“เจสซี ไอเซนเบิร์ก” กับบทบาทผู้กำกับ คนเขียนบท และนักแสดงนำ ใน “A Real Pain” ผลงานที่ได้รับคำยกย่องมากที่สุด ณ เวลานี้

“เจสซี ไอเซนเบิร์ก” กับบทบาทผู้กำกับ คนเขียนบท และนักแสดงนำ ใน “A Real Pain” ผลงานที่ได้รับคำยกย่องมากที่สุด ณ เวลานี้

ปฏิเสธไม่ได้ว่าภาพยนตร์เรื่อง “A Real Pain” ของ Searchlight Pictures สร้างปรากฏการณ์เป็นภาพยนตร์ฟอร์มเล็กแต่ประสบความสำเร็จอย่างล้นหลาม ทั้งคำวิจารณ์ที่ต่างชื่นชมในความงดงามของเนื้อเรื่องและเสน่ห์การแสดงของเหล่านักแสดงที่ตรึงผู้ชมได้อย่างอยู่หมัด จนได้คะแนนจากแพลตฟอร์ม Rotten Tomatoes สูงถึง 96% (ณ วันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2568) การันตีคุณภาพว่าเป็นภาพยนตร์สดใหม่ที่น่าดู ทั้งยังเข้าชิงและคว้ารางวัลมาแล้วแทบทุกเวที รวมถึงการเข้าชิง 2 รางวัลออสการ์ปี 2025 ในสาขาบทภาพยนตร์ดั้งเดิมยอดเยี่ยม และนักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม “คีแรน คัลกิ้น” โดยเบื้องหลังคนสำคัญของความสำเร็จทั้งหมดนี้คือ “เจสซี ไอเซนเบิร์ก” ผู้สวมหมวกถึง 3 ใบในฐานะคนเขียนบท ผู้กำกับ และนักแสดงนำ ของเรื่อง

นักเขียนบทมากฝีมือ

สำหรับคอหนังอาจจะคุ้นเคยกับ เจสซี ไอเซนเบิร์ก ในมุมของนักแสดงมากฝีมือ แต่ในอีกด้าน เขาเป็นนักเขียนที่มีผลงานมากมาย รวมถึงเป็นนักเขียนบทละครที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง เขาเขียนบทละครมาแล้ว 4 เรื่อง ได้แก่ “The Spoils” ซึ่งทำสถิติทำรายได้สูงสุดใน West End รวมถึง “The Revisionist” ที่เขาร่วมแสดง นอกจากนี้ยังมี “Asuncion” และ “Happy Talk” ซึ่งต่างได้รับคำชื่นชม

โดยก่อนหน้านี้ไอเซนเบิร์ก พยายามจะดัดแปลงบทละครเรื่อง The Revisionist ที่เขาเขียนขึ้นจากแรงบันดาลใจในการเยือนโปแลนด์ครั้งแรก และประสบความสำเร็จในการเปิดแสดงนอกบรอดเวย์ในช่วงปี 2013 เพื่อนำเสนออีกด้านของผลกระทบจากเหตุการณ์ Holocaust ทว่า “งานดัดแปลงทั้งหมดของผมแย่มาก แต่ผมอยากเขียนและถ่ายทำหนังในโปแลนด์จริง ๆ เพื่อที่จะได้สัมผัสเรื่องราวอื่น ๆ ของที่นั่น จนในที่สุด 15 ปีผ่านไป ผมก็ได้ไอเดีย เป็นเรื่องราวของเพื่อนซี้ที่เกิดขึ้นในทัวร์ประวัติศาสตร์โปแลนด์" เขาเล่า ก่อนอธิบายถึงที่มาที่ไปเพิ่มเติมว่า ด้วยความบังเอิญ เขาไปเจอ 'โฆษณาที่น่าหดหู่แต่เป็นโชคดี' ทางออนไลน์เกี่ยวกับทัวร์ Holocaust พร้อมอาหารกลางวัน นั่นเป็นจุดเริ่มต้นให้เขาไปยังบริษัททัวร์ที่ว่า

“มันเป็นโฆษณาทัวร์สถานที่เกี่ยวกับ Holocaust ในโปแลนด์ แต่มาพร้อมด้วยความสะดวกสบายทุกอย่างที่นักท่องเที่ยวชาวอเมริกันชนชั้นกลางระดับบนต้องการ ผมอ่านมันด้วยความรู้สึกทึ่งปนช็อก และอึดอัดที่จะเป็นหนึ่งในลูกทัวร์ ซึ่งเรียกร้องความสะดวกสบายในขณะที่กำลังชมความสยดสยองและหดหู่ในประวัติความเป็นมาของครอบครัวผม แต่นั่นเป็นแนวทางที่ยอดเยี่ยมมากในการสร้างภาพยนตร์” เขาเผยถึงที่มาของภาพยนตร์เรื่องนี้ ซึ่งนอกจากจะนำประสบการณ์จากการเดินทางไปเยือนโปแลนด์ครั้งแรกของตัวเอง มาเชื่อมโยงเข้ากับรูปแบบทัวร์อันกระอักกระอ่วน ไอเซนเบิร์กยังได้นำเรื่องสั้นเกี่ยวกับชายสองคนที่เดินทางไปมองโกเลียด้วยกัน ซึ่งเขาเคยเขียนลงใน Tablet Magazine เมื่อหลายปีก่อน และมีพลวัตคล้ายกับเรื่องราวใน A Real Pain มาเป็นไอเดียตั้งต้นด้วย และความยอดเยี่ยมของบทภาพยนตร์เรื่องนี้ที่สามารถเข้าชิงรางวัลในสาขาบทภาพยนตร์ดั้งเดิมยอดเยี่ยมทั้งเวที Golden Globes Awards® และ 97th Academy Awards® หรือรางวัลออสการ์ ก็เป็นเครื่องพิสูจน์ถึงฝีมือการเขียนบทของไอเซนเบิร์กได้เป็นอย่างดี

ผู้กำกับภาพยนตร์ที่น่าจับตามอง

ก่อนหน้านี้ไอเซนเบิร์กเคยโชว์ฝีมือการกำกับมาแล้วในภาพยนตร์เรื่องแรกของเขา “When You Finish Saving the World” ซึ่งเปิดตัวที่เทศกาลภาพยนตร์ Sundance Film Festival 2022 และยังออกฉายเป็นส่วนหนึ่งของ Critics Week ที่เทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ 2022 ซึ่งได้รับคำวิจารณ์ที่ดี และ “A Real Pain” ก็เป็นผลงานการกำกับภาพยนตร์เรื่องที่สองของเขา

สำหรับการกำกับเรื่องนี้ ไอเซนเบิร์กซึ่งมาจากโลกของละครเวทีที่ให้ความเครพต่อบทละครจนเปรียบเหมือนเป็นคัมภีร์ไบเบิลของการแสดง คาดหวังว่าเหล่านักแสดงในเรื่องจะเล่นตามบทภาพยนตร์ที่เขาเขียนไว้ทุกคำ “จริง ๆ ผมไม่ต้องการเปลี่ยนบทพูดของผมเลย” เขาว่า แต่เมื่อได้ทำงานกับนักแสดงระดับสุดยอดฝีมือทั้ง คีแรน คัลกิ้น ที่เคยคว้ารางวัล Emmy Awards® และ Golden Globes Awards® มาแล้ว รวมถึงนักแสดงคุณภาพอย่าง วิลล์ ชาร์ป ผู้คว้ารางวัล BAFTA และเคยเข้าชิงรางวัล Emmy Awards® มาก่อน ก็ทำให้มุมมองของเขาในฐานะผู้กำกับต้องเปลี่ยนไป เมื่อได้ลองให้นักแสดงของเขาด้นสดในบางช่วงบางตอน “ตอนที่เขาด้นสด ฉากเหล่านั้นก็เป็นไปในทิศทางที่ผมไม่เคยคาดคิดมาก่อน” เขากล่าวถึงคัลกิ้นด้วยความรู้สึกทึ่ง และยังเอ่ยถึงการการด้นสดของชาร์ปในฉากอำลาตอนท้ายเรื่องว่า “มันเป็นหนึ่งในประโยคที่ตลกที่สุดในหนัง ตอนแรกผมคิดว่าจะตัดประโยคนั้นออก เพราะมันตลกเกินไป แต่พออยู่ในห้องตัดต่อ ประโยคที่ว่านี้กลับทำงานได้อย่างสมบูรณ์แบบ นั่นทำให้ผมได้เรียนรู้บางอย่างจากหนังเรื่องนี้ว่า บางครั้งถ้านักแสดงนำสิ่งที่ยอดเยี่ยมเข้ามา ก็จงปล่อยให้เป็นไป” 

นักแสดงคุณภาพ

แน่นอนว่าฝีมือการแสดงของไอเซนเบิร์กนั้นไร้ข้อกังขา เพราะตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาเขาฝากผลงานไว้ในภาพยนตร์หลากหลายเรื่อง ทั้งยังเคยได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์มาแล้ว ในสาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยมจาก “The Social Network” พอมาถึง “A Real Pain” ซึ่งมีลูกพี่ลูกน้องสองคนเป็นตัวละครหลัก ตอนแรกไอเซนเบิร์กตั้งใจจะสวมวิญญาณอิสระรับบทเป็นเบนจิ ผู้เปี่ยมเสน่ห์แต่ก็น่าหงุดหงิดไม่น้อยไปกว่ากัน “ผมเขียนบทจากมุมมองของตัวละครแบบนั้นมามาก เพราะผมใฝ่ฝันที่จะเป็นคนแบบนั้น คนที่ผ่อนคลาย เปิดกว้าง ใช้ชีวิตอยู่กับปัจจุบัน ซึ่งอาจจะต่อสู้กับภาวะซึมเศร้าเหมือนที่ผมกำลังเผชิญอยู่ แต่จัดการกับมันด้วยวิธีที่เป็นอิสระกว่า” แต่ในที่สุดเขากลับตัดสินใจรับบทเป็นเดวิด ชายหนุ่มที่ดูเหมือนจะมีชีวิตที่มั่นคงกว่าลูกพี่ลูกน้องของเขา ด้วยงานในสายเทคที่แม้จะไม่หวือหวาแต่ก็มั่นคง พร้อมด้วยภรรยาและลูกที่รออยู่ที่บ้านในบรูคลิน ซึ่งนับเป็นอีกครั้งที่เขาสามารถสวมบทบาทถ่ายทอดความเป็นเดวิดออกมาได้อย่างลึกซึ้ง จนได้รับคำชื่นชมอย่างมากว่าเป็นการรับบทบาทที่เหมาะสมและถูกต้องที่สุด 

ภาพยนตร์เรื่อง “A Real Pain” บอกเล่าเรื่องราวการเดินทางสุดอลเวงของ เดวิด และเบนจิ ลูกพี่ลูกน้องคนละขั้ วที่แตกต่างและไม่เข้ากันเลย แต่ต้องเดินทางไปทัวร์โปแลนด์เพื่อให้เกียรติและรำลึกถึงคุณยายผู้เป็นที่รักของพวกเขาด้วยกัน การผจญภัยครั้งนี้จึงเต็มไปด้วยความท้าทายและบททดสอบ เมื่อความตึงเครียดระหว่างทั้งคู่กลับมาอีกครั้ง ท่ามกลางภูมิหลังประวัติครอบครัวของพวกเขา

ใครเป็นแฟน เจสซี ไอเซนเบิร์ก ทั้งในฐานะนักแสดง คนเขียนบท และผู้กำกับ ตามไปชื่นชมฝีมือทั้งสามด้านของเขาได้ใน “A Real Pain” ภาพยนตร์สุดซึ้งปนเสียงหัวเราะ ที่จะทำให้คุณยิ้มให้กับความเจ็บปวดและซาบซึ้งไปกับมิตรภาพของสองลูกพี่ลูกน้องต่างขั้ว เข้าฉายแล้ววันนี้ ในโรงภาพยนตร์ทั่วประเทศ

 

โซเชียลมีเดีย:

X: @20thCenturyTH
Instagram: @20thCenturyStudiosTH
Facebook: @20thCenturyStudiosTH
Youtube: @20thCenturyStudiosTH
Hashtag: #ARealPainTH

“เจสซี ไอเซนเบิร์ก” กับบทบาทผู้กำกับ คนเขียนบท และนักแสดงนำ ใน “A Real Pain” ผลงานที่ได้รับคำยกย่องมากที่สุด ณ เวลานี้