กวิสรา ตีรณสาร

กวิสรา ตีรณสาร

จากหญิงสาวที่มองดูภายนอกเธอกำลังมีชีวิตที่ดำเนินไปอย่างสวยงาม แต่แล้วเมื่อวันหนึ่งเกิดจุดเปลี่ยนที่สำคัญในชีวิต หลายสิ่งของปัญหาต่างถาโถมกันเข้ามา เธอมีเพียงกำแพงเดียวที่กั้นความบอบช้ำจากสิ่งเหล่านั้นได้อย่างน่ายกย่องนั่นคือ ... ความเข้มแข็งของจิตใจ

ในวันที่เธอแทบล้มทั้งยืนด้วยเพราะรู้ความจริงว่าก้อนเนื้อที่เกิดขึ้นในร่างกายของเธอนั้นเป็นเนื้อร้าย กำลังใจที่พร้อมจะหาได้จากคนรัก กลับกลายเป็นสิ่งที่ค่อยๆ เลือนหายไปพร้อมกับการเดินก้าวออกไปจากชีวิตของเธอนับครั้งไม่ถ้วน นอกจากความบอบช้ำทางด้านจิตใจที่ถูกสะสมซ้ำแล้วซ้ำเล่า ในวันที่คุณย่าที่เธอรักต้องจากไปอีกคน ดูเหมือนจะเป็นก้อนความสูญเสียที่ยิ่งใหญ่ แต่กลับพลิกฟื้นมุมมองของชีวิตให้เธอสามารถต่อสู้กับโรคร้ายด้วยตัวของเธอเอง

“ช่วงที่ทราบว่าเป็นมะเร็งคือช่วงที่ปิ่นกำลังเตรียมตัวที่จะไปเรียนต่อต่างประเทศ พอดีตรวจพบก้อนเนื้อบริเวณต่อมน้ำเหลือง ซึ่งในตอนแรกยังไม่ทราบว่าเป็นเนื้อร้ายจึงผ่าตัดออก แต่เมื่อผ่าตัดไปแล้วกลับมีก้อนเนื้อเกิดและโตขึ้นอีกหลายก้อนตามมาในระยะเวลาเพียงแค่สองอาทิตย์หลังจากนั้น ปิ่นคิดว่ามันไม่ใช่ปกติแล้ว จึงค้นคว้าหาความรู้ในสิ่งที่เราเป็นด้วยตนเองก่อน ซึ่งช่วงนั้นก็พอจะทำใจไว้แล้วว่า ‘หากเราเป็นมะเร็ง’ จะทำอย่างไร เมื่อไปตรวจอีกครั้งก็พบว่าเป็นจริง จึงเข้าทำการรักษาโรคมะเร็งทั้งยาและคีโม”

ในช่วงที่เธอกำลังเข้ารับคีโมในครั้งแรก คนรักกลับหันหลังไปมีคนอื่น แม้จะนำพาซึ่งความเจ็บช้ำใจ แต่ในเมื่อนี่ไม่ใช่ครั้งแรกเธอจึงค่อยๆ สะสมความเข้มแข็งของจิตใจไว้กับตัวเองอีกครั้งและอีกครั้ง 

“เรื่องความรัก มันเป็นอะไรที่เครียดอยู่แล้ว พอมาเป็นมะเร็งยิ่งต้องรักตัวเองให้มากๆ ปิ่นคิดว่า อะไรที่จะทำให้ชีวิตดีขึ้น คือสิ่งที่ปิ่นต้องทำ ถ้าปิ่นไม่มีเขาแล้วชีวิตจะดีขึ้นไหม คำตอบมันเจอไม่ยาก เมื่อปิ่นคิดแล้ว เจอแล้ว ก็เลือกที่จะรักแค่ตัวเอง ... จริงๆ แล้วปิ่นเป็นคนไม่ค่อยตีโพยตีพายกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับชีวิต มันค่อนข้างเป็นไปอย่างมีสเต็ปต์ของมัน พื้นฐานจะพยายามไม่มองโลกในแง่ร้ายอยู่แล้ว แต่ทั้งนี้ก็ต้องวิเคราะห์ด้วยว่า สิ่งที่เราทำอยู่นั้นเป็นการมองในแง่ดี หรือว่าหลอกตัวเอง ต้องมองทุกอย่างที่เป็นไปให้เป็นเรื่องของธรรมชาติให้ได้ แล้วเราก็จะไม่หลอกตัวเองค่ะ 

“ที่ปิ่นผ่านมาได้นั้นนอกจากกำลังใจจากตัวเราเองแล้วจากคนรอบข้างก็สำคัญมาก เพราะทุกคนก็จะบอกว่ามันมีสิทธิ์หายขาดได้ ปิ่นก็ต้องสู้ ต้องคิดว่ามันหายแล้วมันก็จะหาย ปิ่นเชื่ออย่างนั้นนะคะ แล้วก่อนที่ปิ่นจะเป็นมะเร็ง ปิ่นเป็นคนที่เก็บความเครียดไว้กับตัวเยอะมาก มันมีทั้งเรื่องให้เครียด แล้วเราก็เครียดเองด้วย การใช้ชีวิตที่ไม่ค่อยถนอมร่างกายอีก พักผ่อนไม่พออันนี้สำคัญ มันเลยอาจส่งผลให้ปิ่นเป็นหรือเปล่า มันก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ปิ่นต้องมานั่งทบทวนตัวเอง”

เธอต้องเข้ารับการรักษาอย่างหนักอยู่กว่าสองเดือน โรคมะเร็งต่อมน้ำเหลืองที่แวะเวียนเข้ามาทักทายชีวิตเธอก็ได้หายไป แม้โรคที่เกิดขึ้นจะลุกลามไปไวมากกว่าที่เธอคิด แต่เธอก็สู้และไม่ท้อจนสามารถเอาชนะมันได้ด้วยกำลังใจที่ได้รับมาอย่างมากมาย

ด้วยความที่เธอเป็นคนชอบเขียน ชอบถ่ายทอดเรื่องราวดีๆและประสบการณ์ต่างๆ ของชีวิต โซเชี่ยลเน็ตเวิร์คจึงเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือในการแสดงออกความสามารถพิเศษต่างๆ ที่เธอมี ทั้งเฟสบุ๊ก โซเชี่ยลแคม และอินสตาแกรม จึงเสมือนเป็นพื้นที่ให้เธอได้ทำความรู้จักกับผู้คนอีกมากมาย และผลตอบรับที่นอกเหนือความคาดหมายของเธอนั้นก็คือ เธอได้กลายเป็นอีกหนึ่งแรงบันดาลใจที่สำคัญของใครอีกหลายๆ คน ในวันนี้

“ปิ่นดีใจมากนะคะ มีคลิปหนึ่งที่ปิ่นทำเพื่อหลายๆ คนที่เป็นห่วงปิ่น ในขณะที่ปิ่นยังไม่พร้อมให้ใครมาเยี่ยมเพราะต้องรักษาตัวอยู่นั้น แล้วมันน่าประทับใจมากที่พอเปิดคลิปเข้าไปดู มันมีคนเข้ามาดูหลายหมื่นคนมาก แถมยังมีการแชร์ต่อๆ กันไปเรื่อยๆ อีก แล้วที่ดีใจอีกอย่างหนึ่งคือ มีคนมาคอมเม้นท์บอกว่าพอดูคลิปปิ่นแล้ว เขาตัดสินใจเลิกบุหรี่เลย บางคนที่เป็นมะเร็ง หรือมีญาติๆ เป็นแล้วมาดูคลิปปิ่นเขาก็ชอบ ปิ่นเป็นแรงบันดาลใจให้กับเขา”

วันนี้ถามว่าเสียใจไหมที่เป็นมะเร็ง เธอรีบตอบกลับมาพร้อมกับรอยยิ้มที่เปี่ยมไปด้วยความมีชีวิตชีวาว่า “ไม่เสียใจ” เพราะที่ผ่านมาเธอได้อะไรจากมันเยอะมาก “เรียกได้ว่าเปลี่ยนไปจากคนเดิมเยอะเลยทีเดียว” 

Know Her 

•    เธอเชื่อว่าความคิดนั้นมีอิทธิพลเหนือทุกสิ่ง อยากให้ตัวเราเองเป็นอย่างไรก็ขึ้นอยู่กับความคิดนั้นๆ ของเราเอง

•    ขณะนี้เธอกำลังทำโครงการเสื้อยืดขายในราคา 300 บาท เพื่อนำรายได้มาร่วมบริจาคให้แก่ผู้ป่วยโรคมะเร็ง “ช่วงที่ปิ่นรักษาตัว ได้เห็น ได้รับรู้ว่ามันทรมานอย่างไร แต่ปิ่นโชคดีที่สามารถดูแลค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมจากโครงการที่เข้ารับรักษาได้ ซึ่งมันเป็นอัตราที่สูงพอสมควร ไม่ว่าจะเป็นค่ายาเข็มละ 70,000 บาทหรือยาทานเม็ดละ 1,300 บาท ฯลฯ สิ่งเหล่านี้ถ้าปิ่นสามารถมอบโอกาสให้แก่ผู้ป่วยคนอื่นๆ ได้ ปิ่นพร้อมจะทำ”

•    สามารถเข้าไปติดตามโครงการนี้พร้อมร่วมทำบุญกับเธอได้ที่ www.facebook.com/pinsuvoice10

จุดเปลี่ยนชีวิต