อารักษ์ อ่อนวิลัย
“การได้ทำงานในสิ่งที่รักคือสิ่งที่ดีที่สุดของชีวิต” คือคำกล่าวของผู้ชายที่ชื่อว่า อารักษ์ อ่อนวิลัย หรือ Sahred toy นักวาดภาพประกอบผู้ฝากผลงานอันน่าจดจำให้กับวงการศิลปะของเมืองไทยไว้อย่างมากมาย เช่น โปสเตอร์งานเทศกาล Big Mountain ครั้งที่ 6 หรือจะเป็นงานวาดภาพประกอบกล่องผลิตภัณฑ์ Durex ก็ล้วนแล้วแต่เป็นผลงานจากชายคนนี้ทั้งสิ้น
อารักษ์ อ่อนวิลัย
“จุดเริ่มต้นในการทำงานศิลปะด้านนี้คือ เราอยากทำในสิ่งที่เรารักครับ มันเป็นคำพูดที่ง่ายๆ เหมือนฟังแล้วเท่นะครับ (หัวเราะ) ทุกอย่างมันสืบเนื่องมาจากตอนเด็กๆ ตัวเองเป็นคนที่ชอบวาดรูปมาก วาดถึงขนาดที่เกิดความคิดว่าอาชีพนี้มันจะสามารถเป็นอาชีพหาเงินได้จริงๆ รึเปล่าก็วาดและทำงานเกี่ยวกับด้านนี้มาเรื่อยๆ แต่หลังจากที่พี่ตั้ม MAMAFAKA เริ่มบุกเบิกงานศิลปะทางด้านนี้ทุกอย่างมันก็กว้างมากจนเห็นได้ชัดว่างานอาชีพแบบเรา มันก็อยู่ได้ด้วยผลงานของเราเองนะ เลยผันตัวเองจากการทำงานด้านกราฟิกมาทำงานสายนี้ครับ
“อีกอย่างคือเราเป็นคนที่เรียนไม่เก่งเอามากๆ เลย มันเลยรู้สึกว่าถ้าเราจะหาอาชีพอะไรทำสักอาชีพหนึ่งมันก็ต้องมีเรื่องคิดต่อว่า เมื่อเวลามันเดินมาถึงจุดหนึ่งๆ แล้วเราสามารถทำมันถึงได้ 10 กว่าปีเลยรึเปล่า จนมาทำอาชีพนักวาดภาพประกอบนี้ก็รู้สึกว่าเรามาถูกทางแล้วแหละ เราสามารถอยู่กับอาชีพนี้มันได้ไปอีกนานเลยเพราะว่าเราชื่นชอบและรักในอาชีพนี้จริงๆ”
จากความชื่นชอบและความรักในการทำงานทางสายนี้ ครั้งแรกที่ผลงานของเขาถูกเผยแพร่สู่สาธารณะชนวินาทีนั้นเรียกว่าเป็นช่วงเวลาที่เปลี่ยนชีวิตของเขาเลยก็ว่าได้และมันก็เป็นอีกเรื่องที่ทำให้เขารู้สึกภูมิใจทุกครั้งที่นึกถึงมัน
อารักษ์ อ่อนวิลัย
“ผลงานแรกที่ออกสู่สายตาคนทั่วไปในตอนนั้นจำได้ครับว่าออกหนังสือชื่อว่า TALABOO ของสำนักพิมพ์ Salmon Book หนังสือการ์ตูนรวมเล่มและเป็นหนังสือเล่มแรกที่เรารู้สึกว่ามันได้ออกสู่สาธารณะชนถึงแม้ผลตอบรับมันอาจไม่ได้ดีมาก แต่ทุกวันนี้ยังจำภาพที่เกิดขึ้นวันนั้นได้เลยว่า พอวันที่หนังสือออก ไปยืนอยู่ในร้านหนังสือแล้วเห็นหนังสือ ของตัวเองวางอยู่บนแผง มันเป็นความรู้สึกที่เราอยากเห็นมานานแล้ว มันเป็นอารมณ์บอกไม่ถูกเหมือนกันว่ารู้สึกอะไรบ้างแต่แค่รู้สึกว่ามันมีก้าวแรกแล้วนะเราต้องมีก้าวต่อไปเรื่อยๆ ไปอีก ซึ่งหลังจากนั้นต่อมาเราก็เริ่มรู้สึกว่า มันมีฐานของคนที่ติดตามเรามากขึ้นงานมันก็เข้ามาหาเรื่อยๆ มันจึงทำให้เกิดงานที่สร้างชื่อสำหรับเรามากนั้นก็คือ การออกแบบภาพประกอบกล่องเหล็กของถุงยางอนามัยยี่ห้อ Durex ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่จำได้ว่าตอนนั้นขายหมดทุกเซเว่นเลยแม้กระทั่งตัวเราก็ไม่มีเก็บไว้เลยครับ ก็รู้สึกดีใจที่มีคนสนใจงานเรามากมายขนาดนี้ครับ (ยิ้ม)”
ศิลปะคือการสร้างสรรค์ผลงานที่ไม่มีกฎในการทำงานที่ตายตัว เพราะฉะนั้นแล้วทุกงานที่เกิดจากฝีมือของเขาล้วนแล้วมาจากความคิดและการมองเรื่องราวรอบๆ ตัวของเขาอยู่ตลอดเวลานั้นเอง
“เราว่าการทำงานที่ได้รับโจทย์มามันคือ การทำงานที่ต้องมานั่งคิดและตั้งใจทำกับมันนะ แต่ถ้าเป็นงานที่วาดโชว์ของตัวเอง เราจะให้อิสระให้งานมันถูกรันไปเองโดยไม่ต้องไปบังคับมันซึ่งถ้าให้พูดกันง่ายๆ แล้วงานศิลปะสำหรับเรามันคือการให้อิสระของงานแล้วเดินทางไปพร้อมกับมันครับ”
วงการศิลปะในปัจจุบันมักถูกขับเคลื่อนไปด้วยคนมีฝีมืออย่างมากมายตลอดเวลา แต่สิ่งที่หนึ่งๆ ที่ยังหยุดอยู่ที่เดิมในมุมมองของตัวเขาเองก็คือเรื่องของพื้นที่การแสดงผลงานที่มีน้อยเหลือเกิน มันจึงเป็นอีกข้อหนึ่งที่เขามักตั้งคำถามกับตัวเองเสมอว่าทุกวันนี้ประเทศเรามีพื้นที่แสดงผลงานมากพอแล้วรึยัง
อารักษ์ อ่อนวิลัย
“สำหรับเรื่องของงานศิลปะในบ้านเรามันโตจากแต่ก่อนเยอะมากเลยนะ สมัยรุ่นพ่อรุ่นแม่ที่เห็นก็คือ เรียนจบศิลปะมาก็ไปนั่งวาดรูปแถวๆ สะพานพุทธ มันจึงเกิดภาพที่ทำให้คนมองงานศิลปะไปอีกแบบ แต่ว่างานสายกลางๆ ที่ผสมกันกับงานที่ขายได้มันก็เกิดขึ้นในยุคของ พี่ตั้ม MAMAFAKA ที่เขาพยายามปั้นให้งานศิลปะมันมีคุณค่ากับสินค้ามากขึ้น ยุคนี้มันเป็นยุคที่ผ่านจุดเริ่มต้นมาแล้วมันเป็นยุคที่สอง เราเลยรู้สึกว่าในเมืองไทยงานศิลปะกำลังจะดีขึ้นตามลำดับ ที่สำคัญก็ขอให้มีการตอบโจทย์พื้นที่ในการแสดงความสามารถของเด็กใหม่ๆ ไม่ใช่ว่าพื้นที่ของเขาจะมีแค่เพียงการแสดงงานธีสิทเท่านั้นแล้วจบ”
กว่าจะได้ก้าวมาถึงในจุดๆ นี้ที่มีคนรู้จักเขาอย่างมากมายเขามักบอกกับตัวเองอยู่เสมอว่า ความทะเยอทะยานนั้นแหละที่จะส่งตัวเราไปถึงสิ่งที่เราฝันได้อย่างชัดเจนที่สุดและแน่นอนหากอยากประสบความสำเร็จในชีวิต คุณต้องมุ่งมั่นและจริงจังกับมันความฝันของคุณอยู่ตลอดเวลา
“เราเป็นคนไม่ทิ้งความฝัน ก็อยากให้คนรุ่นใหม่ลองคิดอะไรกันนอกกรอบดูบ้าง คำๆ นี้บางทีมันอาจจะพูดง่ายมากเลยนะ แต่พอไปทำจริงๆ มันยากมากเช่นกัน อยากให้ลองทำงานที่ฉีกกฎเดิมๆ ของงานศิลปะกันออกมาเยอะๆ เชื่อว่าท้ายที่สุดแล้ววงการนี้มันจะก้าวต่อไปข้างหน้าได้อย่างแน่นอนครับ”
อารักษ์ อ่อนวิลัย