ร้านที่ผมจะพาไปอยู่แถวๆ หลังสวนครับ ชื่อร้านว่า Brown sugar ร้านนี้เป็นร้านระดับตำนานเพราะเปิดมานานกว่า 25 ปีแล้วครับ จากร้านกาแฟเล็กๆ แค่ 4 โต๊ะที่เสิร์ฟด้วยกาแฟและน้ำตาลกรวดทรายแดงซึ่งเป็นที่มาของชื่อร้าน Brown Sugar แต่ด้วยความที่เจ้าของร้านมีเพื่อนฝูงเยอะแวะเวียนกันมาเยี่ยมเยือนบ่อยๆ (รวมทั้งความรักในดนตรีแจ๊ส ซึ่งได้ฟังมาตั้งแต่ได้เล่าเรียนมาจากต่างประเทศ) จึงเป็นที่มาของการเปลี่ยนรูปแบบมาเป็นร้าน Brown Sugar ในปัจจุบัน

เมื่อผมเดินเข้าไปในร้าน หาที่นั่งเหมาะๆ พอนั่งลงผมรู้สึกว่าร้านนี้ตกแต่งได้บรรยากาศจริงๆ ครับ ก้าวแรกก็สัมผัสมนต์ขลังจากความเป็นแจ๊สได้ทันที ทั้งภาพนักดนตรี การจัดแสงในร้าน เสียงเพลงที่ลอยเข้ามาในโสตประสาท ทำให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ในต่างประเทศเลยทีเดียว ของเก่าที่เจ้าของร้านสะสมไว้ก็ถูกรวบรวมมาไว้ในร้านก็ทำให้ที่นี่ไม่ซ้ำที่ไหนๆ

ร้านนี้มีทั้งหมด 2 ชั้นด้วยกัน ชั้นล่างแบ่งเป็นหลายโซน ทั้งแบบเป็นโต๊ะปาร์ตี้มากัน 10 คนก็ยังไหว หรือจะเป็นมุมสงบๆ ที่สามารถพูดคุยกันได้ และยังมีแบบนั่ง 2 ที่ ไว้คุยกันเรื่องพิเศษๆ ส่วนชั้นบนเหมาะกับการเป็นส่วนตัวกับกลุ่มเพื่อนๆ หรือคนพิเศษที่รู้ใจ

ผมนั่งโม้มานาน ท้องก็เริ่มหิวแล้วครับ ผมจึงสั่งอาหารและค็อกเทลชื่อดังของร้านมาลอง อาหารขึ้นชื่อของที่นี่ก็เห็นจะเป็น ขาหมูทอดเยอรมัน ข้าวผัดพริกขิงกุ้งปลากรอบ ส่วนค็อกเทลก็ต้องเป็นบลูฮาวายสีฟ้าเขียวนวล รสนุ่ม หอมมันออก เปรี้ยวนิดๆ เมื่อท้องเริ่มอิ่ม ผมก็เริ่มเคลิบเคลิ้มไปกับวงดนตรีที่บรรเลงเพลงแจ๊สตั้งแต่ยุค 60s จนถึงปัจจุบัน แอบเห็นฝรั่งหัวทองลุกขึ้นโยกย้ายตามจังหวะดนตรีอย่างเมามัน (ลูกค้าที่มาที่นี่มีขาประจำเป็นชาวต่างประเทศจำนวนมาก เรียกว่ามาเมื่อไทยเมื่อไรต้องแวะมาเยี่ยมBrown Sugar ทุกครั้งไป) ในร้านยังมีพื้นที่ให้แขกมาแจมกับวงดนตรีได้ด้วย

เวลาล่วงเลยมาก็เที่ยงคืนกว่าๆ แล้ว ผมรู้สึกชักมึนๆ แล้วล่ะ คงถึงเวลาที่ผมต้องกลับ เพราะถ้ามากกว่านี้สงสัยคงจะไม่ไหวแน่ๆแต่บอกกับตัวเองและเพื่อนๆ ไว้แล้วครับว่าจะกลับมาอีก เพราะติดใจหลายอย่าง อาหารก็อร่อย เครื่องดื่มและการบริการก็สุดยอด ที่สำคัญ Live Jazz Band นั้นเด็ดขาดมากๆ ครับ

How to Go?

จากถนนสีลมตรงไปเลี้ยวขวาเข้าถนนสารสิน (หลังสวนลุมพินี) ร้านอยู่ตรงข้ามสวนเลยครับ สอบถามเพิ่มเติม โทร.0-2250-1826