คเณศวร์ เพิ่มทรัพย์
สถาบันการศึกษาที่เปิดสอนหลักสูตรนอกเวลาให้กับนักเรียนและผู้สนใจมีอยู่ด้วยกันมากมาย อย่างสถาบันกวดวิชา หรือสถาบันสอนภาษาชื่อดังที่นักเรียนแห่กันเข้าไปเรียน เพื่อหวังว่าจะทำให้ตนเองพัฒนาศักยภาพทางวิชาการได้ นอกเหนือจากนี้การสอนทางด้านความรู้สึกและด้านอารมณ์ให้มีทักษะ ก็มีความสำคัญไม่แพ้กันอย่างสถาบันสอนดนตรี New Frontier Music Academy จึงเป็นอีกทางเลือกที่จะทำให้ใครหลายๆ คนพัฒนาตัวเองได้เช่นกัน
คุณโต้ง คเณศวร์ เพิ่มทรัพย์ คือกรรมการผู้จัดการสถาบันสอนดนตรี New Frontier บอกอย่างติดตลกว่าตัวเองคือคนที่ทำให้ทุกคนที่อยู่รอบข้างมีความสุข
เริ่มตั้งแต่ทีมงาน อาจารย์สอนดนตรี นักเรียน ผู้ปกครอง และทำให้ผู้ถือหุ้นของบริษัทมีรอยยิ้มตลอดเวลา
ย้อนกลับไปสมัยที่เขายังเป็นนักศึกษา เขาได้ไปเรียนต่อในต่างประเทศสหรัฐอเมริกาด้านเคมี ในสายงานของวิทยาศาสตร์ พอเรียนไปสักพักก็รู้ตัวว่าไม่ชอบอยู่ในห้องแล็บก็ตอนปี 3แล้ว แต่ก็ฝืนเรียนมาจนจบ ในระหว่างนั้นเอง ชีวิตเขาก็มาเกี่ยวข้องกับดนตรี เมื่อมีเพื่อนฝรั่งชักชวนให้เข้ามาเป็นดีเจเปิดเพลง ซึ่งเป็นสิ่งที่เขาชอบมาก
“การเล่นเพลงแนวดีเจ จะเป็นแนวให้คนได้เต้นรำ เราจะปรับเปลี่ยนบรรยากาศอย่างไรให้คนมีความสุข ช่วงปี 90s เพลงแนวเฮาส์ก็เริ่มเข้ามา ที่อเมริกาจะมีแผ่นเสียงเยอะ เราก็จะได้รับอิทธิพลมา ในขณะเดียวกันเพลงไทยในช่วงนั้นมันค่อนข้างจำกัด แล้วกลุ่มคนฟังก็จะน้อยกว่าต่างประเทศมาก”
พอกลับมาประเทศไทย เขาก็ยังไม่ได้ทำงานเกี่ยวกับเพลงมากนัก แต่กลับไปทำงานด้านงานวิจัย ทำให้ชีวิตช่วงนั้นห่อเหี่ยวมากเขาตัดสินใจไปเรียนกีต้าร์คลาสสิกเพิ่ม จากนั้นก็เรียนอีกหลายๆ แนวตามมา จึงได้รู้ว่าบางครั้งดนตรีไม่ต้องทำตามทฤษฎีร้อยเปอร์เซ็นต์ก็ได้ เพราะดนตรียังมีวิธีที่เข้าถึงได้หลายวิธี ทำให้เกิดอาการอยากรู้อยากฝึกฝนตลอดเวลา และนั่นเป็นเหตุให้มีแนวคิดการทำสถาบันสอนดนตรีในเวลาต่อมา
“เราเห็นว่าโอกาสตรงนี้น่าสนใจ แล้วโลเกชั่นตรงอาคารจตุรัสจามจุรีก็ดี เพราะอยู่ใกล้จุฬาและโรงเรียนในละแวกนี้ ตอนแรกก็คิดว่าจะสอนเด็กเล็กๆ แต่พอเปิดไปเปิดมากลายเป็นโรงเรียนสำหรับผู้ใหญ่ ก็ยังคิดว่าผู้ใหญ่เขาน่าจะเรียนแป๊บเดียว แต่พอเปิดไปเปิดมา 3 ปีกว่า เป็นผู้ใหญ่เกือบครึ่ง ใครไปใครมาก็บอกว่าแปลก ผมว่าสมัยนี้พ่อแม่เขาก็เรียนด้วยนะ เขาเป็นพ่อแม่สมัยใหม่ที่อยากรู้ว่าลูกเรียนอะไร”
ปัจจุบัน New Frontier มีนักเรียนมากกว่า 500 คน ที่นี่เป็นสถาบันดนตรีที่สอนด้วยประสบการณ์จากอาจารย์ด้านดนตรีกว่า27 ปี เป็นสถาบันดนตรีแห่งแรกในประเทศไทยที่ได้รับการรับรองจากสถาบัน Associated Board of The Royal Schools of Music ประเทศอังกฤษ และอย่างที่ทราบกันว่าดนตรีนั้นมีหลากหลาย หลักสูตรของที่นี่จึงมีมากมาย อาทิ Rising Star สำหรบเด็กเล็ก 4-8 ปี Jam Session สำหรับนักดนตรีที่สนใจเล่นรวมวง และร้องประสานเสียง Advance Training เน้นการติวเข้มจากอาจารย์ที่ประสบการณ์สูง แต่ที่เด่นชัดและมีผู้นิยมเรียนก็คือหลักสูตร Your Song ที่เน้นการเรียนแบบสบายๆ ไม่ซีเรียส
“เป็นการเรียนที่เริ่มจากเพลงที่เป็นแรงบันดาลใจของคุณ เพลงอะไรก็ได้ที่ชอบ เพราะเราเชื่อว่าแรงบันดาลใจมาก่อนแล้วจึงค่อยเข้าไปในระบบ อย่างตอนแรกมีบางคนชอบเพลงของบอดี้สแลม แล้วก็มาคุยต่อว่าจะมีวิธีเข้าถึงบทเรียนจริงๆ ได้อย่างไร อย่างเราเอาโน้ตมานั่งอ่านกัน ถ้าไม่อยากมานั่งอ่าน เพราะมีเหตุการณ์สำคัญว่าจะเจอแฟนอีกไม่กี่วัน แฟนจะกลับมาแล้ว อยากเล่นเพลงนี้ให้เขา เราก็ลัดให้เลย แต่จะอยู่ในบทเรียนว่าถ้าบรรทัด 5 เส้นยากจนเรียนไม่ทัน ก็เขียนตัวเลขให้ หรือบางคนเลขก็ไม่ทัน ก็ให้จำเอาเลย คือเดี๋ยวนี้เทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาช่วยเยอะ นี่คือสเต็ปเบื้องต้น เพราะคนที่เล่นเพลงที่ตัวเองชอบได้จะมีความสุข คนเราเมื่อเริ่มทำอะไรที่เขาชอบ เดี๋ยวเขาก็อยากรู้เพิ่มเอง
“หลักสูตร Your Song ที่เด่นเลยก็คือเปียโน กีต้าร์ ส่วนร้องเพลงเขาจะเป็นกันอยู่แล้ว ซึ่งสองอย่างแรกจะเยอะมาก และที่เด่นอีกอย่างหนึ่งก็คือ Your Song เด็กเราก็เชื่อว่าหนังสือฝรั่งเข้าไม่ได้กับเด็กไทย คือต้องใช้คนไทยด้วยกัน คือต้องมีเพลงที่เขาชอบบ้าง ไม่อย่างนั้นจะเป็นระบบระเบียบกันหมด เดี๋ยวจะคิดว่าปล่อยกันเละเทะหรือเปล่า เฉพาะช่วงแรกจะปล่อยให้เขาเล่นก่อนแล้วพอเรียนสักพัก 6 เดือนก็มาอ่านโน้ตกัน หรือเริ่มเล่นกับคนอื่น”
โรงเรียนดนตรีจึงเป็นงานอีกด้านหนึ่งที่ต้องทำงานหนัก ยิ่งการบริหารงานที่รายล้อมด้วยคนจำนวนมาก มักจะมีปัญหาหลายอย่างๆที่ไม่สามารถควบคุมได้ ด้วยลักษณะนิสัยของคนที่ต่างๆ กันทำให้คุณโต้งต้องมีการจัดการอย่างเป็นระบบที่ต้องทำความเข้าใจกันให้มากขึ้น
“เราไม่รู้ว่าคนแต่ละคนจะอารมณ์แบบไหน แล้วเราก็ไม่รู้แบ็คกราวน์ที่ติดตัวมา การพูดคุยกับคนหนึ่งอาจจะดี แต่พูดคุยกับอีกคนหนึ่งอาจจะไม่ดี ต้องใช้เวลาด้วยกัน บางทีเคยจัดการออกกฎระเบียบมาอย่างเข้มงวด งานก็ออกมาเวิร์คนะ แต่เราไม่ได้ใจเขาได้แต่ผลงาน สไตล์ผมจึงใช้เวลาคุย อย่างน้องที่มาใหม่เขาจะงงว่าทำไมประชุมกันเยอะจัง อาทิตย์หนึ่งสองสามหน ที่ว่าทำเยอะแบบนั้นเราอยากให้ทุกคนได้รับประโยชน์มากที่สุด ทั้งนักเรียน ผู้ปกครอง หากใครไม่สบายก็จะคุยเลย แต่ก็ไม่ได้ว่าอะไรเหมือนปรึกษาระบบการทำงานกันมากกว่า
“ตอนนี้กำลังเตรียมกันอยู่คือการแสดงของโรงเรียน ซึ่งปีแรกๆ นักเรียนของเรายังไม่เก่งมาก แต่ว่าเราจะเน้นทีมเวิร์คมากขึ้น ทั้งการเล่นดนตรีคล้าสสิก ดนตรีแจ๊ส เต้นรำ ดีเจ แหล่ มาด้วย ไทยเดิมของดีอย่าไปทิ้ง จุดประสงค์ของการแสดงก็คืออยากให้เด็กใกล้กับบรรยากาศคอนเสิร์ตให้มาก แล้วก็ให้เด็กเขาได้แรงบันดาลใจจากคนอื่นมากขึ้น
Know Him!
• เขาจบการศึกษา Bachelor of Science (Major Chemistry, Minor Computer Science) จาก Fairleigh Dickinson University New Jersey USA และ Master of Science, International Marketing จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
• ดนตรีที่เขาชอบมากคือ ดนตรีแนวเต้นรำ ดนตรีคล้าสสิก กีต้าร์คล้าสสิก รวมถึง เพลงพระราชนิพนธ์
• สิ่งที่เขาอยากเห็นมากที่สุดคือเด็กๆ มีความสุขจากการได้เล่นดนตรี