สำรวจโลกแห่ง “Dune” ก่อนรับชมมหากาพย์ภาพยนตร์แอคชั่นไซไฟเหนือจินตนาการแห่งยุค

สำรวจโลกแห่ง “Dune” ก่อนรับชมมหากาพย์ภาพยนตร์แอคชั่นไซไฟเหนือจินตนาการแห่งยุค

Dune คือมหากาพย์ภาพยนตร์แอคชั่นไซไฟแห่งยุค จาก Warner Bros. Pictures และ Legendary Pictures ผลงานการกำกับของผู้เข้าชิงรางวัลออสการ์ เดนิส วิลล์เนิฟ จาก Arrival (2016) และ Blade Runner 2049 (2017) โดยดัดแปลงจากมหากาพย์นิยายขายดีในชื่อเดียวกันของ แฟรงค์ เฮอร์เบิร์ต

แฟรงค์ เฮอร์เบิร์ต จรดปากกาบอกเล่าเรื่องราวของ Dune หนึ่งในสุดยอดนิยายอันทรงอิทธิพลแห่งศตวรรษที่ 20 ที่ออกตีพิมพ์ครั้งแรกในปี 1965 ก่อนคว้ารางวัลจากหลากเวทีหลายสำนัก พร้อมเขียนภาคต่อตามออกมาถึง 5 เล่มด้วยกัน ประกอบด้วย Dune Messiah (1969), Children of Dune (1976), God Emperor of Dune (1981), Heretics of Dune (1984) และ Chapterhouse Dune (1985) รวมเป็น Dune Universe ว่าด้วยปฐมบทสงครามแห่งจักรวาลแห่งโลกอนาคต ผสมผสานเกมการเมือง ทรัพยากร ศาสนา วิทยาศาสตร์ เรื่องราวเหนือจินตนาการ และการห้ำหั่นระหว่างสองตระกูลใหญ่ที่ลุกลามไปทั้งจักรวาล

โดยโลกของ Dune” บอกเล่าเรื่องราวในยุคอนาคตกว่าพันปีนับจากนี้ เหล่ามนุษย์ต่างกระจายตัวอยู่อาศัยตามดวงดาวต่าง ๆ ในจักรวาล มนุษย์ใช้ชีวิตท่ามในโลกที่ล้ำหน้าด้วยเทคโนโลยีแต่ไร้ซึ่งปัญญาประดิษฐ์ ผ่านระบบการปกครองแบบจักรวรรดิ โดยมีองค์จักรพรรดิ เหล่าสภาสูง ศาสนา และพ่อค้า คอยคานอำนาจซึ่งกันและกัน

ทางด้านภาพยนตร์เรื่อง Dune นั้น นี่คือปฐมบทแห่งสงครามที่เริ่มต้นมาจากการห้ำหันระหว่าง “อะเทรดีส” และ “ฮาร์คอนเนน” สองตระกูลใหญ่แห่งสภา ควบคู่กับเรื่องราวการผจญภัยของ พอล อะเทรดีส (ทิโมธี ชาลาเมต์) ชายหนุ่มผู้ปราดเปรื่อง เปี่ยมพรสวรรค์ ถือกำเนิดขึ้นมาเพื่อโชคชะตาอันยิ่งใหญ่ และเป็นจุดศูนย์กลางของเรื่องราว บุตรแห่ง ดยุค เลโท อะเทรดีส (ออสการ์ ไอแซ็ค) ชายผู้เที่ยงธรรมเป็นที่รักของปวงชน กับ เลดี้ เจสสิก้า (รีเบกกา เฟอร์กู) นักบวชสาวจากสำนักเบนีเจสเซอริต องค์กรทางศาสนาที่คอยชักนำชะตาของมวลมนุษยชาติผ่านเงามืดมานับพันปี

ซึ่งการเดินแห่งโชคชะตาของ พอล อะเทรดีส เริ่มต้นขึ้นหลังพ่อของเขาได้รับคำสั่งขององค์จักรพรรดิให้ย้ายถิ่นฐานมาปกครองดาวอาร์ราคิส หรือที่รู้จักในชื่อว่า ดูน ดาวทะเลทรายซึ่งเป็นที่อยู่ของ เฟรเมน ชาวพื้นเมืองของดาวดาวนี้, หนอนยักษ์ ที่ชาวพื้นเมืองเรียกว่าพระเจ้า และ สไปซ์ เครื่องเทศและสารเสพติดมีค่าระดับจักรวาล การมาเยือนดาวทะเลทรายของตระอะเทรดีสคือกลอุบายจากตระกูลคู่แค้น บารอน วลาดิเมียร์ ฮาร์คอนเนน (สเตลแลน สการ์สการ์ด) ศัตรูผู้วางแผนหวังบดขยี้พวกเขาให้สิ้นซาก พร้อมเดินเกมสงครามเพื่อเข้าคุมอำนาจเหนือการปกครองทั้งมวล

โดยภาพยนตร์เรื่อง Dune เป็นการหยิบยกครึ่งแรกของนิยามเล่มแรกมาทำการดัดแปลง ด้วยเหตุผลที่ไม่อยากยัดเรื่องราวที่เต็มไปด้วยรายละเอียดมากมายทั้งหมดไว้ในผลงานเพียงเรื่องเดียว และผู้กำกับ เดนิส วิลล์เนิฟ ยืนยันด้วยว่าภาพยนตร์เรื่องนี้จะดำเนินเรื่องราวไปอย่างแข็งแรงและสมบูรณ์ด้วยตัวของมัน พร้อมบอกเล่าเรื่องราวแห่งการต่อสู้ดิ้นรนของมนุษย์ เพื่อพิสูจน์ความภักดีและหน้าที่ การทรยศหักหลังเพื่ออยู่รอด เกมอำนาจของเหล่าชนชั้นสูง รวมไปถึงการยอมรับซึ่งตัวตนของเราเอง

เดนิส วิลล์เนิฟ ผู้กำกับได้กล่าวว่า “ผมค้นพบหนังสือเล่มนี้ในช่วงวัยรุ่นและจำได้ว่าผมหลงใหลในความเป็นกวี รวมถึงเนื้อหาเกี่ยวกับธรรมชาติซึ่งเป็นตัวละครหลักที่แท้จริงของ Dune”

“ในเวลานั้นผมเรียนวิทยาศาสตร์อยู่ ผมคิดว่าตัวเองอาจจะเป็นผู้กำกับไม่ก็นักชีววิทยา สำหรับผมแล้วแนวทางที่แฟรงค์ เฮอร์เบิร์ต นำเสนอนิเวศวิทยาในหนังสือเล่มนี้ทั้งแปลกใหม่ สมบูรณ์ ละเอียดอ่อน และทรงพลัง มุมมองของเขาต่อธรรมชาตินั้นชวนดื่มด่ำน่าประทับใจ เขาได้สร้างระบบนิเวศอันงดงามขึ้นมา เขาสำรวจผลกระทบและความสับสนวุ่นวายจากลัทธิจักรวรรดินิยมซึ่งก็เป็นภาพสะท้อนของศตวรรษที่ 20 ที่ยังคงทันสมัยอยู่ในปัจจุบัน และท่ามกลางสิ่งเหล่านี้ก็มีชายหนุ่มที่ต้องต่อสู้เพื่อค้นหาตัวตน หาตำแหน่งแห่งที่ของตนบนโลก เช่นเดียวกับที่ตัวผมเองทำอยู่ในเวลานั้น การที่พอลได้ค้นพบตัวตนของเขาผ่านอีกวัฒนธรรมหนึ่งเป็นเรื่องน่าทึ่งสำหรับผม”

 “คุณเข้าถึงเรื่องราวของ Dune ได้หลายทาง แต่ทางหนึ่งที่เป็นมุมมองหลักด้วยคือเรื่องราวความเป็นมนุษย์เกี่ยวกับตระกูลอะเทรดีส ซึ่งตกหลุมพรางของจักรพรรดิผู้ริษยาที่ตระกูลนี้ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ดังนั้นจักรพรรดิจึงได้ส่งตระกูลอะเทรดีสไปยังดาวดวงใหม่ในกาแล็กซีซึ่งก็คืออาร์ราคิส ที่นั่นคุณจะได้พบสไปซ์ สิ่งมีค่าที่สุดในจักรวาล”

ทางด้านนักแสดงของภาพยนตร์เรื่องนี้ถือเป็นการรวมทีมดาวเด่นแห่งผลการภาพยนตร์เลยก็ว่าได้ โดยเดนิส วิลล์เนิฟ และทีมงานได้คัดเลือกเหล่านักแสดงมากฝีมือมาปะทะบทบาทกันอย่างคับคั่ง เริ่มต้นด้วย ทิโมธี ชาลาเมต์ ในบท พอล อะเทรดีส, รีเบกกา เฟอร์กู ในบท เลดี้ เจสสิก้า, ออสการ์ ไอแซ็ค ในบท ดยุค เลโท อะเทรดีส, จอช โบรลิน ในบท เกอร์นีย์, เจสัน โมโมอา ในบท แคน ไอดาโฮ, สตีเฟน แม็คคินลีย์ เฮนเดอร์สัน ในบท ทูเฟอร์ ฮาวัต, จาง เจิ้น ในบท หมอยูเอห์, สเตลแลน สการ์สการ์ด ในบท บารอน วลาดิเมียร์ ฮาร์คอนเนน, เดฟ บอทิสตา ในบท อสูรแร็บบาน แห่งตระกูลฮาร์คอนเนน, เดวิด แดสต์มอลเชียน ในบท ไพเทอร์ เดอ วรีด์, ชาร์ล็อตต์ แรมพลิง ในบท แม่ใหญ่, เซนดายา ในบท ชานิ  ไคยส์, ชารอน ดันแคน-บรูว์สเตอร์ ในบท เลียต ไคยส์ และ ชาเวียร์ บาร์เด็ม ในบท สตีลการ์

ทิโมธี ชาลาเมต์ นักแสดงผู้รับบท พอล อะเทรดีส ได้กล่าวว่า “นี่เป็นโอกาสครั้งสำคัญเลยครับที่ได้รับบทเป็นคนที่หลงทางและขัดแย้งในตัวเอง แต่ก็ต้องแบกรับความรับผิดชอบมากมายทั้งที่อายุยังน้อย ผมว่ามันเป็นขั้วขัดแย้งที่งดงามและหาได้ยากในตัวละครเอกของหนังสักเรื่อง พอลไม่ใช่พระเอกโรแมนติกธรรมดาทั่วไป ผมชอบที่ตัวละครนี้มีมิติให้ผมสำรวจและพลิกแพลงได้”

 “เขาเปิดตัวมาตอนอายุแค่ 15 ปี และเขาต้องออกเดินทางไปช่วยเหลือผู้คนจากการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ เขามาจากตระกูลอันทรงเกียรติและยึดมั่นในศีลธรรม มีศักดิ์ศรีและความกล้าหาญเป็นที่เลื่องลือ คนเหล่านี้ภาคภูมิใจในวัฒนธรรมแบบนักรบ แตกต่างจากตระกูลฮาร์คอนเนนที่มีแต่ความโลภและการหลอกลวง”

ทางด้าน เดนิส วิลล์เนิฟ ผู้กำกับได้พูดถึงนักแสดงนำอย่างว่า  ทิโมธี ชาลาเมต์ ว่า “กระบวนการเลือกทิโมธี ชาลาเมต์ มารับบทนี้ง่ายมาก นั่นคือไม่มีกระบวนการอะไรเลยครับ มีแต่ทิโมธีเท่านั้น ผมไม่ได้คิดแผนสองเอาไว้เลย คือว่าผมจะทำ ‘Dune’ กับทิโมธี ชาลาเมต์ จบแค่นั้นเลย และโชคดีที่ไม่ต้องโน้มน้าวอะไรมากเพราะเขาชอบบทหนังและเราก็อยากทำงานร่วมกัน เขาเป็นนักแสดงที่ยอดเยี่ยม น่าทึ่ง และน่าเหลือเชื่อ การแบกรับหนังที่ยิ่งใหญ่ขนาดนี้คุณจะต้องอาศัยนักแสดงที่เข้มแข็งมาก ๆ และทิโมธีก็มีคุณสมบัติหลายประการที่เป็นเหตุผลให้ผมเสนอบทนี้ให้เขา อันดับแรกคือทิโมธีเป็นคนช่างคิดและมันก็สะท้อนออกมาในแววตา เป็นสิ่งที่คุณจะรู้สึกได้ พอลเป็นผู้มีปัญญา และเราจะต้องรู้สึกตลอดเรื่องว่าเขาเป็นคนที่มีความสงสัยอยู่ในใจ เป็นคนที่จะจินตนาการโลกรอบตัวขึ้นมาใหม่ เปิดรับความเป็นจริงในแบบที่แตกต่างออกไป รวมถึงปรับตัวให้เข้ากับความเป็นจริงใหม่ด้วย การทำเช่นนั้นต้องอาศัยสติปัญญาที่เฉียบแหลมและความสามารถที่จะปรับตัว นั่นคือสิ่งที่ผมอยากเห็นในตัวพอล อะเทรดีส”

ร่วมเป็นสักขีพยานการเปิดศึกปฐมบทแห่งสงครามระดับจักรวาล นี่คือเกมการเมืองและแย่งชิงทรัพยากรที่อาจผลิกชะตาของมวลมนุษยชาติไปตลอดกาล ในมหากาพย์ภาพยนตร์ไซไฟแห่งยุค “Dune” ลั่นกลองรบพร้อมกัน 21 ตุลาคมนี้ ในโรงภาพยนตร์

 

เครดิต : ข้อมูลและภาพประกอบจาก WarnerBros Thailand

สำรวจโลกแห่ง “Dune” ก่อนรับชมมหากาพย์ภาพยนตร์แอคชั่นไซไฟเหนือจินตนาการแห่งยุค ดัดแปลงมาจากหนึ่งในสุดยอดนิยายอันทรงอิทธิพลแห่งศตวรรษที่ 20 ของ แฟรงค์ เฮอร์เบิร์ต