The Marsh King’s Daughter : ปั่นประสาทด้วยเกมล่าสุดระทึก เกมทวงชีวิตจากความสัมพันธ์สุดดาร์ก | Film to Watch Short Review
The Marsh King’s Daughter คือผลงานภาพยนตร์แนวดราม่า-ทริลเลอร์ภาย ใต้วิสัยทัศน์ของ ‘นีล เบอร์เกอร์’ ดัดแปลงมาจากนวนิยายระดับเบสต์เซลเลอร์ในปี 2017 ของนักเขียน ‘คาเรน ดิออนน์’ ว่าด้วยเรื่องราวการต่อสู้เพื่อทวงคืนชีวิตไปพร้อมกับการปกป้องครอบครัว ระหว่างหญิงสาวที่ชีวิตเต็มไปด้วยบาดแผลทางใจจากอดีต และอาชญากรโคตรอำมหิต ชายซึ่งครั้งหนึ่งเธอเคยเรียกเขาว่า ‘พ่อ’
The Marsh King’s Daughter คือภาพยนตร์ที่มีจังหวะการเล่าเรื่องแบบค่อยเป็นค่อยไป เก็บเล็กผสมน้อย ไม่ได้หวือหวอ กึ่งๆ จะสโลว์เบิร์นแต่ก็กระชับและชวนติดตามอยู่ไม่น้อย อีกทั้งยังโดดเด่นด้วยบรรยากาศที่ดูไม่น่าไว้วางใจ อันมีที่มาจากความสัมพันธ์สุดดาร์กของ ‘เฮเลนา’ (รับบทโดย เดซี ริดลีย์) หญิงสาวที่แม้ปัจจุบันเธอจะมีครอบครัวที่สมบูรณ์พร้อม แต่เรื่องราวในวันวานก็ยังคงตามติดชีวิตในฐานะบาดแผลทางใจ จากการที่ ‘มาร์ชคิง’ (รับบทโดย เบน เมนเดลโซห์น) พ่อที่เธอเคยเทิดทูนสุดหัวใจ คือทรชนอำมหิตที่จับตัวแม่ของเธอมาข่มขืนและกักขัง ณ กระท่อมร้างกลางป่านานกว่า 12 ปี
แม้ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ขาดสะบั้นนับตั้งแต่วันที่เขาถูกจับกุมตัว แต่เมื่อเฮเลนาได้ยินข่าวว่ามาร์ชคิงแหกคุกหลบหนีเจ้าหน้าที่ได้สำเร็จ สิ่งนี้มันได้ทริกเกอร์ชีวิตของเธอให้กลับมาหวาดระแวงขึ้นอีกครั้ง และนับตั้งแต่วินาทีนั้น บรรยากาศภาพรวมของ The Marsh King’s Daughter ก็ถูกยกระดับจากความไม่น่าไว้วางใจ ให้กลายเป็นความปั่นประสาทแบบขั้นสุด
เพราะไม่ว่าจะเป็นทักษะการแสดง มุมกล้อง เกรดสีที่ใช้ ดนตรีประกอบ หรือแม้กระทั่งการตัดต่อ ทุกภาคส่วนที่ว่าต่างประสานกันได้อย่างลงตัว ส่งผลให้ภาพที่ปรากฏขึ้นบนจอ มันชวนให้รู้สึกเหมือนกับว่า เฮเลนาคือกวางน้อยของมาร์ชคิง คือเหยื่อที่กำลังโดนนายพรานปั่นประสาทเป็นระยะ เพื่อกระตุ้นความหวาดกลัวก่อนออกล่าอย่างจริงจัง
ตัดมาที่พาร์ทประเด็นดราม่าของเรื่อง แม้ความสัมพันธ์ในครอบครัวที่สุดแสนจะดำมืดนี้ ระหว่างเฮเลนา มาร์ชคิง และแม่ของเธอ อาจไม่ได้ถูกเน้นหนักหรือขยี้มากนัก แต่ถึงกระนั้นก็ชวนให้รู้สึกว่ามันหนักหน่วงอยู่ไม่น้อย ทรอม่าในวันวานยังคงส่งผลกระทบต่อชีวิตของเฮเลนาเรื่อยมา จนกระทั่งมาร์ชคิงเริ่มแสดงตัวออกล่า สัญชาตญาณความเป็นแม่จึงกระตุ้นเตือนให้เธอต้องปกป้องครอบครัวอย่างจริงจัง เทิร์นเหยื่อให้กลายเป็นผู้ล่าเต็มตัม พร้อมการเผชิญหน้าผู้เป็นพ่อเพื่อทวงคืนชีวิตคืนในท้ายที่สุด
สรุปภาพรวมของ The Marsh King’s Daughter นี่ไม่ใช่งานที่หวือหวออะไร มีดราม่าเข้มประมาณนึงกับประเด็นที่หนักอึ้ง แต่ก็ไม่ได้ลงลึกถึงฉากเรียกน้ำตา มีตัวละครที่ค่อยๆ พัฒนาท่ามกลางบรรยากาศชวนหวาดระแวง ปั่นประสาท ผ่านเกมล่าทวงชีวิตที่พอเครื่องติดปุ๊ป รับรองว่าลุ้นระทึกและชวนติดตามอย่างแน่นอน