“โรแลนด์ เอมเมอร์ริช” คัมแบ็กโลกไซไฟ ทุ่มงบมโหฬาร กับ “Moonfall วันวิบัติจันทร์ถล่มโลก”

“โรแลนด์ เอมเมอร์ริช” คัมแบ็กโลกไซไฟ ทุ่มงบมโหฬาร กับ “Moonfall วันวิบัติจันทร์ถล่มโลก”

“Moonfall วันวิบัติจันทร์ถล่มโลก” ผลงานเรื่องล่าสุดของ โรแลนด์ เอ็มเมอริช ผู้กำกับที่ได้ชื่อว่าเป็นเจ้าพ่อหนังไซไฟบล็อกบัสเตอร์ซึ่งเคยมีผลงานการันตีอย่าง Independence Day, 2012 และ The Day After Tomorrow ซึ่งนอกจากความอลังการแล้ว ผลงานของเขายังเต็มไปด้วยความสนุก เข้าถึงง่าย มีตัวละครที่น่าเอาใจช่วย และธีมเรื่องที่มอบความหวังให้พลังชีวิตที่ยอดเยี่ยม

และในครั้งนี้เขากลับมาล้างโลกอีกครั้งพร้อมกับโปรเจกต์ถล่มโลกที่ได้ทุนสร้างสูงถึง 140 ล้านเหรียญสหรัฐ และได้นักแสดงชื่อดังมาร่วมภารกิจนี้นำโดย ฮัลลี เบอร์รี, แพททริก วิลสัน, โดนัลด์ ซูเธอร์แลนด์, ไมเคิล พีน่า, ชาร์ลี พลัมเมอร์ และ จอห์น แบรดลีย์ โดย Moonfall คือภาพยนตร์ไซไฟที่เป็นลูกผสมระหว่าง Independence Day และ 2012 ที่บอกเล่าเรื่องราวของทีมมนุษย์อวกาศที่ถูกส่งไปกู้วิกฤติหลังจากที่ดวงจันทร์โดยดาวเคราะห์น้อยชน จนวิถีโคจรมุ่งตรงมายังโลก และทำลายล้างทุกชีวิต เมื่อเวลาของมนุษยชาติเริ่มนับถอยหลัง โจ ฟาวเลอร์ (ฮัลลี เบอร์รี) เจ้าหน้าที่ระดับสูงของ NASA และอดีตมนุษย์อวกาศ อาจเป็นกุญแจสำคัญในการอยู่รอดของมวลมนุษย์แต่ทว่ามีแค่เพียง ไบรอัน ฮาร์เปอร์ (แพทริก วิลสัน) มนุษย์อวกาศที่เคยร่วมงานกับเธอ และ เค.ซี. เฮาส์แมน (จอห์น แบรดลีย์) นักทฤษฏีสมคบคิด เท่านั้นที่เชื่อมั่นในตัวเธอ เหล่าคนกล้าต้องเดินทางออกไปยังอวกาศในภารกิจชี้เป็นชี้ตาย เพื่อปกป้องคนพวกเขารักและทุกชีวิตบนโลก

ที่มาของ Moonfall คืออะไร คุณได้แรงบันดาลใจมาจากไหน?

โรแลนด์ เอ็มเมอริช : ก่อนอื่นเลยคงต้องเกริ่นว่าผมเป็นคนที่คลั่งไคล้ในทฤษฏีสมคบคิดอย่างมาก แม้ว่าจะไม่เชื่อมันก็ตาม ผมใช้มันเป็นไอเดีย มันเป็นจุดเริ่มต้นของผลงานก่อนหน้าของผมหลายๆ เรื่อง อย่างที่คุณรู้ ผมเคยทำหนังเรื่อง Independence Day ที่ต่อยอดจากตำนานลึกลับของ  51 คุณไม่จำเป็นต้องเชื่อในทฤษฏีสมคบคิดต่างๆ แต่คุณปฏิเสธไม่ได้หรอกว่ามันน่าสนใจเอามาก ๆ

เมื่อเจ็ดปีก่อน ผมได้อ่านเกี่ยวกับทฤษฏี Hollow Moon จากการการอ่านหนังสือเรื่อง Who Built the Moon?  โดยคริสโตเฟอร์ ไนท์ และ อลัน บัตเลอร์ มันว่าด้วยแท้จริงแล้วดวงจันทร์ เป็นสิ่งปลูกสร้างขนาดยักษ์ ภายในกลวง โคจรในระบบสุริยะ แสงจากตัวมันส่องสว่างในยามค่ำคืน ผมจินตนาการออกทันทีว่าทฤษฏีนี้มันอาจต่อยอดไปเป็นสิ่งที่อาจจะทำลายเผ่าพันธ์มนุษย์เลยก็เป็นได้ จะเกิดไรขึ้นถ้าดวงจันทร์หลุดวงโคจรและตรงมาที่โลก ในขณะเดียวกันมันเปิดด้านที่เราไม่เคยรู้เกียวกับดวงจันทร์ด้วย ผมคิดว่านั่นเป็นไอเดียที่น่าสนใจ เหมาะกับการเอามาทำหนัง และจะเกิดอะไรขึ้นถ้าจู่ๆ มันหล่นลงมาใส่โลก? ใน MOONFALL มันนำเสนอทฤษฏีดวงจันทร์ที่ต่างกับที่ทุกคนเคยเรียนมา

แม้ว่าทฤษฏีในเรื่องอาจจะดูเพ้อฝันแต่ได้ยินมาว่ารากฐานของมันมาจากเรื่องจริง

โรแลนด์ เอ็มเมอริช : ใช่ครับ ทุกอย่างเริ่มขึ้นในโครงการอพอลโล 11 เมื่อสัญญาณวิทยุขาดหายไปสองนาที ขณะนั้นพวกเขาเห็นแสงวาบขึ้นจากพื้นผิวดวงจันทร์ นั่นเป็นครั้งแรกที่พวกเขาตระหนักได้ว่าพระจันทร์กลวง แม้ว่า NASA เชี่ยวชาญด้านปกปิดความลับมากแบบที่ระดับรองผู้บัญชาการก็ไม่มีทางรับรู้ได้ ถึงอย่างนั้น NASA ให้ความช่วยเหลือพวกเราระหว่างการถ่ายทำอย่างเต็มที่ จนผมเองยังแปลกใจ

คุณพอยกตัวอย่างสิ่งที่ NASA ช่วยสนับสนุนพวกคุณได้ไหม?

โรแลนด์ เอ็มเมอริช : ก็เช่น พวกเขาอนุญาตให้ใช้โลโก้ NASA บนเครื่องแบบ นั่นยกระดับความสมจริงให้หนังขึ้นไปอีก พวกเขายังมอบกล้องถ่ายดวงจันทร์ความละเอียดสูง กล้องนาซ่าบนนั้นคุณภาพระดับท็อป และไฮไลท์สำหรับผมคือพวกเขาให้เรายืมกระสวยอวกาศของจริงใช้ถ่ายทำ นักแสดงของเราได้กดปุ่มปุ่มเดียวกับที่มนุษย์อวกาศตัวจริงเคยกด ในกระสวยที่บินได้จริง เรายังได้  บียาร์นี ทริกาฟสัน อดีตนักบินอวกาศตัวจริง คอยแนะนำว่าต้องทำยังไงบ้าง ไม่ใช่แค่กดปุ่มมั่วๆ  ทุกคนพยายามมอบความสมจริงที่สุดให้ผู้ชม

สามตัวละครหลักรับบทโดยสามนักแสดงที่ไม่น่าจะโคจรมาเจอกันได้ ช่วยเล่าถึงพวกเขาหน่อย

โรแลนด์ เอ็มเมอริช : แน่นอน ทุกคนรู้ว่า ฮัลลี เบอร์รี คือดาราคุณภาพระดับออสการ์ เธอรับบทเป็นตัวละครหญิงแกร่งได้ดี และ โจ ฟาวเลอร์ ก็เป็นผู้หญิงแบบนั้น เธอเป็นผู้อำนวยการ NASA ที่ฉลาดเป็นกรด เธอเป็นผู้หญิงที่อยู่รอดในโลกที่ผู้ชายเป็นใหญ่ได้สบาย ถ้าเธอไม่เจ๋งจริงเธอไม่สามารถขึ้นมาอยู่ระดับแนวหน้าขององค์กรอย่าง NASAได้หรอก เธอเป็นหญิงแกร่ง แถมยังเป็นคุณแม่อีกด้วย เดิมทีตัวละครนี้เป็นผู้ชาย ผมดีใจที่ตัดสินใจเปลี่ยนเป็นผู้หญิง ฮัลลีไม่ได้ทำให้น้ำหนักของตัวละครนี้ลดลงเลยแม้แต่น้อย

ผมกับ แพทริก วิลสัน เคยร่วมงานกันใน Midway ในเรื่องนี้เขารับบทเป็น ไบรอัน ฮาร์เปอร์ อดีตมนุษย์อวกาศ ที่โดน NASA เตะโด่ง เขาเป็นคนเดียวที่เห็นสิ่งที่ซ่อนอยู่ในด้านมืดของดวงจันทร์และรอดมาได้ นั่นทำให้เขาคือกุญแจสำคัญที่จะทำให้มนุษย์รอดจากการสูญพันธุ์ครั้งนี้ได้ เขาขออาสาทำภารกิจกู้โลกร่วมกับฟาวเลอร์ แต่มันไม่ได้ง่ายขนาดนั้นเพราะทั้งคู่มีอดีตด้วยกันมาก่อน มันเหมือนชีวิตของเขาโดนทำลาย เขาเป็นเพียงมนุษย์อวกาศคนเดียวที่สามารถนำยานลงจอดได้โดยไม่มีอุปกรณ์อีเล็กทรอนิคช่วยเหลือแล้วรอดมาได้ เขาเป็นคนที่ใช่สำหรับภารกิจนี้

ผมเป็นแฟนการแสดงของ จอห์น แบรดลีย์ ตั้งแต่เขารับบท แซม ใน Game of Thrones เขารับบทเป็น เคซี เฮาส์แมน นักทฤษฏีสมคบคิดที่ไม่มีใครเชื่อ แต่ทว่ากลับกลายมาเป็นกุญแจสำคัญของภารกิจพิทักษ์โลกครั้งนี้ เฮาส์แมนไม่มีสังคม เขาอยู่อย่างโดดเดี่ยว

สิ่งที่ท้าทายที่สุดของการทำหนังเรื่องนี้คืออะไร?

โรแลนด์ เอ็มเมอริช : การหาวิธีทำให้ดวงจันทร์หล่นใส่โลกแบบมีที่มาที่ไปและเหตุผลรองรับมากที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ มันคือรากฐานของหนังเรื่องนี้ มันเราต้องปรึกษากับนักวิทยาศาสตร์ว่าอะไรจะเกิดขึ้น เราเคยคุยกับคนที่ทำงานที่ Jet Propulsion Laboratory ในพาซาดีน่า สิ่งที่เขาบอกเรามันค่อนข้างน่าสนใจ คือถ้าดวงจันทร์หลุดคงโคจรมันจะค่อยๆ เปลี่ยนวิถีโคจรจากวงกลมเป็นวงรี และค่อยๆ แคบลงเรื่อยๆ จนกระทั่งปะทะ นั่นทำให้เราขนลุกเลยทีเดียว.. อันที่จริงด้วยความที่ดวงจันทร์มีมวลน้อยกว่าโลก 1:100 ทำให้มันอาจจะไม่มีอะไรเกิดอะไรขึ้นเลยด้วยซ้ำ ทางทีมเอฟเฟ็กต์ต้องการเพิ่มความอลังการด้านภาพ เพิ่มมวลมหาศาลให้ดวงจันทร์เพื่อเพิ่มแรงดึงดูดที่กระทำต่อโลก ซึ่งมวลดังกล่าวยังมีผลในด้านพล็อตเรื่องและเป็นสาเหตุที่ทำให้ดวงจันทร์เปลี่ยนวงโคจรตรงมาที่โลก

ความอลังการที่คุณว่าคืออะไร ผู้ชมจะได้เห็นอะไรใน Moonfall บ้าง?

โรแลนด์ เอ็มเมอริช : Moonfall เต็มไปด้วยฉากความโกลาหล ไม่ว่าจะเป็นการที่ผู้คนเป็นพันๆ คน แย่งกันตุนอาการ, เชื้อเพลิง, น้ำ และอ็อกซิเจน และภัยธรรมชาติอย่างฉากแผ่นดินไหว ที่รุนแรงขนาดส่งให้รถบรรทุกขนาด 18 ล้อปลิวเหมือนขนนก, แผ่นดินแยก, คลื่นยักษ์สูงเท่าตึกระฟ้า และพายุหิมะเยือกแข็ง เหมือนเอาทุกเรื่องในจักรวาลโลกาวินาศที่ผมเคยทำมายกระดับความมันส์ขึ้นอีกขั้น

เตรียบนับถอยหลังสู่ภาพยนตร์หายนะล้างโลกฟอร์มยักษ์ผลงานล่าสุดของผู้กำกับ Independence Day และ 2012 กับ “MOONFALL วันวิบัติจันทร์ถล่มโลก”  3 กุมภาพันธ์ นี้ ในโรงภาพยนตร์

 

 

“โรแลนด์ เอมเมอร์ริช” คัมแบ็กโลกไซไฟ ทุ่มงบมโหฬาร จุดปฏิบัติการสะเทือนระบบสุริยะ หยุดมหันตภัยดวงจันทร์ถล่มโลก “Moonfall วันวิบัติจันทร์ถล่มโลก”