คุยกับ “แซค เอฟรอน” กับการทำงานสุดท้าทาย กลางทะเลทรายร้อนระอุ ใน “GOLD ทองกู”

คุยกับ “แซค เอฟรอน” กับการทำงานสุดท้าทาย กลางทะเลทรายร้อนระอุ ใน “GOLD ทองกู”

“GOLD ทองกู” คือ ภาพยนตร์แอ็กชันเขย่าขวัญที่มีฉากหลังเป็นโลกทะเลทรายสุดอ้างว้างในอนาคตอันใกล้ เรื่องราวของชายเร่ร่อนสองคนที่บังเอิญค้นพบก้อนทองที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่มีมาระหว่างเดินทางฝ่าทะเลทราย เมื่อความโลภเข้าครอบงำจิตใจ ทั้งคู่ร่วมวางแผนสกัดทองก้อนนี้ ซึ่งฝ่ายหนึ่งต้องเดินทางตามหาอุปกรณ์ที่จำเป็น ส่วนอีกฝ่ายต้องอยู่เฝ้าไม่ให้ใครมาชิงมันไป เขาต้องเผชิญกับสภาพอากาศไร้ปราณีของทะเลทราย ฝูงหมาป่าอันตราย และคนแปลกหน้าที่พร้อมช่วงชิงทองของเขาไปทุกเมื่อ โดยที่ไม่รู้เลยว่าจะรอดจนกว่าเพื่อนของเขาจะกลับมาหรือเปล่า ซึ่ง GOLD ได้ “แซค เอฟรอน” มารับบทนำ และ “แอนโทนี่ เฮเยส” รับหน้าที่ผู้กำกับ เขียนบท และร่วมแสดง

คุณอธิบายถึงหนังเรื่อง Gold อย่างไร

แซค เอฟรอน : Gold เป็นเรื่องราวของความยั่วยวน ความโลภของคนที่เราต่างมีไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง เพื่อไขว่คว้าสิ่งที่ต้องการมาครอบครอง ตัวละครของผมถลำลึก ฝ่าฟันสภาพกาศที่เลวร้ายมาก เพียงเพื่อจะได้ครอบครองในสิ่งที่ตัวเขาคิดว่าต้องการ

อะไรที่ทำให้คุณหลงใหลในหนังเรื่องนี้

แซค เอฟรอน : ตอนที่ผมอ่านบท ผมรู้สึกหลงใหลในความแตกต่างของหนัง มันแทบไม่มีบทสนทนาอยู่เลย แต่ผมตกหลุมรักมันอย่างจัง คอยจินตนาการถึงคนที่เราไม่ได้รู้จักเท่าไหร่นัก ที่ต้องตัดสินใจที่ซับซ้อนตลอดทั้งเรื่อง และต้องปรับตัวตลอดเวลาเพื่อเอาตัวรอด

มันทำให้ผมคิดถึงหนังคาวบอยเก่า ๆ เรื่องนึง มันมีความคลาสสิคแฝงอยู่ มันอาจไม่มีบทสนทนาเยอะนัก และเราไม่ได้รู้เรื่องราวภูมิหลังของตัวละครเท่าไหร่ ซึ่งเปิดให้ผู้คนตีความอย่างกว้างขวาง เป็นสิ่งที่ผมชอบมาก ๆ มันเป็นหนังที่ซับซ้อน และเฉลียวฉลาดมากในเวลาเดียวกัน

ผมยังชอบเรื่องราวการเอาตัวรอด และความเรียบง่ายของการดูคน ๆ นึงพยายามขบคิดว่าจะใช้ชีวิตท่ามกลางธรรมชาติอย่างไรให้รอด ด้วยองค์ประกอบทั้งหมดนี้ ทำให้ผมสนใจหนังเรื่องนี้มาก ๆ ครับ

พอจะบอกอะไรเกี่ยวกับตัวละครของคุณได้บ้าง

แซค เอฟรอน : เราแทบไม่รู้อะไรเกี่ยวกับตัวเขาเลย ค่อนข้างชัดเจนว่าเมื่อเขาเดินทางมาถึงที่นี่ เขาก็พยายามมองหาการเริ่มต้นใหม่ และเขาเดินทางไปยังที่ ๆ ห่างไกลและเข้าถึงไม่ได้ เพื่อจะได้เริ่มต้นใหม่อีกครั้ง

ทันทีที่เขาออกจากสถานีรถไฟ ในช่วงต้นของเรื่อง เขาก็อยู่ในหัวของตัวเองอย่างเดียว ผมไม่คิดว่าเขาเตรียมพร้อมมาเจอ เขาเป็นคนขี้อาย เราไม่รู้จริง ๆ ว่าเขามาจากไหน และเขาพยายามจะไปไหน แต่ชัดเจนว่าเขามีบาดแผลจากอดีต และถ้าเขาไม่กำลังพยายามหนีจากอดีต ก็กำลังอยากจะเริ่มต้นใหม่

การถ่ายทำในช่วงฤดูร้อน กลางทะเลทรายของเซาธ์ออสเตรเลียเป็นอย่างไรบ้าง

แซค เอฟรอน : สุดจะเหลือเชื่อเลยครับ! ผมไม่เคยไปที่ไหนแบบนี้มาก่อน บอกตามตรงเลย ผมไม่รู้ว่าจะคาดหวังอะไร แต่มันสวยและน่าตื่นตะลึงแบบเหลือเชื่อจริง ๆ แต่ก็ยังว่างเปล่า แห้งแล้ง และโหดร้ายเหมือนกัน การถ่ายหนังในสถานที่ห่างไกลมักจะมาพร้อมกับความยากลำบาก แต่ในขณะเดียวกันก็มีเรื่องง่าย ๆ เกิดขึ้นด้วย ถ้าตัดสินใจลงหลักปักฐานเมื่อไหร่ จะไม่มีทางติดต่อสื่อสารกับโลกภายนอกได้เลยครับ ไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ด้วยซ้ำ ไม่มีไวไฟ ไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวก ผมชอบนะเพราะมันได้ตัดขาดกับโลกภายนอกจริง ๆ เพื่อจะได้มีสมาธิกับงานที่ทำ มันสนุกจริง ๆ ครับ

องค์ประกอบต่าง ๆ ยังโหดไม่เบาด้วย ผมคิดว่านี่น่าจะเป็นหนังที่มีสภาพแวดล้อมการถ่ายทำที่หนักหนาสาหัสสุดเท่าที่ผมเคยมีส่วนร่วม มันร้อนทั้งวันทั้วคืน ดวงอาทิตย์แผดเผา พื้นทรายก็ร้อนมาก แต่ก็มีความท้าทายอื่น ๆ อีก เช่น เราเจอกับพายุทรายลูกใหญ่ ซึ่งโชคดีมาก ๆ ที่เราเก็บภาพเอามาใช้ในหนังเรื่องนี้ได้

การทำหนังเรื่องนี้ เราได้ทดสอบขีดความสามารถของตัวเอง มันผลักเราให้ไปสุดถึงลิมิต เราถ่ายทำท่ามกลางสภาพอากาศสุดโหดที่สุดที่ผมเคยเจอ และมันสุดยอดมาก ๆ เลยครับ!

การร่วมงานกับ แอนโทนี่ เฮเยส เป็นอย่างไรบ้าง

แซค เอฟรอน : แอนโทนี่ น่าอัศจรรย์มากครับ ผมปลื้มมาก ๆ ที่ได้ทำงานกับคนที่เขียนบทแล้วรู้ดีถึงสิ่งที่มีอยู่อย่างลึกซึ้ง และทุ่มเททุกอย่างในหนังเรื่องนี้ไปพร้อมกับทุก ๆ คน

การดูเขาทำงานเป็นอะไรที่เจ๋งมากครับ ผมได้เรียนรู้อะไรเยอะมาก และเขายังให้แรงบันดาลใจผมเพื่อผลักดันตัวเองด้วย ไม่เพียงแค่เป็นนักแสดง แต่ยังคิดถึงว่าการเป็นคนเขียนบทและกำกับต้องเป็นอย่างไร การดูเขาแก้ปัญหาต่างๆ ขณะที่สวมชุดสวมวิญญาณตัวละครและกำกับหนังไปพร้อมกันถือว่าสนุกทีเดียวครับ

ผมว่านี่น่าจะเป็นหนึ่งในสิ่งที่เจ๋งมาก ๆ ของเขาเลย ซึ่งบ่งบอกอะไร ๆ ได้เยอะทีเดียวครับ

แล้วการทำงานกับ ซูซี่ พอร์เตอร์ ล่ะ

แซค เอฟรอน : ซูซี่ เป็นคนน่ารักและทำงานด้วยสนุกมากครับ ตัวละครที่เธอเล่น มีความน่าสนใจจริง ๆ เธอรับบทเป็น 2 ตัวละครที่พาหนังเรื่องนี้ไปในจุดที่ผมไม่ได้คาดคิดมาก่อน ไปสู่สถานที่ซึ่งสวยงามมาก ๆ

ซูซี่คือมืออาชีพตัวจริง และผมคิดว่าบางที เธอพาตัวละครเดินทางไปไกลสุดเท่าที่เธอจะสามารถพาไปได้เลยทีเดียว

ด้วยเหตุนี้ มันเลยสนุกมาก ๆ ครับที่ได้ดูเธอทำงาน และทำงานร่วมกับเธอ เธอเป็นคนที่น่ารักมาก ๆ นอกจอหนังเรื่องนี้ครับ

คุณคาดหวังว่าคนดูจะได้อะไรกลับไปจากหนังเรื่องนี้

แซค เอฟรอน : ผมคิดว่าหนึ่งในสิ่งที่น่าสนใจที่สุดในหนังเรื่องนี้ และผมหวังว่าคนดูจะสัมผัสได้คือธรรมชาติมีวิธีในการทวงคืน และปรับเปลี่ยนหลายสิ่งหลายอย่างในโลกนี้ให้กลับสู่สมดุล

ถ้าเรายังปรารถนาในสิ่งต่างๆ ตามความเป็นมนุษย์ ทั้งเงินตรา อำนาจ และสิ่งต่างๆ สุดท้ายแล้วเราก็จะเป็นฝ่ายกอบโกยสิ่งต่าง ๆ จากโลกนี้มากขึ้นเรื่อย ๆ

ดังนั้น ผมหวังว่าเราจะได้เรียนรู้เพื่อเป็นหนึ่งเดียวกันกับโลกใบนี้ เป็นหนึ่งเดียวกันกับธรรมชาติ และใช้ชีวิตท่ามกลางสรรพสิ่งทั้งหมด แทนที่จะพยายามหยิบฉวยจากมันจนมากเกินไป

สิ่งที่ผมหวังว่าคนดูจะได้เรียนรู้จากหนังเรื่องนี้ คือสิ่งที่ได้เรียนรู้จาก คนพื้นเมืองที่ออสเตรเลียจริง ๆ นั่นคือ…ถ้าเรายังไม่หยุดท้าทายธรรมชาติ เพื่อความร่ำรวยมั่งคั่ง โลกทั้งใบก็จะเอาคืน สภาพแวดล้อมของโลกจะเอาคืน ผู้กระทำชำเราจะถูกกำจัด ทุกสิ่งทุกอย่างจะหมุนเวียนตามวัฏจักร แล้วกลับมายังจุดเดิม นี่คือคำทำนายของคนพื้นเมืองที่นี่ครับ

“GOLD ทองกู” 28 เมษายน ในโรงภาพยนตร์

 

คุยกับ “แซค เอฟรอน” กับการทำงานสุดท้าทาย กลางทะเลทรายร้อนระอุ ใน “GOLD ทองกู”