อรอุมา กุลนาค

อรอุมา กุลนาค

หลังจากประเทศจีนใช้ระบอบเศรษฐกิจแบบผสม ด้วยนโยบาย 1 ระบอบ 2 ระบบ ทำให้ตอนนี้จีนมีเศรษฐกิจใหญ่เป็นที่สองรองจากสหรัฐอเมริกาเท่านั้น นี่จึงเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้สินค้าจีนเข้ามาในประเทศไทยอย่างล้นหลาม คุณมด อรอุมา กุลนาค มีโอกาสได้เข้าไปสัมผัสระบบการค้าของประเทศจีน จากนั้นจึงฉุกคิดว่าถ้าเป็นแบบนี้ไทยจะเสียดุลการค้ากับจีนมากเกินไป จึงพยายามผลักดันสินค้าของคนไทยเพื่อให้เข้าไปตีตลาดในจีนมากขึ้น

คุณมดเติบโตมากจากการค้าขายในตลาดศรีเมือง จังหวัดราชบุรี ที่ถือว่าเป็นศูนย์กลางการค้าผักและผลไม้ที่ใหญ่แห่งหนึ่งในภาคตะวันตก เมื่อเริ่มโตขึ้นคุณมดก็นำเอาผลไม้มาขายในตลาดไท ในย่านวิภาวดี ซึ่งในเวลาต่อมาคุณมดก็ได้ศึกษาที่มหาวิทยาลัยรังสิต ทำให้ได้ขายของและเรียนหนังสือไปพร้อม ๆ กัน

แต่ความฝันของคุณมดยังไม่จบ เธอฝันที่จะค้าขายในระดับที่อินเตอร์มากขึ้น โดยเล็งเห็นแล้วว่าประเทศจีนเป็นประเทศที่มีศักยภาพทางการค้าสูง จึงเลือกที่จะเข้าไปศึกษาที่นั่น ซึ่งที่แห่งนี้มีนักธุรกิจนำเข้าและส่งออกสินค้าจากไทยไปจีนและจากจีนมาไทย โดยว่าจ้างนักศึกษาไทยให้ช่วยติดต่อประสานงานเรื่องสินค้า ทำให้เธอได้เรียนรู้เรื่องการนำเข้าและส่งออกเต็มรูปแบบ

เมื่อกลับมาประเทศไทยเธอจึงดำเนินธุรกิจที่มีความรู้เรื่องการนำเข้าสินค้ามาขายในประเทศไทย และประสบความสำเร็จอย่างสูงกับธุรกิจขนตาปลอม เมื่อถึงจุดหนึ่งเธอก็มีความคิดว่าแทนที่จะนำเข้าอย่างเดียวเป็นการส่งออกไปยังไปประเทศจีนเพราะมีตลาดที่เติบโตได้อีกเยอะ และที่สำคัญยังสามารถระดมคนไทยให้มีการส่งออกไปยังประเทศจีน จึงเป็นที่มาของเฟซบุ๊กแฟนเพจ ปล้นคนจีน ที่ให้ความรู้ และรวมผู้ประกอบการไทยเพื่อจะส่งออกไปประเทศจีนอีกทางหนึ่ง

“จากปัญหาผู้ประกอบการไทยไม่สามารถเจรจาทางการค้าได้ประสบความสำเร็จมากนักอาจด้วยอุปสรรคหลายอย่าง แต่เมื่อเพจนี้เกิดขึ้นมามดจะคอยดูแลแทบทุกอย่างเพื่อให้ผู้ประกอบการได้มีการจับคู่ทางธุรกิจในประเทศจีนจนสำเร็จ Platform ปล้นคนจีนเหมือนเป็นไกด์ไลน์ให้ผู้ประกอบการ แต่ว่าส่วนงานทั้งหมดจะมีบริษัทลูกเข้ามาดูแล นักธุรกิจไทยแทบทุกขั้นตอน

“มักมีคนถามว่าต่างจากบริษัทชิปปิ้งอย่างไร คือบริษัทชิปปิ้งส่งของแล้วจบ แต่ของเราไม่ได้ส่งของ เราทำตลาดที่ประเทศจีนให้ เราไม่สามารถตอบได้ว่าสินค้าไทยจะขายได้จริง เราต้องทดลองส่งสินค้าเข้าไปขาย เพื่อให้ได้ข้อมูลมาตั้งแต่กลุ่มลูกค้าและราคา มีอะไรต้องปรับเปลี่ยนบ้าง ซึ่งเราจะมีระยะเวลาประมาณ 4 เดือนในการวัดผลสรุปออกมา แล้วทำมาร์เก็ตติ้ง รวมถึงเรื่องการขายออนไลน์หรือออฟไลน์ดีกว่ากัน 

“ผู้ประกอบการที่จะส่งสินค้าออกไปประเทศจีนอย่างแรกต้องดูก่อนว่า ในประเทศจีนมีสินค้าตัวนี้หรือไม่ มันเป็นคีย์แรกที่ทำให้คุณได้เปรียบ แต่ถ้ามีสินค้าแบบเดียวกันกับเขาก็ต้องดูความแตกต่าง เช่นเครื่องสำอางบางประเภทของไทยก็ขายดีติดอันดับจากภาพลักษณ์หรือวางแผนการตลาดที่ดีซึ่งเป็นส่วนสำคัญ

“โดยสินค้าที่ขายดีจากไทยไปสู่จีนส่วนใหญ่เป็นวัตถุดิบที่ไม่มีในประเทศของเขา ซึ่งมันขายได้อยู่แล้วอย่าง ยางพารา ทุเรียน หรือสมุนไพรไทย ของที่เป็นแบรนด์เฉพาะตัวก็ขายได้ เช่นพวกกระเป๋าที่ทำจากยางรถยนต์ ซึ่งสินค้าที่มีเอกลักษณ์ยังไงก็ขายได้ 

“บางคนอาจได้ยินมาว่าการขายของกับจีนมักมีการโกงกันเยอะ แต่ด้วยตอนนี้มันเริ่มมีน้อย เพราะมีการจ่ายเงินเขาไปในส่วนของระบบออนไลน์ ที่เอาไว้กับคนกลางก่อนจนกว่าผู้ซื้อได้รับของเรียบร้อย เงินจะค่อยไปหาผู้ขายอีกที

“เป้าหมายของมดในอนาคตคือพยายามปั้นผู้ประกอบการคนไทยเพื่อส่งออกไปประเทศจีนให้ได้มากที่สุด อยากให้ชีวิตของผู้ประกอบการไทยดีกว่าที่เป็นอยู่ในตอนนี้ เพราะมดเชื่อมั่นว่าสินค้าไทยมีคุณภาพดีมาก ต่างชาติให้การยอมรับ เพียงแต่เราอาจยังไม่รู้หนทางที่จะไปยังไงแค่นั้นเอง” 

 

Export Promoter ธุรกิจส่งออก และการทำตลาดในจีน