คราฟต์จินตนาการขั้นสุด!! “A Minecraft Movie - ไมน์คราฟต์” เตรียมพร้อมสู่การผจญภัยสุดยิ่งใหญ่ในดินแดน ‘โอเวอร์เวิร์ล’ วันนี้ในโรงภาพยนตร์

คราฟต์จินตนาการขั้นสุด!! “A Minecraft Movie - ไมน์คราฟต์” เตรียมพร้อมสู่การผจญภัยสุดยิ่งใหญ่ในดินแดน ‘โอเวอร์เวิร์ล’ วันนี้ในโรงภาพยนตร์

เตรียมพร้อมสู่การผจญภัยสุดยิ่งใหญ่!! ภาพยนตร์จาก วอร์เนอร์ บราเดอร์ส พิกเจอร์ส และ เลเจนดารี่ พิกเจอร์ส เรื่อง “A Minecraft Movie - ไมน์คราฟต์” ดัดแปลงจากวีดีโอเกมที่มียอดขายสูงสุดตลอดกาล ไมน์คราฟต์ ในรูปแบบไลฟ์แอ็คชั่นบนจอยักษ์ครั้งแรก กำกับฯ โดย จาเร็ด เฮสส์ นำแสดงโดย เจสัน โมโมอา และ แจ็ค แบล็ค พร้อมด้วย เอ็มมา ไมเยอร์ส (Wednesday), แดเนียลล์ บรูคส์ (The Color Purple), เซบาสเตียน ยูจีน แฮนเซน (Just Mercy, Lisey’s Story) ตามมาด้วย เจนนิเฟอร์ คูลิดจ์ (White Lotus) และ เคท แม็คคินนอน (Barbie)

ขอต้อนรับสู่โลกของ ไมน์คราฟต์ ที่นี่ความสร้างสรรค์ไม่ได้ช่วยคุณแค่การสร้างผลงานขึ้นมา แต่ยังมีผลสำคัญต่อการมีชีวิตอยู่รอดด้วย! คนแปลกหน้าทั้ง 4 ได้แก่ การ์เร็ตต์ “มนุษย์ขยะ” การ์ริสัน (โมโมอา), เฮนรี่ (แฮนเซน), นาตาลี (ไมเยอร์ส) และดอว์น (บรูคส์) พบว่าจากที่ตัวเองต้องดิ้นรนกับปัญหาธรรมดาๆ เแต่จู่ๆ พวกเขาถูกดึงผ่านพอร์ทัลลึกลับเข้าสู่ โอเวอร์เวิร์ล โลกแปลกประหลาด คิวบิกวันเดอร์แลนด์ที่เจริญรุ่งเรืองตามจินตนาการ วิธีเดียวที่จะกลับบ้านคือพวกเขาต้องหาทางสร้างสรรค์สิ่งต่าง ๆ ในโลกใบนี้ (และปกป้องจากสิ่งเลวร้ายทั้งพวกพิกลินและซอมบี้) ระหว่างนั้นต้องร่วมทำภารกิจสุดวิเศษกับ สตีฟ (แบล็ค) นักประดิษฐ์ผู้มีความชำนาญอย่างคาดไม่ถึง การผจญภัยของพวกเขาจะท้าทายทั้ง 5 คน ให้พวกเขาได้ใช้ความกล้าและดึงความสร้างสรรค์ของแต่ละคนออกมาใช้... พวกเขาต้องอาศัยความสามารถขั้นสูงเพื่อกลับมายังโลกแห่งความจริงให้ได้  

เฮสส์ ผู้เข้าชิงรางวัล Oscar (Ninety-Five Senses, Nacho Libre) ขึ้นแท่นเป็นผู้กำกับจากบทภาพยนตร์ที่เขียนโดย คริส โบว์แมน, ฮับเบล พาล์มเมอร์, นีล ไวด์เนอร์, เกวิน เจมส์ และ คริส กัลเลททา เรื่องโดย อัลลิสัน ชโรเดอร์, คริส โบว์แมน และ ฮับเบล พาล์มเมอร์ ซึ่งอิงมาจากเนื้อหาในวิดีโอเกม ไมน์คราฟต์ พร้อมด้วย รอย ลี, จอน เบิร์ก, แมรี พาเรนต์, เคล บอยเตอร์, เจสัน โมโมอา, จิล เมสซิก, ทอร์ฟี่ ฟรานส์ โอลาฟสัน และ วู บูอิ อำนวยการสร้าง และ ท็อดด์ ฮัลโลเวลล์, เคย์ลีน วอลเตอร์, เบรน เมนโดซ่า, โจนาธาน สเปตส์, เปเต เชียเพต้า, เอนดรู ลารี่ และ แอนโทนี่ ติตาเนโกร ผู้อำนวยการสร้าง

ทีมงานเบื้องหลังสุดสร้างสรรค์ของผู้กำกับ นำโดย ผู้กำกับภาพที่ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล BAFTA เอ็นริเก้ เชดิแอค (127 Hours, Transformers: Rise of the Beasts), ผู้ออกแบบงานสร้างเจ้าของรางวัลออสการ์ แกรนท์ เมเจอร์ (The Lord of the Rings: The Return of the King, The Meg), ผู้ลำดับภาพ เจมส์ โธมัส (Pokémon: Detective Pikachu, ภาพยนตร์ Borat), แดน เลมมอน ผู้เชี่ยวชาญวิชวลเอฟเฟ็กต์เจ้าของรางวัลออสการ์ (The Jungle Book, The Batman) และผู้ออกแบบเครื่องแต่งกาย อแมนด้า นีล (The Meg, What We Do in the Shadows) คัดเลือกนักแสดงโดย Rachel Tenner ผู้ดูแลด้านดนตรี เก๊บ ฮิลเฟอร์ และ คาริน รัคท์แมน ดนตรี โดยมาร์ค มาเธอร์สบาห์ (Thor: Ragnarok, ภาพยนตร์ LEGO®)

การสร้างภาพยนตร์ “A Minecraft Movie”

“ไมน์คราฟต์เป็นดินแดนที่ไร้สาระที่สุดเท่าที่ผมเคยไปเยือนมา ผมรักมันมากเลย!” ผู้กำกับฯ จาเร็ด เฮสส์ กล่าวย้ำ เขาคือผู้สร้างภาพยนตร์ที่เต็มไปด้วยอารมณ์ขันจากผลงานที่แฟนๆ ชื่นชอบอย่าง Napoleon Dynamite และ Nacho Libre “มันมีความสร้างสรรค์สุดๆ มีความแปลก เต็มไปด้วยกาผจญภัย เดาทางไม่ถูก ไมน์คราฟต์ทุกสิ่งล้วนเป็นไปได้อย่างไม่รู้จบ คุณสามารถปรับเปลี่ยนบรรยากาศ สามารถสำรวจ ทำเหมือง นั่งเล่น เก็บทรัพยากร สร้างบ้านแสนสวย แมนชั่น ที่ตั้งลับ ฐานทัพได้ จะทำอะไรก็ได้ตามใจต้องการ สามารถเลือกการผจญภัยของตัวเองในเกมได้ เมื่อเรามีการพัฒนาสู่รูปแบบภาพยนตร์ เราคิดว่าจะปล่อยให้สร้างการผจญภัยของตัวเราเองขึ้นมา สร้างสิ่งที่เราต้องการ สร้างโลกสุดแปลกพร้อมกับตัวละครเหล่านี้ขึ้นมา ดูว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นบ้าง หนังเรื่องนี้เป็นเพียง 1 ในล้านเรื่องราวความต่างของไมน์คราฟต์อย่างที่ใครๆ ก็สร้างขึ้นมาเมื่อเล่นเกมนี้”

นักแสดงและผู้สร้างฯ เจสัน โมโมอา เล่าว่า “ผมคิดว่านี่เป็นหนังเรื่องแรกที่ผมได้ทำอะไรแบบนี้ ผลงานไลฟ์แอ็คชันที่ได้เข้าไปอยู่ในโลกแบบนี้ ไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ มันคือเรื่องราวที่ได้อยู่ในประวัติศาสตร์ นี่เป็นครั้งแรกของผม มันน่าทึ่งมาก จาเร็ด เฮสส์ ผมรักเขา ผมยินดีมากถ้าจะร่วมงานกับจาเร็ดได้ตลอด ผมรักหนังของเขา ผมรักตัวละครที่เขาสร้าง เขาเป็นมนุษย์ที่มีความแปลก เป็นมนุษย์คนหนึ่งที่เจ๋งมากเท่าที่ผมเคยเจอมาในชีวิต เล่าถึงเรื่องดีๆ ได้ไม่หมดเลยล่ะ ผมเลยได้แต่พูดว่า ‘ผมร่วมงานด้วย!’”

นักแสดงแจ็ค แบล็คเล่าเสริม “ผมสัมผัสความรู้สึกได้ ทุกคนที่คลั่งไมน์คราฟต์ตื่นเต้นกับหนังเรื่องนี้ ผมคิดว่ามีลายคนที่ไม่อยากเชื่อว่านี่คือเรื่องจริง มันเกิดขึ้นจริง ผมสัมผัสได้ตอนที่โพสต์ถึงเรื่องนั้นว่า ‘โอ้ ผมจะได้อยู่ในโลกของไมน์คราฟต์’ ซึ่งเป็นภาพของผมตอนอ่านนังสือ Minecraft for Dummies มีคนกดไลค์เป็นล้านคนและเกิดความรู้สึกว่า ‘โอ้ เกิดกระแสขึ้นแล้วล่ะ’ มันคือปรากฎการณ์ เกมนี้มีคนรักหลายล้านคนทั่วโลกมานานหลายปี และผมคิดว่าหนังเรื่องนี้มีความสำคัญต่อใครหลายคน เพราะมันเป็นเรื่องของยุคสมัย มีเด็กๆ ที่โตขึ้น อยู่ในโลกแห่งการทำงาน ใช้ชีวิตและมีครอบครัวของตัวเอง เกมนี้อยู่ในโลกของเรามานานขนาดนั้นแล้ว มันเลยวิเศษมากที่สุดท้ายได้นำโลกใบนั้นมาอยู่ในโรงภาพยนตร์”

การเดินทางของการพาโลกทั้งใบสู่จอยักษ์

จุดกำเนิดมาจาก Mojang จากนั้นเป็นสตูดิโอเกมเล็กๆ ในประเทศสวีเดน ไมน์คราฟต์ได้สร้างปรากฎการณ์ทั่วทุกมุมะโลก จากนั้นมีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อปี 2011 โดยเกม 300 ล้านก็อปปี้ถูกจำหน่ายโดยมีผู้เล่นต่อเดือนเกือบ  140 ล้านคน จนกลายเป็นวีดีโอเกมที่มียอดขายดีที่สุดตลอดกาล

ไมน์คราฟต์เป็นเกมที่ต้องมีความใส่ใจและใช้ความสร้างสรรค์ มันมีทั้งการทุบทำลาย เก็บสะสม และวางกล่อง ผู้เล่นต้องช่วยกันสร้างความมหัศจรรย์และโลกอันน่าทึ่งขึ้นมา ต่างจากเกมที่มีการแข่งขันกัน ไมน์คราฟต์เป็นการรวมตัวนักสร้างสรรค์ มาสร้างผลงานร่วมกัน เรียนรู้ร่วมกัน และเล่นร่วมกัน เฉลี่ยต่อวันในเกมมีผู้ขุดสร้างผลงาน 8.8 ล้านครั้ง พบเพชรจำนวน 6.7 ล้านชิ้น และผลิตเค้ก 700,000 ชิ้นขึ้นมา

ทอร์ฟี่ ฟรานส์ โอลาฟสัน หนึ่งในครีเอทีฟไดเรกเตอร์แห่งไมน์คราฟต์และผู้สร้างฯ ได้กล่าวถึงจุดเด่นของโลกการเล่นเกมว่า “ไมน์คราฟต์เป็นเกมในกล่องทราย แต่ไม่มีการเขียนเกมเอาไว้ล่วงหน้า คุณต้องสร้างเรื่องราวขึ้นมาเอง มันเลยเต็มไปด้วยการผจญภัย เป็นที่ๆ คุณจะได้เสี่ยงหรือล่สมบัติและมีประสบการณ์ต่างๆ แต่ผู้เล่นแต่ละคนจะมีคำสั่งต่างกันไป พวกเขาจะทำงานต่างกัน และแต่ละคนจะได้ประสบการณ์ที่ต่างกัน”

ประสบการณ์เฉพาะตัวของผู้เล่นแต่ละคนคือจุดเด่นของหนังเรื่องนี้ “เราไม่สามารถพูดได้ว่านี่คือหนังไมน์คราฟต์ และทำเป็นหนังที่สมบูรณ์แบบที่สุดในตำนานไมน์คราฟต์” โอลาฟสัน กล่าว “นอกจากเป็นหนังไมน์คราฟต์แล้ว นี่ยังเป็นเรื่องราวในฉากของโลกไมน์คราฟต์ หนึ่งในพันล้านเหตุการณ์ด้วย”

“ไมน์คราฟต์มีเอกลักษณ์แตกต่างของการเป็นเกมเปิด ทุกคนสามารถเล่นเกมได้ต่างกันไป” ผู้อำนวยการสร้างฯ เคล บอยเตอร์ กล่าว “คุณสามารถเล่นได้อย่างไร้ขีดจำกัด สามารถดูวีดีโอบน YouTube หรือเฝ้าดูลูกๆ เล่นไมน์คราฟต์ได้ตามความเหมาะสม มันเป็นมากกว่าเกม มีจุดเชื่อมโยงวัฒนธรรมการใช้ชีวิตของลูกเรา พวกเขามีความผูกพันกับเกมยาวนานหลายปี ทำให้ไมน์คราฟต์มีความผูกพันเป็นการส่วนตัว เรามองว่า ‘A Minecraft Movie’ เหมือนการตีความเรื่องราวสุดพิเศษในโลกของไมน์คราฟต์ เราอยากแน่ใจว่าเราบอกเล่าเรื่องราวที่มีชื่อเสียงที่มีความสำคัญกับผู้ชมได้ดี”

ผู้สร้างฯ พากันทดสอบคอนเซ็ปต์ในเวอร์ชันภาพยนตร์ร่วมกับกลุ่มอินฟลูเอนเซอร์ของไมน์คราฟต์ บอยเตอร์ เล่าว่า “นับเป็นเรื่องสนุกที่มีการนำเสนอไอเดียต่างๆ ให้พวกเขา ได้มุมมองจากพวกเขา และสร้างความมั่นใจว่าเรากำลังสร้างหนังที่กำลังสื่อสารกับพวกเขา และพวกเขาจะสัมผัสความรู้สึกนั้นได้ทันที”

ผู้สร้างฯ เก็บไอเดียสำคัญ 2 เรื่องของเกมเอาไว้ ความสร้างสรรค์และความอยู่รอด “ความสร้างสรรค์คือพื้นฐานสำคัญของหนังเรื่องนี้ เช่นเดียวกับเรื่องความอยู่รอด” บอยเตอร์อธิบายต่อ “ไอเดียของความสร้างสรรค์อาจนำไปเพื่อความอยู่รอดกลายเป็นประเด็นสำคัญของเนื้อเรื่องเรา ทั้งในโลกของไมน์คราฟ์และในชีวิตจริงด้วยเช่นกัน”

เมื่อมาถึงจุดที่ต้องตามหาผู้กำกับฯ ที่เหมาะสม ผู้สร้างฯ ได้เลือกจาเรด เฮส ผู้เคยสร้างความโดดเด่นให้ผลงานต่างประเทศด้วยเรื่อง “Napoleon Dynamite” ที่เขาร่วมกำกับฯ กับภรรยาเจรูชา เฮส “ผมเคารพในหนังเรื่องนั้นและทุกสิ่งที่จาเรดสร้างเอาไว้ ผมตามเขามานานหลายปีเพื่อมาเป็นส่วนหนึ่งในหนังของเรา ไม่เคยสำเร็จจนกระทั่งตอนนี้ ไมน์คราฟต์เป็นเกมที่มีความพิเศษมาก มันไม่ใช่เกมที่จะเป็นอย่างไรก็ได้ มันมีความงดงาม สร้างความสุขอย่างบังเอิญได้แบบวันนี้ มีอิสระบางอย่างอยู่ในเกม มีทั้งอิสระ แรงผลักดัน และความงดงามที่มาจากใจของจาเรด เฮส ซึ่ง 2 สิ่งนั้นคือเรื่องที่เข้าใจได้”

“เมื่อคุณเล่นเกมไมน์คราฟต์ มันคือสังคมอย่างชัดเจน” เฮสกล่าว “มีหลายคนเล่นอยู่ทั่วโลกตลอดเวลา และมันมีมิตรภาพในเกมที่ยั่งยืน เวลาที่เราเล่นเกมเราสามารถเข้าถึงพลังแห่งความสร้างสรรค์พิเศษ นั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวละครในเรื่อง ความประหลาดของเกมคือเวลาที่เราเล่นเกมนี้ มันไม่มีเนื้อเรื่องอะไรเลย ใครก็เล่นเกมนี้ได้ และมีผู้เล่นทั่วโลกนับพันล้านคนที่สร้างสรรค์เรื่องราวของตัวเองเวลาที่เล่นเกม มันเลยมีพันล้านเรื่องราวอยู่ที่นั่น ส่วนนี่คือเรื่องราวหนึ่งในนั้น มันไร้สาระ มีความสนุก เป็นการผจญภัยแหวกแนวที่คุณจะได้เคยสัมผัสมาก่อน”

ความสร้างสรรค์คือหัวใจสำคัญของการอยู่รอด เฮสและทีมเขียนบทมาพร้อมกับเรื่องราวที่มีตัวละครไม่ได้อยู่ในโลกอื่น แต่อยู่ในโลกอันเหลือเชื่อ ได้ใช้จินตนาการของตัวเองเพื่อออกไปจากตรงนี้ “นีเธอร์เป็นที่แออัดเต็มไปด้วยสิ่งมีชีวิตที่รีกว่าพิกลินส์ มันคือพวกป่าเถื่อนอย่างแท้จริง” เฮสกล่าว “พวกมันถูกชักนำโดยแม่มดร้ายที่ชื่อมัลโกชา เธอพยายามหาทางแก้แค้นโอเวอร์เวิร์ล เธอเกลียดทุกความสร้างสรรค์ เธอพยายามจะเข้าไปอยู่ในโอเวอร์เวิร์ล ครอบครองและทำลายความงดงามของที่นั่น เธอคือตัวการร้ายที่สำคัญในหนังของเรา”

โปรเจ็กต์นี้มีความท้าทายมากมาย และได้ความช่วยเหลือจากเจนส์ “เจ็บ” เบอร์เกนสเตน ผู้สร้างไมน์คราฟต์และซีซีโอแห่ง Mojang ที่มาช่วยสร้างความมั่นใจให้ทีมงานเรื่องความสมจริงเหมือนเกม มันต้องอาศัยเวลาพักหนึ่งก่อนที่ทีมงานจะเกิดไอเดียว่าไมน์คราฟต์ไม่ใช่แค่เรื่องราวเรื่องหนึ่ง แต่มีอีกหลายเรื่องราวมากมาย “ไมน์คราฟต์มีความน่าทึ่งสำหรับเด็กและผู้ใหญ่ เรื่องราวความสนุกอยู่ที่เรื่องราวของผู้เล่นทั้งหลาย” เบอร์เกนสเตนกล่าว “เวลาที่เราบอกเล่าเรื่องราวของไมน์คราฟต์ในหนัง มันง่ายกว่าหากจะคิดว่า ‘โอเค สิ่งสำคัญคือนี่เป็นเรื่องราวที่สนุก ภาพยนตร์ต้องสมจริงเหมือนไมน์คราฟต์’ ทำให้ลดความกดดันลงในมุมการสะท้อนเรื่องราวของเกม ระหว่างการพัฒนาเราอยากถ่ายทอดบางสิ่งที่ผู้เล่นเข้าใจได้ว่า ‘โอ้ ใช่เลย ฉันสร้างอะไรแบบนั้นขึ้นมา นั่นคือสิ่งที่เกิดกับเรื่องของฉันเหมือนกัน’ มีหลายรายละเอียดที่ทุกคนสัมผัสได้จากไมน์คราฟต์ จากนั้นผู้เล่นสามารถใช้มันสร้างเรื่องราวที่มีเอกลักษณ์ขึ้นมาได้ สำหรับเรื่องนี้มันคือสิ่งที่เหมาะกับภาพโดยรวมขนาดใหญ่”

เบอร์เกนสเตนรู้สึกสับสนว่าความธรรมดาที่ผู้เล่นสัมผัสได้ตอนเข้าสู่โลกของไมน์คราฟต์จะมาครอบงำหนังเรื่องนี้ “เราต้องการประสบการณ์ในช่วงคืนแรก เพราะมันคือเกมที่ชวนสับสนในช่วงแรกเริ่ม” เขากล่าว “มันมีความงดงามอย่างประหลาดในช่วงกลางวัน แต่พอตะวันตกดินก็จะมีซอมบี้ ครีปเปอร์ โครงกระดูกออกมาทั่วทุกแห่ง มันน่ากลัวมากและเราไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไร เราจะพยายามขุดหลุมลงไปใต้ดินและซ่อนตัวจนกว่าพระอาทิตย์จะขึ้น หรือเราจะถมดินและยืนอยู่ตรงนั้นจนกว่าจะรู้สึกปลอดภัย มันน่ากลัวมากและเป็นช่วงเวลาสำคัญที่เราอยากใส่ไว้ในหนัง”

เขาเล่าเสริมว่าพวกเขาต้องแน่ใจว่ามีการสร้างรายละเอียดต่างๆ ที่คนเล่นเกมหวังว่าจะได้เห็น นอกจากเรื่องการออกแบบและการก่อสร้าง “ผมคิดว่าสิ่งที่เป็นเอกลักษณ์คือตัวละครที่เรียกว่าครีปเปอร์” เขาอธิบาย “มันเป็นมอนสเตอร์ตัวสีเขียวที่จะคอยตามคิดคุณและระเบิด ใครก็ตามที่เล่นไมน์คราฟต์จะรู้ดี เพราะมันน่ารำคาญ แถมมันยังเป็นมอนสเตอร์ที่น่ากลัวมากที่สุดตัวหนึ่งด้วย เพราะหากมีการระเบิดก็จะทำลายบางสิ่งบางอย่าง”

การรักษาอารมณ์ที่แท้จริงและพื้นฐานของเกมคือสิ่งสำคัยที่สุดสำหรับเฮส “ความสำคัญอยู่ที่การสร้างความสมจริงของเกมและโลกใบนั้นให้ได้มากที่สุด” ผู้กำกับฯ กล่าว “มีบางอย่างในเกมที่ไม่สามารถถ่ายทอดผ่านการดัดแปลงสู่ภาพยนตร์ได้ เราใช้เวลาร่วมกับเจนส์ เบอร์เกนสเตนและทีมงานที่สวีเดนทั้งหมดอยู่นาน เพื่อช่วยกันแก้ปัญหานั้น จัดการเรื่องรายละเอียด สร้างทุกอย่างให้ถูกต้องเหมาะสม ทีมงานที่ Weta สร้างคอนเซปต์อาร์ทของภาพชาวบ้านออกมาได้น่าทึ่ง เราพยายามออกแบบตัวละคร ฉากต่างๆ และทุกอย่างให้เหมือนกับในเกมที่สุด แม้ว่าบางที่จะต้องเจอความยากลำบากและได้รับการอนุญาตในการสร้างสรรค์ เราต้องถ่ายทอดผลงานนั้นออกมาให้ได้”

สำหรับโอลาฟสัน การได้ร่วมงานกับเฮสคือความสุขอย่างหนึ่ง “จาเรดเป็นคนที่อบอุ่นและใจกว้างมาก” เขากล่าว  “ตั้งแต่ช่วงแรกเขารักไมน์คราฟต์จริงๆ และผมรักในสิ่งที่มันสร้างขึ้นมาเพื่อลูกๆ ของเขา แต่เขายอมรับว่าตัวเองไม่ใช่ผู้ชำนาญขนาดนั้น ยอมรับว่าต้องการความช่วยเหลือ เราเลยเริ่มจากส่งวีดีโอที่ผมจะสร้างขึ้นมาให้เขาดู เล่าให้เขาฟังเกี่ยวกับความพิเศษ อาวุธ สถานที่ แมนชั่นในป่า หลังจากนั้นเขาเริ่มสร้างโลกและทำการบรรยายพร้อมกับผู้เขียนบทฯ เราใช้เวลาคุยเกี่ยวกับเรื่องราวนานมาก”

ในหนังมีเรื่องราวเล็กๆ ที่เอาใจแฟนเกมนับล้านอีกด้วย “เรารู้ว่าไมน์คราฟต์เป็นที่รักของทั่วโลก” ผู้กำกับฯ กล่าว “เรารู้ว่าทุกคนมีเรื่องราวความสนุกของตัวเองที่พวกเขานำไปใส่ในเกมตอนเล่น เราคิดว่า ‘ใส่เวอร์ชันของเราลงไปในหนังเรื่องที่เราอยากสร้างความสนุกขึ้นมาดีกว่า ให้มีเรื่องตลกที่เรารักเกี่ยวกับเกม แชร์ให้ทุกคนบนโลกรับรู้ เล่าเรื่องสนุกไปพร้อมกับทีมนักแสดงที่มีความสนุก บนโลกสุดประหลาดใบนี้และดูว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง’ มันไม่ใช่แค่เรื่องราวไมน์คราฟต์ มันคือเรื่องราวของไมน์คราฟต์เชียวล่ะ”

ผู้สร้างภาพยนตร์ตั้งใจว่าวิธีหนึ่งที่จะทำให้แฟนๆ แฮปปี้ได้ คือการทำให้พวกเขามีส่วนร่วมในการสร้างภาพยนตร์ขึ้นมา ในช่วงที่ทีมงานฝ่ายสร้างสรรค์เจอทางตันขึ้นมา พวกเขาจะขอความช่วยเหลือจากผู้เล่นระดับแถวหน้าของสังคมไมน์คราฟต์ โอลาฟสันเล่าว่า “เราเคยมีปัญหาเรื่องการออกแบบกับดักเรดสโตนที่สร้างในเหมือง ไม่มีอะไรลงตัวเลยสักนิดจนเราต้องการการออกแบบเรดสโตนที่ดี เราถามมัมโบ จัมโบ ยูทูปเบอร์เรดสโตนที่สร้างอุปกรณ์อันน่าทึ่งและวีดีโอต่างๆ อธิบายว่าเครื่องมือของเขามีการทำงานอย่างไร เรามีการสร้างเครื่องมือบางอย่างที่ต่างออกไป บางส่วนมีความซับซ้อนมากและมันก็วิเศษมากเลย”

มัมโบ จัมโบร่วมงานกับทีมผู้สร้างไมน์คราฟต์ DanTDM, Aphmau, LDShadowLady และ Valkyrae พร้อมด้วยลูกเล่นเล็กๆ น้อยๆ ในหนัง

โอลาฟสันเชื่อว่าในหนังมีบางอย่างที่ทุกคนจะสนุกไปด้วยกันได้ “บางคนพบความสนุกจากการได้เห็นแจ็ค แบล็ครับบทสตีฟ” เขากล่าว “เพราะสตีฟเป็นตัวละครทำตัวปกติเป็นกลางที่ไมน์คราฟต์มีมานานหลายปีแล้ว เขาไม่ได้มีความโดดเด่นอะไร เพราะเขาเหมือนทางผ่านสำหรับผู้เล่นทั่วไป แล้วอยู่ๆ เขาก็กลายเป็นคนที่มีความหมายมากกว่าที่จะนึกภาพได้ ฉากต่อสู้ก็ยิ่งสนุก เราเคยเห็นพวกหนังซูเปอร์ฮีโร่มาแล้ว เราจะสร้างสิ่งที่แตกต่างและสนุกขึ้นมา เจสัน โมโมอาแสดงให้เห็นอีกมุมในตัวของเขา เขามีความกล้าหาญอย่างเหลือเชื่อ มีช่วงที่เขาได้อ่อนแอ ไม่ได้เป็นแค่ฮีโร่ผู้แข็งแกร่งที่เขาเคยแสดงให้เห็นบ่อยๆ เขาจะต้องสู้กับเครื่องจักรไมน์คราฟต์เรดสโตน ซอมบี้เบบี๋ หรือเจ้าไก่” ใช่แล้ว เจ้าไก่!

สำหรับผู้คลั่งไคล้ไมน์คราฟต์ ในหนังมีส่วนที่แสดงให้เห็นถึงความเคารพมากมายและอ้างอิงถึงโ,กของการเล่นเกม “ในหนังมีอีสเตอร์เอ้กอยู่หลายจุด มีสิ่งเฉพาะสำหรับเหล่าเกมเมอร์ที่เราอาจไม่ทันสังเกตเห็น” โอลาฟสันกล่าว “หวังว่าคุณจะสังเกตเห็นบางอย่างตอนที่ดูหนังครั้งแรก จากนั้นจะเห็นอะไรมากขึ้นอีกเมื่อดูครั้งต่อไป และครั้งต่อไปในโรงภาพยนตร์”

ไมน์คราฟต์เป็นประสบการณ์ระดับสังคม เมื่อเกมหนึ่งถูกตีความสู่จอยักษ์ เขากล่าว “ไมน์คราฟต์เป็นที่ๆ คุณจะได้สร้างความทรงจำร่วมกัน” โอลาฟสันกล่าว “เช่นเดียวกับหนังเรื่องนี้ การดูหนังพร้อมกับเพื่อน ครอบครัว คนที่เราแคร์ คนที่เล่นไมน์คราฟต์ด้วยกัน หรือคนที่อาจไม่รู้อะไรเกี่ยวกับไมน์คราฟต์เลย มันคือประสบการณ์แห่งการแบ่งปันอันทรงพลัง และจะเป็นประสบการณ์ในโรงภาพยนตร์ระบบไอแมกซ์ที่ทรงพลังมาก เพราะมันไม่ได้มีแค่ความสนุก มันมีภาพและความงดงามที่น่าสนใจ มันเป็นโลกแห่งเวทมนตร์ที่มีการผจญภัยแบบที่เราไม่เคยเห็นมาก่อน ได้เห็นพวกกล่อง สิ่งมีชีวิตแปลกๆ ในโลกของไมน์คราฟต์พร้อมกับผู้คนที่ดูสมจริงมาก มันคือสัมผัสที่คุณจะพบได้ในโรงภาพยนตร์พร้อมกับคนอื่นเท่านั้น”

บอยเตอร์อธิบายถึงหนังเรื่องนี้ว่า “มีส่วนผสมระหว่าง ‘Goonies’ และ ‘Fellowship of the Ring’ พร้อมกับการผสมความเป็น ‘Napoleon Dynamite’ อีกมาก “ตัวละครที่ต่างกันทั้ง 4 ในจุดที่ต่างกัของชีวิต พวกเขาต่อสู้ฝ่าฟันเพื่อเหตุผลหนึ่งหรือเหตุผลอื่น ต้องเข้าไปอยู่ในโอเวอร์เวิร์ลและช่วยกันสร้างสรรค์ที่เป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของพวกเขา กลายเป็นประสบการณ์ที่มีความเป็นสังคมมาก"

วอร์เนอร์ บราเดอร์ส พิกเจอร์ส และ เลเจนดารี่ พิกเจอร์ส นำเสนอภาพยนตร์ผลงานจาก A Vertigo Entertainment/On The Roam/Mojang Studios Production, A Jared Hess Film เรื่อง “A Minecraft Movie - ไมน์คราฟต์” วันนี้ในโรงภาพยนตร์ ทั้งระบบปกติและ IMAX3D

 

 

คราฟต์จินตนาการขั้นสุด!! “A Minecraft Movie - ไมน์คราฟต์” เตรียมพร้อมสู่การผจญภัยสุดยิ่งใหญ่ในดินแดน ‘โอเวอร์เวิร์ล’ วันนี้ในโรงภาพยนตร์