#LOTR Facts เกร็ดข้อมูลเบื้องหลังการสร้างที่น่าสนใจ จากสงครามที่โลกยังไม่รู้ ก่อนดู “The Lord of the Rings: The War of the Rohirrim”
รวมเกร็ดข้อมูเบื้องหลังงานสร้างที่คุณอาจยังไม่รู้ ก่อนลั่นกลองรบ กลับสู่สมรภูมิที่โลกไม่เคยเห็น หวนคืนสู่มิดเดิลเอิร์ธอีกครั้งใน “The Lord of the Rings: The War of the Rohirrim - เดอะ ลอร์ด ออฟ เดอะ ริงส์: ศึกแห่งโรเฮียร์ริม” ภาพยนตร์แอนิเมชั่นจาก New Line Cinema นำผู้ชมกลับมาสู่โลกแห่งมหากาพย์จากไตรภาค “The Lord of the Rings” ที่สร้างจากหนังสืออันเป็นที่เคารพของ เจ.อาร์.อาร์ โทลคีน
- The Lord of the Rings: The War of the Rohirrim ถือเป็นหนึ่งในเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญของมิดเดิลเอิร์ธ โดยเล่าย้อนกลับไปกว่า 183 ก่อนเหตุการณ์ในไตรภาค “The Lord of the Rings” ว่าด้วยเรื่องราวของ เฮล์ม แฮมเมอร์แฮนด์ กษัตริย์แห่งโรฮันในตำนาน กับศึกแห่งความขัดแย้งที่นำไปสู่การพุงรบและจุดสิ้นสุดสายเลือดราชวงศ์หลักของโรฮัน เปิดทางให้สายเลือดรองของราชวงศ์ขึ้นปกครองอาณาจักรแทน
- จากต้นฉบับนิยาย ธิดาแห่งเฮล์ม ถูกกล่าวถึงโดยไม่ปรากฎชื่อในฐานะชนวนสำคัญที่นำไปสู่สงครามระหว่าง ชาวโรเฮียร์ริม กับ ชาวดันเลนดิงส์ ก่อนที่ทีมผู้สร้างภาพยนตร์แอนิเมชั่นจะตั้งชื่อให้เธอว่า เฮร่า
- ศึกแห่งโรเฮียร์ริมคือเหตุการณ์ที่ทำให้ป้อมปราการ ฮอร์นเบิร์ก เป็นที่เลื่องลือในฐานะความยิ่งใหญ่ ก่อนที่ต่อมาจะถูกกล่าวข่านในชื่อใหม่ เฮล์มสดีพ สถานที่สำคัญใน The Lord of the Rings: The Two Towers
- The Lord of the Rings: The War of the Rohirrim คือผลงานที่ ปีเตอร์ แจ็คสัน และ ฟิลิปปา โบเยนส์ รายแรกคือผู้กำกับและรายหลังคือทีมเขียนบทจากภาพยนตร์ไตรภาคเรื่อง The Lord of the Rings และ The Hobbit กลับมารับหน้าที่เป็นโปรดิวเซอร์ให้กับภาพยนตร์แอนิเมชั่นเรื่องนี้
การขยายโลกของโทลคีนในเรื่อง “The Lord of the Rings: The War of the Rohirrim”
เคนจิ คามิยามะ : แน่นอนว่าผมรักในหนังสือ แต่ด้วยภาพยนตร์ของปีเตอร์ แจ็คสัน ผลงานไตรภาคที่ส่งผลกระทบต่อผมมากที่สุด ผมมักจะไปดูหนังทุกเรื่องวันเปิดตัว สำหรับโปรเจ็กต์นี้สิ่งสำคัญคือการพยายามพาตัวเองย้อนกลับไปหาช่วงแรกที่ผมตกหลุมรักโลกใบนี้ พยายามดึงมุมนั้นที่ทำให้แฟนๆ ติดแฟรนไชส์เรื่องนี้ได้อย่างยาวนาน นั่นคือสิ่งที่สำคัญต่อผมมาก เนื้อเรื่องที่เกี่ยวกับศึกแห่งโรฮิริม มันมีพลังอยู่ในตัวและดึงดูดความสนใจจากผมได้มากเลย มันเป็นเรื่องราวสั้นๆ ที่ปรากฏเพียงหน้าเดียวในภาคผนวก แต่เป็นสิ่งที่ทรงพลังมหาศาลและควรเป็นเรื่องราวที่สนุกออกมาให้ได้
ฟิลิปป้า โบเยนส์ : จดหมายฉบับหนึ่งศาสตราจารย์โทลคีนกล่าวว่าอาจมีเรื่องราวที่น่าสนุกบางเรื่องที่ยังไม่ได้บอกเล่า เขามักจะชอบความลึกลับของเรื่องราวที่ยังไม่มีการเล่าขานเสมอ สิ่งที่เราทำได้คือการย้อนกลับไปยังโลกอันยิ่งใหญ่ของหนังสือ และดึงรายละเอียดต่างๆ ที่อยู่ในนั้นออกมา รวมถึงบางเรื่องราวที่เกิดขึ้นเพียงน้อยนิด สิ่งหนึ่งที่เราอยากทำในเรื่องนี้คือไมอยากแตะต้องตำนานของแหวนทรงพลังหรือลอร์ดผู้ลึกลับ และเมื่อไอเดียของแอนิเมชั่นโผล่ขึ้นมาครั้งแรก เนื้อเรื่องนี้ก็เดินทางมาถึงผม ผมรู้ทันทีว่ามันควรเป็นแบบไหน มันสื่อสารถึงผมในหลายมิติมาก
เจสัน เดมาร์โก : ในความจริงแล้วโทลคีนใช้เวลาหลายปี นานนับสิบปี เพื่อสร้างประวัติความเป็นมา ภาษา และความแปลกใหม่ของโลกใบนี้ แต่การสร้างโลกขึ้นมาเป็นเพียงส่วนหนึงเท่านั้น ยังคงมีส่วนอื่นให้บอกเล่าเรื่องราวอีก โทลคีนเป็นหนึ่งในนักเขียนเพียงไม่กี่คนที่สามารถทำทั้งสองสิ่งนั้นได้ และผลงานของเขาไม่ได้สร้างแค่ปรากฎการณ์อันทรงพลังในจินตนาการเพียงอย่างเดียว ตอนนี้คือไอเดียที่เวลาเราอ่านนิยายแฟนตาซี เราจะเจอเหล่าคนแคระ เอลฟ์ และสิ่งต่างๆ ที่เขาสร้างมาเพื่อเปรียบเทียบ โลกที่เขาสร้างมีความละเอียดซับซ้อน และความคิดที่เขาใส่ลงไปคือสิ่งที่สร้างความประทับใจอย่างยาวนาน
โจเซฟ ชู : ครั้งแรกที่หนังเรื่องนี้มาถึงผม คือตอนได้รับโทรศัพท์จากเจสัน เดมาร์โก เขาถามเผื่อผมสนใจสร้างผลงานดัดแปลงเรื่อง Lord of the Rings ผมคิดว่า “นั่นคือคำถามงั้นหรือ?” [หัวเราะ] ผมเองเป็นแฟนพันธุ์แท้ของผลงานไตรภาค มันไม่มีอะไรต้องสงสัยอีกเลย เนื้อเรื่องของเราถ่ายทอดเกี ยวกับตำนานอันเลื่องชื่อของเฮล์ม แฮมเมอร์แฮนด์ แน่นอนว่าต้องมีโศกนาฎกรรมแบบเช็คสเปียร์อยู่ในเรื่อง การล่มสลายของอำนาจกษัตริย์ ทุกอย่างอยู่ในเรื่องนั้น ในเรื่องต้องมีตัวร้ายและมีเหตุผลบอกว่าทำมถึงเกิดเรื่องแบบนั้น มันมีความเป็นไปได้ในการเล่าเรื่องหลายอย่าง และผมคิดว่าความอัจฉริยะของฟิลิปป้าคือการโฟกัสที่ลูกสาวผู้ไร้ชื่อในเรื่องราว คนอื่นมีชื่อกันหมด แต่เราไม่รู้เลยว่าเธอรับบทอะไร นั่นทำให้เราเดินตามหลักการไปได้ แต่เนื่องจากเราต้องการใครสักคนเป็นผู้นำเรื่องราว เพื่อประคองเรื่องให้ดำเนินไปด้วยดี ผมคิดว่านั่นเป็นไอเดียที่วิเศษมาก และผู้กำกับฯ ของเราก็ซึมซับสิ่งนั้นได้เป็นอย่างดี
การออกแบบโลกของโทลคีนผ่านภาพเคลื่อนไหว
เคนจิ คามิยามะ : ครั้งแรกที่มีคนถามว่าจะมาร่วมงานในเรื่องนี้ไหม สิ่งแรกที่ผมคิดคือไม่มีทางจะสร้างภาพเคลื่อนไหวโดยภาพที่วาดด้วยมือได้เลย เพราะมีจำนวนทำทหารบนจอเยอะมาก มีการออกแบบที่ซับซ้อน และยังมีพวกม้าอีก แต่นั่นคือโอกาสที่ได้ทำสิ่งที่ผมรักและชื่นชอบจริงๆ ผมเลยคว้าโอกาสไว้แม้จะไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดี แต่เพราะมี Weta ที่ทำให้การร่วมงานกับพวกเขาเป็นเรื่องเหลือเชื่อมาก เราหาวิธีทำให้มันเป็นไปได้ นับเป็นเกียรติอันน่าทึ่งมาก สำหรับการออกแบบตัวละครต่างๆ ต้องอาศัยจินตนาการสูงมากเพื่อเข้าถึงเรื่องราวความเป็นมาในอดีต สิ่งที่พวกเขาเคยผ่านพ้นมา เช่น ทำไมวูล์ฟถึงมีแผลเป็นr? ต้องทำความเข้าใจทุกอย่างก่อนที่จะเข้าไปสัมผัสและทำการออกแบบ จึงจำเป็นที่จะให้ฟิลิปป้าเป็นผู้นำการผลิตเรื่องราว เพราะเธอรู้ทุกแง่มุมของโลกใบนี้ การนำทางของเธอทำให้เราสร้างเรื่องราวและออกแบบแต่ละตัวละครได้พร้อมความเข้าใจว่าพวกเขาควรมีหน้าตาอย่างไร และออกแบบอย่างไร นั่นคือขั้นตอนการดัดแปลงเรื่องราวสู่ภาพต่างๆ
ฟิลิปป้า โบเยนส์ : ขอบอกเลยว่าภาพเคลื่อนไหวคือการเรียนรู้อย่างหนึ่งสำหรับผม เพราะเราต้องไว้ใจในขั้นตอนหลายอย่างมากขึ้น มากกว่าที่เราจะนั่งดูไลฟ์แอ็คชั่น แต่ผมสัมผัสได้ถึงความเป็นผู้ชำนาญด้านภาพของเคนจิ คามิยามะ ผมมีศรัทธาอย่างมากว่าโลกใบนี้จะออกมาเป็นอย่างไร ผมคิดว่าตัวเองไม่สามารถจินตนาการความงดงามขึ้นมาได้โดยลำพัง นั่นคือข้อดีอย่างหนึ่งเมื่อร่วมงานกับผู้กำกับฯ ที่เก่ง จินตนาการของพวกเขามักจะเหนือกว่าเราเสมอ ซึ่งนับเป็นเรื่องที่ดี ความน่าสนใจอย่างหนึ่งที่เกิดขึ้นในการสร้างหนังเรื่องนี้คือการที่เคยมีเรื่องราวเกิดขึ้นมาก่อน จากนั้นมีการชวนให้สร้างแอนิเมชั่น “Lord of the Rings” ทำให้ผมคิดว่าเรื่องนี้มีความพิเศษเฉพาะตัว มันไม่เหมือนกับการที่เรามีเนื้อเรื่องแล้วค่อยมาคิดภาพว่าจะเล่าเรื่องราวผ่านแอนิเมชั่นแบบไหนดี? มีบางอย่างในเรื่องนี้เกี่ยวกับโรฮิริมที่ทำให้รู้สึกว่าเหมาะกับการสร้างภาพยนตร์แบบชาวญี่ปุ่น นั่นคือการสร้างภาพเคลื่อนไหว
เจสัน เดมาร์โก : เราร่วมงานกันอย่างหนักเพื่อทำให้หนังเรื่องนี้ได้ความรู้สึกที่เหมาะกับโลกใบนี้ อย่างที่ภาพยนตร์ของปีเตอร์ แจ็คสันเคยได้รับการยอมรับ เราอยากให้รู้สึกเหมือนคุณเข้าไปอยู่ในโลกใบนั้นจริงๆ เวอร์ชันของ Lord of the Rings แม้ว่าจะเป็นภาพเคลื่อนไหวกก็ตาม นั่นหมายความว่าเราต้องมั่นใจสำเนียงต่างๆ เหมาะกับคนที่อยู่ในโรฮัน คล้ายกับคนที่อยู่ในหนัง นั่นหมายความว่าต้องใช้การออกแบบต้นฉบับของฮอร์นเบิร์กหรือเฮล์มส ดีพอย่างที่ควรจะเป็น เรากำลังถ่ายทอดเรื่องราวอย่างที่มีเกริ่นเอาไว้ในภาพผนวก เรากำลังจะสร้างความตื่นเต้นที่โทลคีนเขียนไว้ในเรื่องของเรา แต่เราใช้ความรู้ที่เรามีจากสิ่งที่เขาเขียนไว้ในโลกของเขา นั่นคือช่วงที่เราสร้างสีสันออกนอกกรอบ เรารวบรวมสิ่งที่ดูมีเหตุผลรวมกับข้อกำหนดต่างๆ ที่โทลคีนกำหนดเอาไว้
โจเซฟ ชู : ในความเป็นจริงแล้วภาพเคลื่อนไหวไม่ใช่สิ่งที่เฉพาะเจาะจงขนาดนั้น มันเหมือนกับหนังเรื่องนี้ที่มีทุกแนว ในผลงานเคลื่อนไหวมีทั้งแนวสยองขวัญ คอมเมดี้ แนวรัก แนวดราม่า แฟนตาซี ซามูไร นินจาสำหรับเด็กๆ มีทุกแนวเลยครับ มีการต่อสู้ มีสัตว์น่ารักต่างๆ มีพวกของเล่นที่ขายกันจากผลงานแอนิเมชั่น ทุกอย่างสามารถเป็นแอนิเมชั่นได้ ผมเลยไม่คิดว่ามันมีความพิเศษอะไร ผมคิดว่าเราจะดัดแปลงมันออกมาอย่างไร? นั่นคือคำถามข้อสำคัญ ความท้าทายไม่ใช่แค่การสร้างภาพเคลื่อนไหว แต่อยู่ที่การสร้างบางสิ่งขึ้นมาโดยให้เกียรติโลกใบนี้ ซึ่งการทำอะไรแบบนั้นได้เราต้องอาศัยผู้สร้างภาพเคลื่อนไหวหลายคนและข้อมูลหลายอย่าง มันคือภารกิจที่ยิ่งใหญ่ในการรวมผู้สร้างภาพเคลื่อนไหวมาร่วมงานอย่างเพียงพอ ต้องอาศัยผู้ร่วมงานกว่า 60 บริษัทจากทั่วโลก ไอเดียความสร้างสรรค์ที่เคนจิ คามิยามะสร้างขึ้นมาคือการใช้โมชั่นแคปเจอร์ หุ่นจำลองที่มีรายละเอียดสูง และภาพเคลื่อนไหวที่วาดด้วยมือ สิ่งเหล่านี้ทำให้เราได้ผลงาน เช่น ม้า 2000 ตัววิ่งอยู่ในฉากได้
ความซับซ้อนของภาพเคลื่อนไหวสำหรับผู้กำกับฯ
เคนจิ คามิยามะ : ผมคิดว่าภาพเคลื่อนไหวคือสื่อที่มีความมหัศจรรย์ ทำให้ได้ทดลองถ่ายทอดจินตนาการและผลงานแนวไซไฟ เพราะมันคือโลกที่อยู่ในจินตนาการอยู่แล้ว เมื่อเราเข้าไปอยู่ในโลกของภาพเคลื่อนไหว เรามีข้อตกลงบางอย่างกับผู้ชมเรื่องการสร้างความสมจริง มันคือสิ่งที่สร้างความหลงใหลและจินตนาการ อีกทั้งยังง่ายต่อการขยายจุดที่เรายืนอยู่ได้มาก เราคุยกันว่ามันมีความยากขนาดไหน สำหรับการทดลองและสร้างภาพเคลื่อนไหวให้ตัวละครและสิ่งมีชีวิตบนหน้าจอทั้งหมดขึ้นมาในเวลาเดียวกัน แต่ขณะเดียวกันมันก็ทำให้เรามีอิสระด้วย เพราะเราอธิบายโลกของแฟนตาซีและไซไฟได้อย่างมีอิสระมากขึ้น ความเสี่ยงอยู่ตรงที่การพยายามดัดแปลงเรื่อง Lord of the Rings คือเมื่อเราต้องออกแบบภาพสุดมหัศจรรย์ขึ้นมา เราอาจจะห่างไกลความสมจริงออกไปเยอะมาก อีกความท้าทายหนึ่งคือการยึดความสอดคล้องกับภาพยนตร์ที่เคยมีมาก่อน มันมีความสมจริงที่เราต้องรักษาเอาไว้ระหว่างที่สร้างเรื่องราวสุดมหัศจรรย์นี้ขึ้นมาด้วย ซึ่งการสร้างมันขึ้นมาโดยการสร้างภาพยนตร์ เราต้องระวังเรื่องมุมกล้อง เลนส์ที่ใช้ในแต่ละฉาก รวมถึงเรื่องการใช้แสง แสงไฟ และการเคลื่อนไหวกล้องที่ดูสมจริง เราจะใช้แสงต่างจากภาพแนวราบที่ออกมาจากการวาด
สิ่งที่ทำให้ผู้กำกับฯ เคนจิ คามิยามะ เหมาะสำหรับโปรเจ็กต์นี้ที่สุด
ฟิลิปป้า โบเยนส์ : ผมต้องยกเครดิตให้กับการตัดสินใจเลือกเคนจิ คามิยามะมาเป็นผู้กำกับฯ โปรเจ็กต์นี้ให้แซม รีจิสเตอร์ และเจสัน เดมาร์โกแห่งวอร์เนอร์ บราเดอร์ส ต้องเรียกว่าพวกเขามีเซนส์ที่ดากเลย พวกเขาผูกพันในการร่วมงานกับเขาและโจเซฟ ชู โปรดิวเซอร์ของเราอีกคนที่มีความฉลาดไม่แพ้กัน ตอนที่พวกเขาพูดว่าเคนจิจะมาร่วมงานด้วย ผมเคยเห็นผลงานของเขามาบ้าง แต่ไม่คิดว่าจะได้เห็นอะไรมากเท่าที่ควร สิ่งที่ผมได้เรียนรู้คือเขาเป็นผู้ชำนาญและมีความพิถีพิถันสูงมาก ส่วนเรื่องอื่นที่เรียกความสนใจให้ผมได้โดยที่ผมไม่รู้มาก่อนเลยคือเขาเป็นนักเขียนที่เก่งด้วย ผมได้เรียนรู้วิธีการทำงานกับผู้กำกับฯ ที่เก่งอย่างปีเตอร์ แจ็คสัน เขาเป็นนักเขียนที่เก่งมาก และผมรักเวลามีผู้กำกับฯ ที่มีไหวพริบด้านการเล่าเรื่องอย่างชัดเจน นั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้น ผมได้เรียนรู้หลายอย่างจากการทำงานของเคนจิ เขาเป็นคนที่มีความใจกว้างและฉลาดเหลือเชื่อ แถมยังมีอารมณ์ขันด้วย เขาเปิดรับความจริงที่ เฮร่า ตัวละครหญิงต้องยกให้เป็ฯหน้าที่ของผู้เขียนโฟบี กิตตินส์และนักแสดงอย่างไกอา ไวซ์ เขาสนับสนุนทุกคนในการผจญภัยเพื่อทำให้เธอมีชีวิตขึ้นมา ผมคิดว่านั่นคือสิ่งที่คุณจะสัมผัสได้ตอนดูหนังเรื่องนี้ จะสัมผัสได้ถึงพลังของเธอ ความปรารถนาของเธอ ความกลัวของเธอ และผมคิดว่าผู้ชมจะอินกับเธอได้อย่างทันที
เจสัน เดมาร์โก : สำหรับการกำกับฯ เรื่องนี้ เราต้องการคนที่มีความเป็นมืออาชีพตัวจริง มีความเป็นเลิศ ไม่ใช่แค่ผู้สร้างที่ฉลาด แต่ต้องเป็นคนที่มีความมุ่งมั่น เคยผ่านงานนี้มานานพอควรแล้ว ต้องเป็นคนที่เคยผ่านการถ่ายทำทุกแนว คนที่รวมทีมเข้ากันได้อย่างรวดเร็ว และเข้าใจในเนื้อแท้ของสิ่งที่จะทำให้งานออกมายอดเยี่ยมได้ พวกเขาต้องเป็นแฟนของ Lord of the Rings ด้วย ผมเลือกคามิยามะมากำกับฯ เพราะเขาเคยผ่านผลงานทุกอย่างมาแล้ว เขาเป็นผู้ชำนาญด้านหนังแอนิเมชั่นในระดับนี้ ผมมีประสบการณ์ที่ดีในการร่วมงานกับเขามาก่อน ผมเข้าใจขั้นตอนการทำงานของเขา และผมเข้าใจดีว่าเขาเป็นเพื่อนร่วมงานที่วิเศษมาก เขามีงานแสดงสำหรับแฟนแอนิเมชั่นที่ชื่อว่า “Modi Veto” ซึ่งเป็นโชว์แฟนตาซีของชาวญี่ปุ่น ทำให้ผมรู้ว่าเขาสร้างผลงานแฟนตาซีได้ ซึ่งรวมถึงการที่คนจะขี่ม้าหรือต่อสู้ด้วยดาบ และผมรู้ว่าเขาเป็นนักเล่าเรื่องที่น่าทึ่ง มีความเป็นมืออาชีพอย่างแน่นอน นั่นคือสิ่งที่เราต้องการ
โจเซฟ ชู : ผมยังมองย้อนกลับไปและเรามักจะพูดกันบ่อยๆ ว่า ไม่มีใครจะรับหน้าที่นี้ได้ดีไปกว่าเคนจิ เหตุผลเพราะเคนจิคือหนึ่งในผู้กำกับฯ - นักเขียนฯ ในโลกแอนิเมเพียงไม่กี่คนที่มีไหวพริบ เขาเขียนบทฯ ให้หนังทุกเรื่อง ซีรีส์ทุกเรื่องของตัวเอง เขารู้ดีว่าจะถักทอเรื่องราวและบทภาพยนตร์อย่างไร ที่ญี่ปุ่นผู้กำกับฯ มักจะมีความตึงเครียดเรื่องการสร้างผลงานใดก็ตาม แต่ในผลงานนี้มีความยิ่งใหญ่มาก และเป็นผลงานแฟรนไชส์ที่ได้รับการยอมรับ ต้องการความร่วมมือ ไม่ใช่แค่ชาวญี่ปุ่น แต่เรากำลังคุยถึงเรื่องผู้สร้างผลงานไตรภาค วอร์เนอร์ บราเดอร์สด้วย ผู้ร่วมงานจากต่างประเทศทั่วโลกด้วย เราต้องร่วมงานกับทุกคนและผู้กำกับฯ ต้องเป็นคนที่มีความยืดหยุ่น พร้อมจะรับมือกับความเสี่ยงเหล่านั้น นับเป็นขั้นตอนการทำงานที่ยากและซับซ้อนที่เราต้องใจกว้าง เราต้องสามารถถักทอเรื่องราวด้วยกันพร้อมกับนักเขียนคนอื่น ต้องพร้อมเปิดรับหลักการใหม่ๆ ที่มีความแตกต่าง ส่วนเคนจิในช่วงที่เขาเริ่มร่วมงานกับผม เราสร้างผลงานในคอมพิวเตอร์กราฟฟิคแอนเมชั่นด้วยกันเยอะมาก แต่เขามีพื้นฐานมากจากผลงาน Sakura ธรรมดา อันที่จริงมาจากพื้นฐานแอนิเมชั่น 2 มิติด้วยซ้ เขามีมุมมองทั้ง 2 ด้าน เขารู้ว่าจะใช้เทคโนโลยีที่มีความแตกต่างอย่างไร หลักการถ่ายทำที่มีความแตกต่างอยากไร ร่วมงานกับหลายคนจากทั่วโลกอย่างไร ซึ่งนั่นคือสิ่งสำคัญมาก ประเทศญี่ปุ่นค่อนข้างอนุรักษ์ผลงานแอนิเม มันจึงเป็นเรื่องยากที่จะหาคนเปิดกว้างในเรื่องนั้นได้ มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้น แต่ไม่มีใครเหมือนเคนจิที่มีความพร้อมมาดีมากพอแล้ว
ลั่นกลองรบ กลับสู่สมรภูมิที่โลกไม่เคยเห็น หวนคืนสู่มิดเดิลเอิร์ธผ่านสายตาของผู้กำกับระดับตำนาน ‘เคนจิ คามิยามะ’ กับ “The Lord of the Rings: The War of the Rohirrim - เดอะ ลอร์ด ออฟ เดอะ ริงส์: ศึกแห่งโรเฮียร์ริม” วันนี้ในโรงภาพยนตร์ #LOTR #TheWarOfRohirrim #TheWarOfRohirrimTH