ่วงด้วยการเป็นภาพยนตร์ที่ทำรายได้สูงสุดตลอดกาลของ จักรวาล DCEU ทางผู้กำกับและโปรดิวเซอร์มากวิสัยทัศน์ ‘เจมส์ วาน’ พร้อมด้วย ‘เจสัน โมโมอา’ จึงกลับมาสานต่อเรื่องราวของพวกเขาอีกครั้งใน “Aquaman and the Lost Kingdom อควาแมน กับอาณาจักรสาบสูญ”

สำหรับภาพรวมของ Aquaman and the Lost Kingdom นี่ถือเป็นส่งท้ายจักรวาล DCEU ด้วยความบันเทิงแบบเต็มสูบ ทั้งงานสร้างที่ยิ่งใหญ่ ความแฟนตาซีและเรื่องราวแบบคอมมิกจ๋า โลกใต้ทะเลชวนตื่นตระการตา และฉากแอคชั่นในช่วงท้ายที่บู๊กันได้มันส์ถึงใจ ในฐานะผู้กำกับ เจมส์ วาน คือคนที่รู้ดีว่าคนดูชมชอบอะไร เขาก็เสิร์ฟให้แบบจัดเต็มภายใต้ธีมหลักอย่างความสัมพันธ์ในครอบครัว-พี่น้อง ซึ่งคลายปมไม่ยุ่งยาก ย่อยง่ายไม่ซับซ้อน แต่ก็สอดแทรกความคมเข้มของประเด็นวิกฤตโลกร้อนและผลกระทบของมันได้อย่างแยบยล บาลานซ์ความสนุกและนำเสนอออกมาได้ดีเลยทีเดียว  ตอบโจทย์ความเป็น Filmed For IMAX อย่างแท้จริง

ขณะเดียวกัน เจมส์ วาน ก็ยังคงไม่ทิ้งลายเซ็นระทึกขวัญที่เขาถนัด ซึ่งระหว่างทางมีการหยอดบรรยากาศชวนลุ้นที่แฟนๆ ของพี่เขาอาจคิดถึง ให้ได้พอตื่นเต้นอยู่เป็นระยะ

ด้านเคมี ‘อาร์เธอร์-ออร์ม’ ที่ถือเป็นหัวใจหลักของเรื่อง ‘เจสัน โมโมอา’ ในบท อาร์เธอร์ เคอรี่ / อควาแมน ยังคงความบ๊อง ความฮา ความขี้เล่น ความสมองกล้ามยังคงจัดเต็ม เสริมด้วยความซับซ้อนทางอารมณ์ที่เพิ่มมากขึ้นในฐานะคุณพ่อ หัวหน้าครอบครัว และกษัตริย์แห่งแอตแลนติส แม้ภาพลักษณ์จะดูไม่เอาไหน แต่นั่นคือเปลือกที่เขาสร้างขึ้นเพื่อปกปิดความอ่อนไหวต่างๆ

ขณะที่ ‘แพทริค วิลสัน’ ในบท ออร์ม สานต่อความเป็นสายเลือดผู้ครองบัลลังก์ที่น้อมรับในผลการกระทำที่ผิดพลาด พร้อมไถ่บาปด้วยการร่วมมือกับพี่ชายร่วมมารดา เราจะได้เห็นมิติทางความคิดของตัวละครนี้เพิ่มมากขึ้นเช่นกัน 

ซึ่งความสัมพันธ์พี่น้อง-คู่หู-คู่กัด เคมีความ ‘โบรแมนซ์’ ที่ถือเป็นหนึ่งในคีย์หลักของเรื่องและนำเสนอออกมาได้ว่าน่าสนใจดีครับ ผ่านการผจญภัยหลุดโลกที่โหดมันส์ฮาแบบเพลินๆ อาร์เธอร์กล้าที่เผยด้านอ่อนไหวเมื่ออยู่กับน้องชาย ขณะที่ออร์มก็พร้อมเปิดใจโอบรับตัวตนของพี่ชายเพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้ทั้งคู่ต่างเรียนรู้และเติบโตไปพร้อมกัน ติดอย่างเดียวตรงที่ความสัมพันธ์ของพวกเขาถูกขยี้น้อยไปหน่อย พอถึงจุดไคลแม็กซ์มันก็เลยอิมแพ็กน้อยกว่าที่ควรจะเป็น

สรุปแล้ว Aquaman and the Lost Kingdom คือผลงานส่งท้าย DCEU ที่ใช้ความบันเทิงเป็นตัวนำ ดราม่าเป็นตัวตาม อาจไม่ใช่ผลงานที่เพอร์เฟค แต่ถ้าใครชอบความสนุกแบบป๊อบคอร์นระดับบล็อกบัสเตอร์ก็น่าจะเพลิดเพลินได้ไม่ยากครับ

 

 

Aquaman and the Lost Kingdom ส่งท้ายจักรวาล DCEU ด้วยความบันเทิงแบบเต็มสูบ กับเคมีพี่น้อง ‘โบรแมนซ์’ ผจญภัยที่เห็นได้ไม่บ่อยนักในภาพยนตร์ซูเปอร์ฮีโร่ นี่ไม่ใช่ผลงานที่เพอร์เฟค แต่ภาพรวมความสนุกก็ทำให้เรามองข้ามมันได้