“จู๊ด ลอว์” ไฟต์ “นิโคลัส ฮอลต์” สร้างจากเรื่องจริงไล่ล่าสุดคลั่งที่ถูกจารึกบนหน้าประวัติศาสตร์ “The Order จับตายขบวนการเดนคน” 25 ธันวาคมนี้
ข้อมูลทั่วไปของภาพยนตร์
- “The Order” เป็นภาพยนตร์ที่ผสมผสานระหว่างดราม่าอาชญากรรมและคดีโลกลืมเกี่ยวกับกลุ่มชาตินิยมเหยียดผิวในอเมริกา ซึ่งเป็นหนังระทึกขวัญสไตล์ยุค 70-80 ที่ทุกคนสามารถรับชมเพื่อความสนุกได้
- นำแสดงโดย “จู๊ด ลอว์” (Fantastic Beasts, Closer) และ “นิโคลัส ฮอลต์” (The Menu, Mad Max: Fury Road) นักแสดงชื่อดังที่มีผลงานการันตีมากมาย ร่วมด้วย “ไท เชอริแดน” (Ready Player One) และ “เจอร์นี สมอลเลตต์” (Birds of Prey)
- กำกับโดย “จัสติน เคอร์เซล” จาก “Snowtown”, “True History of the Kelly Gang” และ “Nitram” ผู้กำกับที่มักเล่าถึงยุคมืดในประวัติศาสตร์ในประเทศของเขา
- บทภาพยนตร์โดย “แซค เบย์ลิน” ดัดแปลงจากหนังสือ “The Silent Brother hood” โดย “เควิน ฟลินน์” และ “แกรี เกอร์ฮาร์ดท์”
- “The Order” เป็นหนังเปิดตัว ณ เทศกาลภาพยนตร์หลายแห่ง โดยเริ่มฉายรอบปฐมทัศน์ที่ “เทศกาลภาพยนตร์นานาชาติเวนิส ครั้งที่ 81” เมื่อเดือนสิงหาคม ก่อนจะไปฉายต่อที่ “เทศกาลภาพยนตร์นานาชาติโตรอนโต ครั้งที่ 49” และ “เทศกาลภาพยนตร์มาราเกช ครั้งที่ 21”
- ภาพยนตร์เรื่องนี้นำเสนอเกี่ยวกับพลังแห่งการชักจูง และความเกลียดชังอย่างตรงไปตรงมา ทำให้เรื่องนี้เหนือกว่าหนังไล่ล่าแมวจับหนูทั่วไป
- นอกเหนือจากฉากแอ็กชันไลล่าที่อัดแน่นไปด้วยความเดือดอย่างเต็มที่ ยังแฝงไปด้วยประเด็นสังคมที่สามารถหยิบขึ้นมาพูดได้ทุกยุคทุกสมัย มันเป็นเรื่องราวที่ไม่เคยถูกเล่ามาก่อนที่จำเป็นต้องเผยให้โลกได้รู้
เนื้อหาไฮไลต์ของภาพยนตร์
- “The Order” เป็นเรื่องราวของเจ้าหน้าที่เอฟบีไอมากประสบการณ์อย่าง “เทอร์รี ฮัสก์” (จู๊ด ลอว์) ที่ย้ายมาประจำแถบตะวันตกเฉียงเหนือไกลปืนเที่ยง ไม่ได้เตรียมใจเจอคดีอุกฉกรรจ์ แต่กลับต้องมาไล่ล่ากลุ่มชาตินิยมผิวขาวที่กำลังซ่องสุมกำลังใต้อานัติของผู้นำสุดอันตราย “บ็อบ แมตทิวส์” (นิโคลัส ฮอลต์)
กลุ่มของแมทธิวส์รู้จักกันในนาม “The Order” ก่อเหตุปล้นธนาคารและรถขนเงินหลายครั้ง และที่สะเทือนขวัญที่สุด คือ การลอบสังหาร “อลัน เบิร์ก” นักจัดรายการวิทยุในเดนเวอร์เมื่อปี 1984
การเตรียมตัวเพื่อรับบทบาทสุดท้าทายใน “The Order” ของ “จู๊ด ลอว์” และ “นิโคลัส ฮอลต์”
- เคอร์เซล ผู้กำกับของภาพยนตร์ได้มีการมอบบทคัดย่อให้กับนักแสดงก่อนเริ่มถ่ายทำ หนึ่งในนั้นมีคำแนะนำและกิจกรรมต่างๆ ที่นักแสดงควรทำเพื่อให้เข้าใจความคิดและวิถีชีวิตของตัวละครมากขึ้น เช่น สิ่งแรกที่พวกเขาทำหลังตื่นนอน
- หนึ่งในการบ้านที่ จู๊ด ลอว์ ได้รับคือ การที่เขาต้องสะกดรอย นิโคลัส ฮอลต์ หนึ่งวัน โดยไม่ให้ถูกจับได้ พร้อมรวบรวมข้อมูลชีวิตประจำวันของฮอลต์ ซึ่งตัวเขาเองบอกว่า เป็นเรื่องที่ยากมาก ในส่วนของ นิโคลัส ฮอลต์ กล่าวว่าเขาแทบจะไม่รู้ตัวเลยว่า จู๊ด ลอว์สะกดรอยตาม แต่ทั้งสองก็คิดว่ามันได้ผล เพราะทำให้เขาได้สร้างสัมพันธ์กันมากขึ้น เนื่องจากไม่ได้มีฉากที่ร่วมแสดงด้วยกันสักเท่าไหร่
- จู๊ด ลอว์ และ นิโคลัส ฮอลต์ ได้คุยกันครั้งแรกหลังจากถ่ายฉากไฮไลต์ของภาพยนตร์เสร็จ ซึ่งทำให้บรรยากาศของทั้งสองคนมีความเข้มข้นขึ้นมากๆ ในระดับที่เรียกว่า ตาต่อตา ฟันต่อฟันเลยทีเดียว แต่หลังจากร่วมฉากด้วยกันจบทั้งคู่ก็เดินมากอดและทักทายกัน
- ตัวละครเจ้าหน้าที่ ฮัสก์ และ แมตทิวส์ ถูกสร้างให้เป็นเหมือนสองด้านของเหรียญเดียวกัน ทั้งคู่ต่างมีความสามารถในการสร้างแรงบันดาลใจ และเรียกความภักดีจากผู้ติดตาม แต่นำพาไปในทิศทางที่ต่างกันคนละขั้ว
- ตัวละครของ นิโคลัส ฮอลต์ อ้างอิงจากบุคคลที่มีตัวตนจริง ๆ อย่าง โรเบิร์ต แมทธิวส์ กลับกันตัวละครของ จู๊ด ลอว์ ถูกสมมติขึ้นมาจากการเอาเจ้าหน้าที่เอฟบีไอหลายนายที่เกี่ยวข้องกับคดีมาผสมกัน
นิโคลัส ฮอลต์ กับบทบาท “บ็อบ แมตทิวส์”
- อย่างแรก นิโคลัส ฮอลต์ ต้องเปลี่ยนสำเนียงการพูดใหม่ เนื่องจากเขาเป็นคนอังกฤษ เขาได้ส่งบันทึกเสียงที่เขาสวมบทบาทตัวละครไปให้เคอร์เซล โดยพยายามเปลี่ยนสำเนียง ซึ่งเป็นการพูดเกี่ยวกับเรื่องปืนที่แมทธิวส์สะสมหรือความรู้สึกที่เขามีต่ออเมริกา
- ในช่วงที่ นิโคลัส ฮอลต์ มาถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องนี้เขามาถ่ายทำโดยมีเวลาพักแค่ไม่กี่วันหลังจาก “Nosferatu” ของ โรเบิร์ต เอ็กเกอร์ส ปิดกล้อง แถมหลังจากถ่าย “The Order” เสร็จ เขาก็รีบไปแคสต์บท เล็กซ์ ลูเธอร์ ใน “Superman” ฉบับรีบูต ก่อนจะเข้าถ่าย “Juror#2” โดย คลินต์ อีสต์วูด
- นิโคลัส ฮอลต์ ศึกษาบันทึกคำปราศรัยจริงของ บ็อบ แมตทิวส์ และมาปรับใช้ในหนัง โดยเฉพาะฉากปราศรัยปลุกระดมที่สร้างความหวาดกลัวให้ทีมงานในกองถ่าย เพราะประโยคนั้นถอดมาจากประโยคที่แมทธิวส์ตัวจริงเคยใช้ปลุกระดมสาวก
- นิโคลัส ฮอลต์ เผยว่าเขาต้องเชื่อในสิ่งที่พูดก่อนถึงจูงใจฝูงชนได้ ทุกคนในห้องต้องรู้สึกว่า ‘อ๋อ เพราะอย่างนี้นี่เอง เราเลยต้องทำแบบนี้’ มันมีพลังมหาศาล อันตรายสุดๆ ทำให้เขาเข้าใจเลยว่าทำไมคนเหล่านั้นถึงถูกจูงจมูกให้เชื่ออะไรแบบนั้น
- เพื่อสร้างความสมจริง นิโคลัส ฮอลต์ และนักแสดงที่รับบทสาวกจะใช้เวลาร่วมกันนอกกองถ่าย ทั้งตกปลา ทำกิจกรรม และสร้างสิ่งต่างๆร่วมกัน เพื่อจำลองวิถีชีวิตแบบอุดมคติที่แมทธิวส์ใช้ชักจูงผู้คนเข้ากลุ่ม
- นิโคลัส ฮอลต์ กลายเป็นแฟนคลับของ จู๊ด ลอว์ เขากล่าวว่า “การได้ทำงานกับจู๊ดมันวิเศษมาก” พร้อมเล่าเพิ่มว่าเขาเคยดู จู๊ด ลอว์ ใน “A.I. Artificial Intelligence” ตอนที่เขาอายุ 12 ปี จู๊ด ลอว์ เป็นนักแสดงที่สามารถเข้าถึงบทบาทของตัวละครได้อย่างน่าทึ่ง ในฐานะนักแสดงชาวอังกฤษรุ่นน้องทำให้เขาประทับใจมาก เพราะจู๊ด ลอว์สลัดภาพเดิมออกไปหมดเลย หากอ่านบทก็คงคิดภาพไม่ถึงว่าจู๊ด ลอว์จะมารับบทนี้ได้
จู๊ด ลอว์ กับบทบาท “เทอร์รี ฮัสก์”
- มีฉากหนึ่งที่ จู๊ด ลอว์ อินกับบทบาทมากจนต่อยกระจกรถด้านในแตก ซึ่งเป็นฉากที่ฮัสก์โกรธและตะโกนใส่ลูกน้องที่อายุน้อยกว่าหลังจากที่เขาไปลุยกับแก๊งของแมตทิวส์มา
- ลุคของตัวละครฮัสก์เกิดขึ้นโดยบังเอิญ เมื่อ จู๊ด ลอว์ ป่วยและดูทรุดโทรมระหว่างการถ่ายทำ ผู้กำกับเห็นว่าลุคนั้นเหมาะกับตัวละครพอดี จึงให้รักษาลุคนั้นไว้ รวมถึงการไว้หนวดหนาแบบเจ้าหน้าที่ FBI ยุค 80s
- นอกจากแสดงนำแล้ว จู๊ด ลอว์ ยังรับหน้าที่โปรดิวเซอร์ผ่านบริษัทภาพยนตร์ Riff Raff Entertainment ของเขาเองที่ก่อตั้งมาเกือบ 20 ปี ซึ่งผลิตผลงานอย่าง Sky Captain and the World of Tomorrow และ Sleuth ลอว์เผยว่าการได้เป็นโปรดิวเซอร์ทำให้เขารู้สึกว่าได้ควบคุมเส้นทางอาชีพของตัวเองเป็นครั้งแรก แทนที่จะต้องรอให้คนอื่นมาเลือกว่าเขาเหมาะกับบทไหน