การแข่งขันรถสูตรหนึ่ง 2014
สำหรับเดือนนี้ขอเปลี่ยนบรรยากาศจากกีฬาลูกหนังอย่างฟุตบอล มาเขียนเกี่ยวกับกีฬาอีกชนิดที่เชื่อว่าผู้ชายเกือบทุกคนต้องชื่นชอบอย่างแน่นอนนั่นก็คือความเร็ว ยิ่งการแข่งขันรถยนต์ในประเภทต่างๆ ที่มีเสน่ห์และลักษณะแตกต่างกันออกไป แต่ถ้าพูดถึงการแข่งขันประเภทรถที่มีความเร็วสูงที่สุดในโลกคงหนีไม่พ้นการแข่งขันฟอร์มูล่า 1 หรือที่รู้จักกันในอีกชื่อว่ารถสูตรหนึ่ง
ฤดูกาล 2014 ที่เพิ่งแข่งขันกันไปสดๆ ร้อนๆ สองสนาม ถือว่าเป็นฤดูกาลที่ 65 จึงไม่แปลกที่วงการนี้จะมีตำนานนักขับหลายคน
ไม่ว่าจะเป็น มานูเอล ฟานจิโอ, ไอตัน เซสน่า, อัลแบร์โต้ อัสคารี่, แจ็ค บราแฮม, มิชาเอล ชูมัคเกอร์ จนมาถึง เซบาสเตียน เว็ตเทล
ในปัจจุบัน อย่างไรก็ตาม เรื่องของกฎกติกาในการแข่งขันถือว่าละเอียดมาก ทั้งในด้านของทีม นักขับ และเครื่องยนต์ จนถึงรูปแบบของการแข่งขัน ทีมที่เข้าร่วมการแข่งขันในฤดูกาลนี้ มีทั้งสิ้น 11 ทีม มีสนามที่ใช้แข่งขัน 19 สนามจาก 19 ประเทศ ตั้งแต่ เดือนมีนาคมถึงเดือนพฤศจิกายน หลายๆ สนามก็ถูกใช้เป็นประจำทุกฤดูกาลอย่างที่ เซปัง เซอร์กิต ประเทศมาเลเซีย, บาเรน อินเตอร์เนชันแนล เซอร์กิต ประเทศบาเรน์ หรือจะเป็นการแข่งแบบปิดเมืองอย่าง เซอร์กิต เดอ โมนาโก ที่มอนติคาโล เขตปกครองพิเศษโมนาโก หรือสิงคโปร์ กรังด์ปรีซ์ ที่มาริน่า เบย์ เป็นการปิดเมืองแถมแข่งตอนกลางคืน เรียกว่าแต่ละสนามนั้น ล้วนมีเสน่ห์ในตัวเอง ส่วนปีนี้ มีสนามที่เพิ่มขึ้นมาถึง 3 สนามด้วยกันเริ่มจาก ออสเตรีย กรังด์ปรีซ์ ที่ประเทศออสเตรีย
หลังจากครั้งสุดท้ายที่ใช้แข่งคือปี 2003 สนามที่สองคือ เยอรมัน กรังด์ปรีซ์ ที่ประเทศเยอรมนี
แต่ที่น่าสนใจที่สุดคงหนีไม่พ้นกรังด์ปรีซ์ ออฟ รัสเซีย ที่เมืองโซชิ ประเทศรัสเซีย ซึ่งเป็นสนามที่จะแข่งในถนนอีกด้วย ถือว่าเป็นอะไรที่น่าตื่นตาตื่นใจกับการแข่งในแบบเมืองหนาว เพราะที่ผ่านมา มีหลายสนามที่เป็นเมืองร้อนอย่างพวกตะวันออกกลางหรือในเอเชีย ประเด็นสำคัญของการแข่งขันฤดูกาลนี้มีหลายประเด็น
เริ่มต้นจากเรื่องของสเปกเครื่องยนต์ที่เปลี่ยนใหม่ คือทุกทีมต้องใช้เครื่องของ 1.6 ลิตรวี 6 เท่านั้น ถือว่าเป็นกฎใหม่เพื่อความปลอดภัยและสร้างความยุติธรรมมากขึ้น เพราะที่ผ่านมาทีมที่พัฒนาเครื่องได้ดีที่สุดอย่างเฟอร์รารี่ในยุค 2000 หรือเรดบลูเรซซิ่งในรอบ 5 ปีที่ผ่านมา คือทีมที่กวาดแชมป์โลกได้ตลอด ทำให้หลายคนมองว่าการแข่งขันนั้นน่าเบื่อ เรื่องต่อมาคือเบอร์ของนักขับให้เหมือนการแข่งขันจักรยานยนต์โมโตจีพี โดยแชมป์เก่าต้องใช้เบอร์หนึ่งโดยอัตโนมัตินั่นก็คือ เซบาสเตียน เว็ตเทล
นอกนั้นก็เลือกเบอร์ที่ชอบตามลำดับ ส่วนรูปแบบของการแข่งขัน มีการเพิ่มรางวัลใหม่ที่เรียกว่า“โพล อะวอร์ด” ให้แก่นักขับที่ทำผลงานในรอบของการจัดอันดับ ก่อนการแข่งขันจริงในวันต่อมาได้ดีที่สุด อีกทั้งการทำ “โดนัท” เหมือนที่ เซบาสเตียน เว็ตเทล ทำเมื่อฤดูกาลที่แล้ว เพื่อฉลองการเป็นแชมป์โดยการหมุนรถให้วนเป็นวงกลม อนุญาตให้ทำได้เฉพาะนักขับที่เป็นแชมป์ในสนามนั้นเท่านั้น เนื่องจากเป็นกฎเรื่องของความปลอดภัย แข่งเสร็จต้องเก็บรถให้เร็วที่สุด
อย่างไรก็ตาม กฎใหม่ที่สร้างความฮือฮาและเสียงต่อต้านไม่น้อยคงหนีไม่พ้น การเพิ่มคะแนนเป็นสองเท่าในสนามสุดท้ายที่
ยาส มาริน่า เซอร์กิต ในอาบูดาบี กรังด์ปรีซ์ ประเทศสาธารณรัฐอาหรับเอมิเรตต์ จากแชมป์ที่จะได้ 25 คะแนนก็จะเพิ่มเป็น 50 คะแนน ดูเหมือนว่ากฎนี้เป็นความคิดของเบอร์นี เอนเคิลสโตนเอง ที่ต้องการลดความน่าเบื่อของการแข่งขันช่วงหลัง แม้ว่าเกือบทุกฝ่ายจะออกมาแสดงความไม่เห็นด้วย คัดค้านกฎข้อนี้ จุดนี้แสดงให้เห็นถึงอำนาจของเบอร์นี ในวงการว่ามีมากขนาดไหนครับ
สุดท้ายนี้ต้องดูกันยาวๆ ว่าทีม หรือนักขับคนไหนจะเป็นแชมป์ แถมเรายังมีทีมของคนไทยอย่างเรดบลู เรซซิ่งอยู่ด้วยจึงไม่น่าพลาดที่จะติดตามเชียร์ครับ