นัฐฐพนท์ ลียะวณิช

นัฐฐพนท์ ลียะวณิช

ผู้บริหารหนุ่มคนนี้หลายๆ คนคงคุ้นหน้าคุ้นตาเขาเป็นอย่างดี เขาเป็นนักแสดงชื่อดังคนหนึ่งของเมืองไทย “คุณนัฐฐพนท์ ลียะวณิช” แต่อีกบทบาทหนึ่งของเขาคือ General Manager ของบริษัท โมจิโต้ เอ็นเตอร์เทนเมนท์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทโปรดักชั่นทีวี ที่ครอบคลุมไปถึงงานประชาสัมพันธ์ อีเว้นท์ ซื้อขายสื่อ นี่คือบริษัทที่เขาก่อร่างสร้างมาเองกับมือ

“จริงๆ บริษัทเปิดมา 5 ปีแล้ว เริ่มจากโครงการในหลวงในดวงใจ เราชวนดารามาถ่ายรูปโปสการ์ด จัดนิทรรศการแล้วจัดจำหน่ายโดยไม่หักค่าใช้จ่ายเพื่อนำเงินเข้ากองทุนมูลนิธิชัยพัฒนา ตอนนั้นมีดารามาเข้าร่วม 180 กว่าคน
มี 86 เซ็ต 86 พรรษา แต่ว่าบางเซ็ตมีดารานางแบบหลายรุ่นมาถ่ายรวมกัน เป็นความภาคภูมิใจมากครับ มีนิตยสารชื่อดังติดต่อเอาภาพของเราไปลงถึงสามเล่ม หลังจากนั้นก็ผลิตรายการโทรทัศน์รายการ The Giving ซึ่งตอนแรกยังไม่มีบริษัทเลย 

“เรารู้สึกว่าเราต้องทำต่อ จากนั้นจึงเปิดบริษัทขึ้นมาทำต่อมาอีก 5 ปี พอผลิตรายการโปรดักชั่นแล้วโอเค มีสินค้ามีสปอนเซอร์อยู่ในรายการ ลูกค้าก็จ้างให้ถ่ายผลิตภัณฑ์เพื่อลงโฆษณาในรายการด้วย หลังๆ ก็ทำเป็นโฆษณาเต็มตัว
ลูกค้าเขามาเห็นเขาก็ชอบให้เราผลิตเพิ่ม มีสินค้าเข้ามาเยอะเลยทีนี้ พอผลิตโฆษณาไปได้สักพัก ก็เริ่มมีคนมาซื้อขายสื่อ มีมาฝากซื้อโฆษณากับเรา เลยรู้สึกว่าทำไมมีคนมาฝากซื้อเราเยอะจัง คล้ายๆ เป็นเอเจนซี่ เลยเดินเข้าไปหา
ช่องสาม ไปหาผู้ใหญ่ฝ่ายการตลาด เขาก็ให้โอกาส ได้โควต้าที่เป็นเจ้าของมีเวลาโฆษณาของเราเอง ตามพวกรายการข่าวของช่อง 

“ต่อมาก็เริ่มมีบริษัทเอเจนซี่ มาว่าจ้าง เหมือนเขาให้โอกาสเรา ตอนนั้นผมทำให้ยาสีฟันคอลเกต ช่วงที่พลอย-เฌอมาลย์ เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ ลูกค้าให้ผมคิดทั้งหมดเลย คิดตั้งแต่ก่อนผลิตภัณฑ์จะเปิดตัว กระบวนการคิดต้องทำอะไร สื่อช่องทางไหนบ้าง ทำเรื่องการประชาสัมพันธ์ด้วย และก็มีอีเว้นท์ด้วย งานใหญ่เลยตอนนั้น จัดที่แฟชั่นฮอลล์สยามพารากอน ก็มีใช้นางแบบ ดาราสิบกว่าคน มีพลอย-เฌอมาลย์เปิดตัว งานนี้ถือว่าเป็นอีเว้นท์ใหญ่แบบเต็มตัวครั้งแรกของบริษัท เป็นครั้งแรกที่เราทำทุกอย่าง ทำงานร่วมกับเอเจนซี่ และเราเป็นคนคิดงานให้ทั้งหมด ก็เลยรู้สึกว่าเราได้โอกาสที่ดี หลังจากนั้นมาก็เริ่มมีแคมเปญอื่นๆ เข้ามาเรื่อยๆ

“ผมเรียนจบจากคณะนิเทศฯ ไม่ได้จบด้านการตลาดโดยตรงสิ่งสำคัญเลยคือเราต้องเสพมัน ต้องรู้ว่าสื่อแต่ละประเภทกับการบริโภคของคนคืออะไร คือเราต้องชอบดู ชอบอ่าน อัพเดททุกอย่าง แล้วเอามาใช้ให้ถูกต้อง แต่เราต้องเชื่อมั่นกับมัน ผมว่าต้องมีเซ้นส์นะ แต่หลังๆ ก็เริ่มฟังลูกน้อง เพราะเราให้อำนาจหน้าที่เขา คือถ้าเขาอยากได้อะไร แล้วเขาคิดว่าเขามีข้อมูลพอที่จะมาต่อสู้กับผม มีเหตุผลพอ แล้วเขาเชื่อว่ามันดีสำเร็จได้จริง ผมก็โอเค เพราะในฐานะที่คุณถือ Account นั้น เหมือนเป็นที่ปรึกษา แต่หลังๆ มา ผมจะไม่ค่อยเข้ามายุ่ง เว้นแต่วันใกล้งานผมจะมาดู แต่ถ้ามันเละก็มีระเบิดลงด้วยเช่นกัน”

จากนักแสดงมาเป็นเจ้าของธุรกิจ แน่นอนว่าพระเอกเจ้าบทบาทคนนี้ย่อมต้องใช้เวลาปรับตัวพอสมควร เพราะธุรกิจมีปัจจัยหลายด้านที่ต้องทำความเข้าใจ เรียนรู้ด้วยประสบการณ์ และที่สำคัญคือต้องบริหารงานให้เป็น

นัฐฐพนท์ ลียะวณิช
นัฐฐพนท์ ลียะวณิช

“การทำธุรกิจเครียดกว่าการเป็นนักแสดงเยอะเลยตั้งแต่เปิดบริษัทมาห้าปีผมหงอกมาเลย คืองานเบื้องหลังมันมีหลายขั้นตอน การบริหารคน บริหารงาน มันต้องไปพร้อมกัน แต่ที่ยากสุดคือเรื่องคน ก็เป็นเรื่องท้าทายตัวเองว่าเราจะจัดการบริหารคนยังไง ให้เขาทำงานอย่างที่เราต้องการ และเขามีความสุขในการทำอย่างนั้น สิ่งนี้มันเป็นเรื่องที่ยากมาก 

“ผมมาทำตรงนี้ คนอาจมองว่าได้เปรียบเรื่องเราเป็นคนมีชื่อเสียง ก็ยอมรับว่ามันก็มีส่วนช่วยนะ แต่มันก็เป็นดาบสองคม คุณอาจได้โอกาสที่จะทำมันมากกว่า แต่ถ้าทำออกมาไม่ดีมันก็จบ เพราะปากต่อปากเร็วมาก ทุกคนให้โอกาสคุณได้แต่เขาไม่สามารถให้ซ้ำๆ ได้ เพราะว่าของซื้อของขาย ถ้าของคุณไม่ดี เราไม่สามารถซื้อได้หรอก ลูกค้าหลายคนเขาไม่ได้เป็นเจ้าของบริษัท เขาใช้เงินขององค์กร ซึ่งเงินที่ใช้มันต้องเป็นเงินที่เขาตัดสินใจแล้วมันต้องคุ้มค่า เพราะมันมีผลต่อชีวิตเขา 

“ผมคิดว่ามันจะโตขึ้นไปอีก เรื่องการประชาสัมพันธ์ผมมีพาร์ทเนอร์ที่ดี ทำงานร่วมกัน เป็นพาร์ทเนอร์ที่ช่วยซัพพอร์ตกัน อีกอันที่ผมรู้สึกอยากทำคือละคร เพราะผมคิดว่าชีวิตผมเกิดขึ้นมาจากละคร ผมมีวันนี้เพราะยูม่าและช่องสามให้โอกาสผม เราเล่นละครแล้วทุกอย่างมันตามมาผมก็เลยรู้สึกว่าผมต้องผลิตมัน มันคือสิ่งที่ให้ชีวิตผม แล้วผมก็อยากลงคอร์สเรียนเพิ่มเรื่องธุรกิจออนไลน์ 

“ก็มีเรื่องเครียดเกือบทุกวันนะ ผมจะเครียดเรื่องพนักงานเรื่องคน การทำงานผิดพลาด ไม่เข้าใจในความผิดไม่รู้ว่ามันผิดขนาดไหน เราสร้างลูกค้าที่ดีและรักเรา เชื่อมั่นในงานของเรา มีปฏิสัมพันธ์ที่ดีการสร้างมันยากแต่การทำลายความสัมพันธ์มันง่ายนิดเดียว เราแค่ให้ลูกน้องไปดูแล บางที่แค่พูดบางอย่างก็ทำให้พังได้ มันเป็นเรื่องที่เครียดมาก การทำลายคอนเน็กชั่นเนี่ย 

“การประชาสัมพันธ์โตแน่นอน เพราะมันคือการใช้เงินที่คุ้มค่า Key Massage คุณไม่ออกเหมือนโฆษณา แต่คุณสามารถประชาสัมพันธ์ถึงกลุ่มลูกค้าทุกคนได้ ลูกค้าที่เงินยังไม่เยอะ คุณอยากประหยัด คุณต้องทำพีอาร์ควบคู่ เงินลงกับทีวีล้านนึงที่คุณเสียไปอาจมองไม่เห็นด้วยซ้ำ แบบว่าตดยังไม่ทันหายเหม็นโฆษณาจบแล้ว เวลามันแพงมากนะ อีเว้นท์ใหญ่เล็กไม่สำคัญ อยู่ที่แบรนด์ของคุณ เพราะจัดใหญ่จัดเล็กข่าวก็ออกเท่ากัน ภาพออกไปเห็นกี่ภาพ สามภาพ เขาไม่รู้หรอกเวทียิ่งใหญ่ขนาดไหน แต่คุณสามารถประชาสัมพันธ์ควบคู่ไปด้วย จัดเล็กก็พีอาร์เสริมเข้าไปได้ คนก็รู้จักได้เช่นกันครับ” 

Know Him

คุณต่าย นัฐฐพนท์ ลียะวณิช เริ่มด้วยการเป็นนายแบบ ตามด้วยภาพยนตร์ และพระเอกละครโทรทัศน์จากการแสดงละครค่ายยูม่า

เคยเป็นดีเจ.คลื่น 93.5 EFM 

ผลงานละครที่กำลังออกอากาศเร็วๆ นี้ได้แก่ “กลกิโมโน” และ “ชาติเจ้าพระยา” ภาคสอง

บทบาทใหม่ของชีวิต