จากเรื่องราวที่ครองใจแฟน ๆ มานานนับ 30 ปี ถึงเวลาของตำนานที่ไม่เคยเล่าขานจะได้เฉิดฉายยนจอยักษ์เสียที ซึ่งคราวนี้กลับมาพร้อมกับฉบับไลฟ์แอคชั่นสุดตระการตาใน “Disney’s Mufasa: The Lion King มูฟาซา: เดอะ ไลอ้อน คิง”

‘Mufasa: The Lion King’ คือเรื่องราวภาคต้นกึ่งภาคต่อของ ‘The Lion King (2019)’ ว่าด้วยเหตุการณ์ที่ ‘ราฟิกิ’ บอกเล่าตำนานของ ‘มูฟาซา’ ผู้เป็นปู่ให้กับ ‘เคียร่า’ ลูกสาวของ ‘ซิมบ้า’ ฟัง จากสิงโตหลงทางสู่การเป็นราชาที่เหล่าสรรพสัตว์ให้การยอมรับ ผ่านการผจญภัยท่องโลกกว้างร่วมกับ ‘ทาก้า’ น้องชายต่างสายเลือดผู้แบกภาระเจ้าชายแห่งฝูง

Mufasa ไม่ใช่แค่เรื่องราวส่วนเสริมที่เข้ามาเติมเต็มโลกของ The Lion King ไม่ใช่แค่เรื่องราวการขึ้นครองบัลลังก์ของมูฟาซา ไม่ใช่แค่จุดเปลี่ยนที่ทำให้ทาก้าเติบโตไปเป็นสการ์ แต่เป็นอีกหนึ่งเรื่องราวที่ชวนประทับใจไม่แพ้ต้นฉบับ ผ่านแก่นเรื่องที่ว่าด้วย “ไม่สำคัญว่าเราเคยเป็นใคร ขึ้นอยู่ที่ว่าเราจะกลายเป็นใคร” และประเด็นความเป็นคนนอก พร้อมด้วยหลาก Easter Egg ชวนว้าว ซึ่งบางโมเมนต์ก็แฝงนัยยะเอาไว้ได้อย่างเฉียบคม

ส่วนตัวผมค่อนข้างสนใจในความสัมพันธ์ระหว่างสองพี่น้องเป็นพิเศษ โดยเฉพาะเหตุผลที่ทำให้ทาก้าเทิร์นตัวเองไปสู่การเป็นวายร้ายได้อย่างไร ซึ่ง Mufasa นำเสนอพาร์ทนี้ออกมาได้แบบว่าทำถึงภายใต้เลนส์ของความเป็นหนังทุกเพศทุกวัย จากจุดเริ่มต้นที่น่ารักกลมเกลียวดังพี่น้อง สู่หลากเหตุการณ์ที่ค่อย ๆ สั่นคลอนให้เกิดรอยร้าวในความสัมพันธ์ทีละนิดละน้อย เมื่อดำเนินมาถึงจุดแตกหักมันก็เพียงพอที่จะทำให้เราเชื่อและใจเจ็บไปกับโมเมนต์ตรงหน้าได้อย่างไม่ยากในแบบที่เข้าใจง่าย ทำให้เราเข้าใจมูฟาซาและเห็นใจทาก้าได้อย่างแท้จริง

นอกจากนี้ อีกสิ่งหนึ่งที่โดดเด่นไม่เป็นรองใครของ Mufasa: The Lion King คือเทคโนโลยีด้านงานภาพที่ทำให้เหล่าสิงโตและสรรพสัตว์ทั้งหลายสมจริงขึ้นไปอีกขั้น ทุกครั้งที่เห็นมูฟาซาและทาก้ามันมันอดไม่ได้เลยที่จะคิดถึงแมวที่บ้าน ยิ่งดูบนจอ IMAX ยิ่งใหญ่ตระการตา ชัดสมจริงทุกรายละเอียด งานเสียงยิ่งไม่ต้องพูดถึง ซิงอะซองแต่ละทีมีเพลิดเพลิน เสียงคำครามแต่ละครั้งดังสะใจ ถือเป็นอีกหนึ่งประการณ์ส่งท้ายปีจาก Disney ที่ไม่ควรพลาด ยิ่งถ้าคุณเป็นแฟน The Lion King นี่คือผลงานที่ควรค่าแก่การรับชมอย่างแน่นอน #TheLionKing #MufasaTH #Mufasa #มูฟาซา