EDITOR’S PAGE
เมื่อเร็วๆ นี้ผมได้เข้าไปพบท่านศาสตราจารย์ระพี สาคริก ราษฎรอาวุโสในวัย 93 ปี มีเรื่องหนึ่งที่ผมเห็นท่านมาตลอดหลายปีที่รู้จักกัน ก็คือการอุทิศตนทำงานอยู่ตลอดเวลา
ผมนั่งสนทนาสักระยะหนึ่งท่านก็หยิบหนังสือแนวคิดและวิถีทางการดำเนินชีวิต ซึ่งเพิ่งพิมพ์เสร็จได้ไม่นานให้กับผม เมื่อเปิดอ่านดูในคำนำ สามารถรับรู้ได้ถึงความศรัทธาในการทำงานของท่านอย่างแท้จริง ในหนังสือเขียนเล่าถึงความเป็นห่วงใยของบุคคลใกล้ชิดท่าน ไม่อยากให้เดินทางไปร่วมประชุมในงานกล้วยไม้โลกครั้งที่ 21 ที่โจฮันเนสเบิร์ก แอฟริกาใต้ เพราะกังวลเรื่องสุขภาพกับการเดินทางโดยเครื่องบินถึง 11 ชั่วโมง บุคคลที่คนส่วนใหญ่ยกย่องให้เป็นบิดาแห่งกล้วยไม้กลับตอบว่า สุขภาพมันไม่เหนือไปกว่าสัจธรรมชีวิตของตัวเอง ถ้าไม่ได้ไปก็ขอให้ป่วยไข้จนกระทั่งล้มตายไปยังดีเสียกว่า
ผมได้อ่านมาถึงบทท้ายๆ ของหนังสือเล่มนี้ชื่อ “ลายมือคนนั้นสำคัญไฉน” ทำให้อดฉุกคิดถึงการสื่อสารในยุคดิจิตอลนี้ไม่ได้ ส่วนหนึ่งในหนังสือมีใจความว่า “ถ้ามนุษย์ไม่ลืมตัวย่อมสำนึกได้เสมอว่า การเขียนด้วยลายมือก็ดี การใช้เครื่องจักรกลไม่ว่ารูปแบบใดช่วยบันทึกก็ดี สิ่งเหล่านี้แท้จริงก็คือสื่อระหว่างจิตใจของมนุษย์เหมือนกันหมด ที่ว่าเหมือนกันหมดก็เพราะเหตุว่า เขียนด้วยลายมือก็อ่านได้ ใช้เครื่องพิมพ์ก็อ่านได้ แม้ใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ก็อ่านได้เช่นกัน แต่ความแตกต่างไม่ใช่อยู่เพียงที่ความสะดวกสบายในการบันทึก ซึ่งใช้เครื่องคอมพิวเตอร์สบายมากกว่าและใช้งานได้กว้างขวางมากกว่าเท่านั้น หากมนุษย์หลงอยู่กับความสบายด้านเดียว คุณภาพของจิตใจตัวเองนั่นแหละจำต้องเสื่อมถอยไปโดยไม่รู้สึกตัว ในการเขียนด้วยลายมือจำต้องใช้พลังใจอันเป็นธรรมชาติของตัวเอง ดังนั้นการเขียนด้วยลายมือคือการให้ความรักความจริงใจแก่ผู้ได้รับลึกซึ้งกว่า”
ผมเห็นด้วยกับเรื่องนี้จริงๆ นะครับ เพราะคุณค่าทางจิตใจของเพื่อนมนุษย์ด้วยกันนับวันเริ่มเหินห่างออกไปทุกที ความรักความเข้าใจซึ่งกันและกันอย่างแท้จริงเริ่มลดน้อยถอยลงอย่างเห็นได้ชัด ก่อนจะกลับผมได้ถามทางอาจารย์ไปว่า “หลายคนเลือกหาความหมายความสำคัญของชีวิตแตกต่างกันไป สำหรับท่านทำไมถึงเลือกความสำคัญของชีวิตคือการทำงานหนักอยู่ตลอดเวลา” ท่านบอกกับผมว่า “เห็นผมทำงานหนักขนาดนี้ แต่ในหลวงของเราท่านทรงงานหนักกว่าผมหลายเท่า ถึงแม้วันนี้ในหลวงของเราจะทรงประทับอยู่ที่โรงพยาบาลศิริราช ท่านยังไม่เคยหยุดทรงงานเพื่อพวกเราเลย แล้วจะให้ผมหยุดทำงานเพื่อตอบแทนคุณแผ่นดินและในหลวงได้อย่างไรเล่า”
ในเดือนนี้เป็นเดือนมหามงคล พวกเราได้ทำอะไรเพื่อตอบแทนคุณแผ่นดินและในหลวงผู้ทรงเป็นดวงใจหทัยราษฎร์กันบ้างแล้วหรือยังครับ หากยังอย่ารอช้านะครับ
เนื่องในวโรกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา ซึ่งเป็นวันสำคัญที่สุดวันหนึ่งของปวงชนชาวไทย ขอให้พระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน
ชโลทร ศิวารัตน์
บรรณาธิการบริหาร