ทุกสิ่งที่คุณทำ ...

ทุกสิ่งที่คุณทำ ...

คุณเชื่อไหมว่า ทุกสิ่งที่คุณทำ ทุกความประพฤติหรือการกระทำที่คุณได้ทำลงไป ล้วนมีความตั้งใจดีบางประการหรือบางระดับแฝงอยู่เสมอ เพราะว่าทุกการกระทำย่อมพอจะหาบรรทัดฐานบางอย่างมาตัดสินได้ว่ามันถูกต้องหรือเปล่า เช่น คุณอาจเอาหลักศาสนา หรือหลักกฎหมายเข้าไปตัดสินได้ว่าการกระทำต่างๆ ถูกต้องหรือไม่ แต่ถึงอย่างนั้นก็ตามกระทั่งกับการกระทำที่ผิด ก็ไม่ได้แปลว่าเบื้องหลังการกระทำนั้นๆ ไม่มีความตั้งใจดีใดๆ แฝงอยู่เลย!นำไปสู่แนวคิดสำคัญข้อหนึ่งของ NLP ที่สอนว่า ...

“ทุกความประพฤติที่คุณทำล้วนมีความตั้งใจดี
หรือเจตนาดีแฝงอยู่เสมอ”

ความจริงข้อนี้นับว่าน่าสนใจและเป็นบวกอย่างมาก ที่จริงผมรักความคิดอ่านแบบนี้ เพราะมันเป็นไอเดียที่กว้าง ครอบคลุม และใกล้เคียงกับภาพใหญ่ของมนุษย์ แม้ว่าทุกเรื่องราวจะต้องมีข้อยกเว้น ทว่าเมื่อพิจารณาโดยภาพรวมแล้ว เราต้องยอมรับว่าข้อคิดนี้เป็นแนวทางที่ยอดเยี่ยมทีเดียว จริงๆ แล้วคนเรามักจะมีเจตนารมณ์ที่ดีในแง่มุมใดแง่มุมหนึ่งต่อการกระทำของเขา แต่เราจะมองเห็นหรือเข้าใจหรือเปล่าก็เท่านั้นเอง ทั้งนี้ผมไม่ได้บอกว่า มันจะต้องส่งผลตามมาที่เป็นบวกทุกครั้ง นั่นย่อมเป็นอีกเรื่องหนึ่ง 

จงมองให้ลึกซึ้ง

เมื่อคุณมีความจริงข้อนี้อยู่ในใจของคุณ ความคิดอ่านของคุณย่อมจะกว้างและยืดหยุ่นมากขึ้นไปอีก ผมไม่ได้สนใจมากนักในตอนนี้ว่าพฤติกรรมอะไรก็ตามมันถูกต้องหรือผิด แต่ผมเล็งไปที่ความตั้งใจลึกๆ หรือเจตนาของคนทำ และผมเชื่อว่าลึกลงไปจะมีความตั้งใจดีของเขาซ่อนอยู่แม้ว่าเราอาจจะไม่รู้ว่ามันคืออะไรก็ตาม ยิ่งคุณไตร่ตรองกับหลักคิดข้อนี้มากเท่าไหร่กับประสบการณ์ตรงของคุณที่ผ่านมาในอดีต คุณจะพบว่ามันเป็นความจริงและคุณกำลังจะเข้าใจตัวเองและคนอื่นๆ มากขึ้นอีกเยอะ

เรื่องที่ผิดศีลธรรม มีเจตนาดีแฝงอยู่หรือไม่?

ก่อนอื่น ขอบอกว่าผมไม่ประสงค์ไปยุให้คุณทำเรื่องที่ผิดศีลธรรมหรือผิดกฎหมาย ผมไม่ต้องการให้คุณไปทำสิ่งที่ไม่ถูกต้อง แต่ผมจำเป็นต้องอธิบายหลักคิดข้อนี้ให้ครอบคลุมเพื่อความเข้าใจที่ถ่องแท้ของคุณ ประเด็นมีอยู่ว่า แล้วเรื่องที่ผิดกฎหมาย ผิดศีลธรรมมันมีเจตนาดีหรือความตั้งใจดีแฝงอยู่หรือเปล่า? งั้นผมขอยกตัวอย่างสักเรื่อง คุณคิดว่าขโมยที่ไปลักขโมยสินค้าของคนอื่นมา พฤติกรรมเช่นนี้ถือว่ามีเจตนาดีอะไรอยู่ บ้างหรือไม่? คำตอบคือมี! อย่างน้อยที่สุด เขามีเจตนาดีบางประการต่อตัวเขาเอง และถ้าเขาถูกจับได้และถูกจองจำละก็ (ก็มันผิดกฎหมาย) นั่นเป็นอีกเรื่องหนึ่ง

คุณอาจคิดว่า คนที่ไปขโมยของจะมีเจตนาดีได้อย่างไร มันยากที่จะเชื่อ ผมอยากบอกคุณว่า กระทั่งตอนที่คุณโลภ คุณมีเจตนาดีต่อตัวคุณเอง ว่าการกระทำนั้นจะนำมาซึ่งผลกำไรและความสำเร็จของคุณ ส่วนผลลัพธ์ที่ได้ออกมาย่อมเป็นอีกเรื่องหนึ่ง คนที่หิวโซและกำลังใกล้จะอดตายแล้วจำใจขโมยอาหารเพื่อประทังชีวิตให้รอด การกระทำนั้นมีเจตนาดีต่อชีวิตของเขาเอง ทว่าพฤติกรรมนั้นมันขัดต่อกฎหมายบ้านเมืองหรือสิ่งที่สังคมได้บัญญัติเอาไว้ แต่เราจะปฏิเสธว่ามันไม่มีความตั้งใจดีหรือเจตนาดีอยู่เลย เอ็นแอลพีจะถือว่าเป็นการบิดเบือนความจริง จะว่าไปแล้ว นี่แหละคือความจริงที่ถูกมองข้าม!!

มองทะลุพฤติกรรมเข้าไปยังเจตนาที่อยู่เบื้องหลัง

ฉะนั้น ไม่ว่าผมหรือคุณหรือใครก็ตามจะได้แสดงพฤติกรรมของความโลภออกไป โกรธออกไป กระทั่งหลง หรือว่าได้พูดจาโกหก ขี้ขลาดตาขาว ไม่รักษาคำพูด ฯลฯ พฤติกรรมทั้งปวงนั้นไม่ว่ามันจะเป็นอะไรก็ตาม พวกมันทั้งหมดล้วนมีประโยชน์ มีเจตนาดีแฝงอยู่ และมีที่ทางในการใช้ของมันในบางบริบทเสมอ กล่าวอีกอย่างได้ว่า ทุกความประพฤติล้วนมีความตั้งใจดีหรือเจตนาดีบางประการแฝงอยู่เสมอ

แล้วคุณจะใช้ความจริงข้อนี้กับตัวคุณเองได้อย่างไร

ต่อไปนี้ ไม่ว่าคุณจะคิดทบทวนถึงเรื่องราวในอดีตของคุณ หรือทบทวนพฤติกรรมต่างๆ ในวันนี้ของคุณ ให้ลองถามตัวเองเพื่อสืบค้นดูว่า จริงๆ แล้วมันมีเจตนาดีหรือความตั้งใจดีแบบไหนบ้างซ่อนอยู่ นี่จะทำให้คุณเข้าใจตนเองเป็นอันมาก หยุดตำหนิ
ติเตียนตัวเอง หากคุณเคยอิจฉาริษยา โลภ โกรธแค้น หรือทำอะไรลงไปแล้วก็ตาม ให้ถามตัวเองว่า “จริงๆ แล้วฉันมีความตั้งใจอะไรจึงทำแบบนั้นออกไป” ยิ่งคุณสำรวจตรวจสอบตัวเองมากเท่าไหร่ คุณก็จะเกิดสติปัญญาว่าพฤติกรรมอะไรที่สมควรยุติลงได้แล้ว และพฤติกรรมอะไรที่ควรทำให้มากขึ้น ด้วยการเลิกเป็นคนที่ฉาบฉวย แล้วหันมาลึกซึ้งเช่นนี้ ผมรับประกันว่าคุณจะสามารถพัฒนาความเจริญก้าวหน้าให้บังเกิดขึ้นกับชีวิตของคุณอีกหลายด้านได้อย่างแน่นอน ... 

ล้วนมีความตั้งใจดีบางอย่างแฝงอยู่เสมอ