THE LEGEND OF KUEH LAPIS

THE LEGEND OF KUEH LAPIS

เมื่อประมาณต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา น้องสาวผมได้บินขึ้นมาเยี่ยม จากประเทศสิงคโปร์ มาครั้งนี้ไม่มาเปล่าพาแฟนหนุ่มชาวสิงคโปร์เชื้อสายจีน กลับมาสวัสดีพ่อแม่ถึงบ้าน ก็ไม่ได้เป็นการพามาดูตัวแต่อย่างใดหรอกครับ รู้จักกันดีเพราะเขาคบกันมาหลายปีแล้ว แค่แฟนน้องสาวผมคนนี้เขาไม่ค่อยได้บินขึ้นมาที่ประเทศไทยสักเท่าไร 

มาครั้งนี้เพียงแค่มาเที่ยวพักผ่อนเท่านั้น แต่ไม่ได้มามือเปล่า ซื้อขนมของฝากมาให้ผมเสียด้วย (แหม่..!! รู้ธรรมเนียมดีจริง ๆ)

ผมได้รับขนมจากแฟนน้องมากล่องหนึ่ง เป็นขนมกล่องแดงจากร้านค้าที่มีชื่อว่า BENGAWANSOLO ซึ่งน้องสาวบอกว่าเป็นร้านที่มีชื่อเสียงของสิงคโปร์ แต่สิ่งที่พิเศษกว่านั้นก็คือตัวขนมที่อยู่ข้างในนี้เองครับ ตัวขนมนี้มีชื่อว่า KUEH LAPIS (อ่านว่า เขว-ลาปิส) ผมงงเป็นไก่ตาแตกทันที ขนมอะไรฟระ..? ชื่อก็แปลก อ่านก็ยาก ดูหน้าตาก็งั้น ๆ เหมือน Butter Cake หรือ Layer Cake ธรรมดา ๆ แต่พอหั่นเข้าปากเท่านั้นละครับ..ความนุ่ม ความละมุนลิ้น ความหอมของขนม มันช่างเอ่อล้น...จนผมต้องหันไปทางน้องสาวแล้วพูดว่า  “แกไปอยู่สิงคโปร์มาตั้งหลายปีแล้ว แต่ทำไมบินกลับมาไม่เคยซื้อมาฝากฉันเลยสักครั้งฟระ อร่อยขนาดนี้” 

ผมติดใจในรสชาติทันทีที่ได้ชิมคำแรกและหมดไปในพริบตาเมื่อพ่อแม่ และภรรยา มาร่วมผสมโรง ก็เป็นอันรู้กันเลยครับว่ารสชาติมันอร่อยขนาดไหน

จากคำบอกเล่าของคนท้องถิ่นนั้น (แฟนน้องสาว) เขาได้เล่าให้ผมฟังว่า จริง ๆ แล้วเจ้า KUEH LAPIS นี้เป็นขนมพื้นเมืองของชาวอินโดจีน ซึ่งประกอบไปด้วย อินโดนีเซีย มาเลเซีย และ สิงคโปร์ อาจจะเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า “ขนมชั้น” แต่แตกต่างที่ “ขนมชั้น” ของไทยเราจะนิ่มและมีกลิ่นหวานใบเตย ในขณะที่ของชาวอินโดจีนนี้จะออกไปทางเป็นขนมเค้กที่เป็นชั้น ๆ ซึ่งจะมีหลากหลายรสชาติแล้วแต่คนทำ ซึ่งจะมีทั้งรสลูกพรุน รสลูกเกด รสช็อคโกแลต หรือวานิลลา 

ซึ่งเจ้า KUEH LAPIS โดยส่วนมากจะทำในช่วงเทศกาลต่าง ๆ เช่น วันขึ้นปีใหม่สากล, วันขึ้นปีใหม่จีน หรือช่วงเทศกาลถือศีลอด ของผู้นับถือศาสนาอิสลาม KUEH LAPIS เป็นขนมที่ต้องใช้เทคนิคสูงมากในการทำตลอดทุกขั้นตอนไม่ว่าจะเป็นการทำส่วนผสม การเทลงแม่พิมพ์ การอบ การตัด และที่สำคัญนั่นคือการกดชั้นเค้ก ซึ่งต้องอาศัยความพิถีพิถัน หากกดพลาดหรือ ทำไม่ประณีต ในชั้นขนมจะมีช่องอากาศ และทำให้ตัวขนมไม่เซตตัว แตกออกได้ 

ผมพิจารณาดูจากหน้าตาของขนมแล้ว ไม่น่าเชื่อครับว่า จะเป็นขนมต้นตำรับของชาวเอเชียอินโดจีน เลยได้พยายามหาข้อมูลจากเว็บไซต์ต่าง ๆ เลยได้คำตอบพอสังเขปว่า ขนมนี้จริง ๆ แล้วต้นตำรับน่าจะมาจากชนทางยุโรปตอนเหนือ (สแกนดิเนเวียน) และกระจายเข้ามาสู่ชนชาวอินโดจีนตั้งแต่ในสมัยยุคของการล่าอาณานิคมนั่นเอง (คาดเดาว่าน่าจะตรงใน รัชสมัย ร.5 ของไทยเรา) 

ซึ่งอินโดนีเซียน่าจะเป็นชาติแรกที่ได้รับอิทธิพล เพราะเป็นประเทศที่ตกอยู่ภายใต้อาณานิคมของประเทศเนเธอร์แลนด์ก่อนที่จะกระจายความนิยมมาสู่ประเทศมาเลเซีย และสิงคโปร์ ที่อยู่ในกลุ่มอินโดจีนด้วยกัน ซึ่งแต่เดิมเป็นขนมที่ใส่เครื่องเทศเยอะมาก ภายหลังด้วยวัฒนธรรมการกินและวัตถุดิบท้องถิ่น เลยมีการแปลงสูตรจนมาเป็น KUEH LAPIS สูตรรสชาติต่าง ๆ ในปัจจุบัน

สิ่งสำคัญคือ ในปัจจุบัน KUEH LAPIS ถือได้ว่าเป็นขนมที่ค่อนข้างหากินยากครับ (หายากพอ ๆ กับขนมขี้หนูในประเทศไทยเรา) เนื่องด้วยกรรมวิธีในการทำนั้นค่อนข้างยุ่งยากหลายขั้นตอน คนทำที่มีฝีมือก็ผันตัวไปทำขนมอย่างอื่นที่สามารถทำได้ง่าย จำนวนมากเพื่อช่องทางธุรกิจที่เปิดกว้างขึ้น อีกทั้ง KUEH LAPIS เองก็มีราคาแพงอยู่พอสมควรเมื่อเทียบกับขนมอย่างอื่นทั่วไป เลยนำเรื่องราวของเจ้าขนมนี้มาฝากท่านผู้อ่าน หากมีโอกาส อยากให้ลองลิ้มชิมรสชาติของมันดูสักครั้ง ทานคู่กับกาแฟตอนเช้า ๆ ด้วยรสชาติของมันอาจทำให้เช้านั้นของคุณเป็นเช้าที่สดใสขึ้นมาก็ได้ครับ

KUEH LAPIS (เขว-ลาปิส) ขนมพื้นเมืองของประเทศสิงคโปร์