ดูไป เฮไป ปรบมือไป ไม่เกินจริง สำหรับ “เสือ” ผลงานภาคแยกจาก #จักรวาลขุนพันธ์ ที่ยิ่งสร้าง ยิ่งจัดจ้านและลงตัว ผู้กำกับ “ก้องเกียรติ โขมศิริ” อัดฉีดความบันเทิงไม่ยั้งมือ สมฐานะมหากาพย์แอ็กชันไทยแห่งปีที่คอหนังไม่ควรพลาด

“เสือ” คือผลงานที่หยิบจับเรื่องราวของยุคสมัย บุคคลในประวัติศาสตร์ และตำนาน นำมาผสมผสานดัดแปลงไม่ต่างจากไตรภาคขุนพันธ์ บวกกับประสบการณ์ของทีมผู้สร้างที่สั่งสมมากว่า 10 ปี ส่งผลให้เรื่องนี้ดูกลมกล่อม จัดจ้าน และมีแนวทางที่ชัดเจนยิ่งขึ้นกว่าทุกภาค ไม่รู้สึกว่ามันขาด ๆ เกิน ๆ ระหว่างดูอีกต่อไป กลายเป็นความเท่ ความเบียว ความฮา ความสนุกสนานที่โดนเส้นอย่างแท้จริง

นอกจากนี้ “เสือ” ยังโดดเด่นด้วยฉากแอ็กชันที่มันส์เต็มแม็กซ์ งัดทุกคาถาและลีลาบู๊มาต่อสู้ได้บันเทิงมาก ยิ่ง 4 เสือมีคาแร็กเตอร์ชัดไม่ทับทาง ยิ่งทำให้แอ็กชันซีนเดี่ยว ซีนคู่ ซีนคี่ รวมถึงซีนหมู่ของพวกเขาดูโคตรเท่ โคตรอันตราย มากกว่าตอนดูขุนพันธ์เสียอีก

นอกจากนี้ หากไม่พูดถึงเลยก็คงจะไม่ได้ สำหรับคุณผู้กำกับ “ก้องเกียรติ โขมศิริ” รายนี้นอกจากเขาสร้างหนังแล้ว เขายังทำให้ “เสือ” กลายเป็นผลงานระดับไอคอนิกประดับวงการ ชนิดที่ว่าน่าจดจำในทุกซีน โดยเฉพาะซีนท่องคาถา “วา โธ โน อะ มะ มะ วา วา” ของ “เสือฝ่าย” ที่คนดูหนังจบมาต้องเผลอท่องตาม ๆ กันไม่มากก็น้อย ไหนจะซีน “เสือใบ” สายฮา “เสือดำ” สายซึน รวมถึง “เสือมเหศวร” ที่เนิร์ดจัดแต่ยังเท่อยู่

สำหรับภาพรวม “เสือ” จึงเป็นอีกหนึ่งผลงานหนังไทยแห่งปี มอบความบันเทิงที่มาพร้อมกับเซอร์ไพรส์ในระดับที่ใครก็คาดไม่ถึง หากไม่ได้ดูก็คงเสียใจแย่เอาครับ