
Beauty on the Golden Sky“โฉมงามเมื่อวันฟ้าสีทอง โดย ชรินทร ราชุรัชต
“Beauty on the Golden Sky“ โฉมงามเมื่อวันฟ้าสีทอง
นิทรรศการเดี่ยวโดย ชรินทร ราชุรัชต
22 มีนาคม – 3 พฤษภาคม 2568
เปิดนิทรรศการในวันเสาร์ที่ 22 มีนาคม 2568 เวลา 18.00 น.
ณ. Head High Second Floor เชียงใหม่
การค้นคว้าเกี่ยวกับการทำลายความทรงจำของรัฐต่อการปฏิวัติสยามของคณะราษฎรในปี 2475 ทำให้ชรินทรหลงใหลในภาพถ่ายของสตรีจากยุคสมัยนั้น ในช่วงรุ่งอรุณของประชาธิปไตย เมื่อฟ้าเป็นสีทอง และประชาชนได้ก้าวขึ้นเป็นเจ้าของอำนาจ ‘นางสาวสยาม’ การประกวดนางงามระดับชาติซึ่งจัดขึ้นเป็นส่วนหนึ่งของงานฉลองรัฐธรรมนูญ ได้แสดงให้เห็นถึงพัฒนาการด้านสิทธิสตรีของไทยในยุคสมัยใหม่ อันเป็นช่วงเวลาสำคัญที่ผู้หญิงเริ่มมีสิทธิ์เลือกตั้ง มีอิสระในการแสวงหาการศึกษาและอาชีพ และได้ปลดปล่อยตัวตนจากขนบธรรมเนียมของระบอบเก่า
แต่เรื่องราวของพวกเธอกลับถูกทำให้เลือนหายไป หลังคณะราษฎรล่มสลายจากการรัฐประหารปี 2490 งานฉลองรัฐธรรมนูญก็ถูกยกเลิก การประกวดนางงามจึงสูญเสียความหมายทางการเมืองและความเชื่อมโยงกับการปฏิวัติ อนุสาวรีย์และอาคารที่สร้างขึ้นโดยของคณะราษฎรค่อยๆถูกทุบทิ้ง ดังที่เบเนดิกต์ แอนเดอร์สันได้กล่าวไว้“การเปลี่ยนแปลงที่ลึกซึ้งในจิตสำนึกทั้งปวง ย่อมนำมาซึ่งความหลงลืมอันมีลักษณะเฉพาะ” เพื่อปลูกฝังความทรงจำใหม่ให้แก่ประชาชน การปฏิวัติสยามได้ถูกวาดภาพว่าเป็นการชิงสุกก่อนห่าม เป็นการกระทำอันด่างพร้อย เป็นสัญลักษณ์ของรอยด่างที่ลบไม่ออกบนหน้าประวัติศาสตร์
‘โฉมงามเมื่อวันฟ้าสีทอง’ เป็นดั่งบทกวีภาพถ่ายที่ชรินทรทำขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองสตรีในยุคปฏิวัติสยาม เธอทำงานโดยใช้เทคนิคคินสึงิ (Kintsugi) ซึ่งเป็นศิลปะการซ่อมแซมเซรามิกด้วยทองของญี่ปุ่น ในการวาดรอยด่างสีทองลงบนภาพถ่าย เพื่อท้าทายประวัติศาสตร์ชาติที่เขียนโดยรัฐ และรื้อฟื้นมรดกทางวัฒนธรรมที่สูญหาย แผ่นทองคำเปลวแต่ละแผ่นที่ได้ติดด้วยความเคารพต่อประวัติศาสตร์และสตรีในยุคสมัยนั้น ทำให้รอยด่างสีทองของเธอเป็นทั้งสัญลักษณ์ของการต่อต้านและความหวังที่จะนำท้องฟ้าสีทองกลับคืนมา