ประจันหน้ากลางท่าเรือบอสตัน หนีตายระทึกบนลิฟต์เคลื่อนที่ “The Silent Hour” เผยไฮไลต์ต้องจับตา สองฉากไล่ล่า “เงียบระห่ำ ลั่นนรก” เดือดแน่ 7 พฤศจิกายนนี
เตรียมปลุกทุกสัญชาตญาณสู้ไปกับภารกิจไล่ล่าที่เงียบที่สุด! “The Silent Hour เงียบระห่ำ ลั่นนรก” ภาพยนตร์แอ็กชันทริลเลอร์เล่าเรื่องราวของ “แฟรงก์ ชอว์” (โจแอล คินนาแมน) เจ้าหน้าที่ตำรวจที่สูญเสียการได้ยินจากอุบัติเหตุระหว่างตามล่าคนร้าย ซึ่งภายหลังการพักฟื้นตัวเขาต้องเข้าไปพัวพันกับคดีฆาตกรรมสุดอันตรายอย่างเลี่ยงไม่ได้ และนั่นเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้แฟรงก์ได้รู้จักกับ “เอวา เฟรมองต์” (แซนดรา เม แฟรงก์) พยานหูหนวกคนสำคัญในคดีนี้ที่กำลังตกเป็นเป้าหมายของเหล่าวายร้ายที่ต้องการจะฆ่าปิดปาก ทั้งสองจึงต้องร่วมมือกันสู้เพื่อหนีตายจากองค์กรค้ายาสุดโหดนี้
โดยหนึ่งไฮไลต์น่าจับตาของเรื่องก็คือ “ฉากไล่ล่าที่ท่าเรือบอสตัน” ซึ่งถือเป็นฉากแอ็กชันสุดยิ่งใหญ่ที่จะทำให้ผู้ชมต้องลุ้นมันส์ระห่ำกันตั้งแต่ต้นเรื่อง โดยผู้จัดการฝ่ายสถานที่ “ไมเคิล คิสซอน” ได้พูดถึงฉากสุดประทับใจของเขาฉากนี้ที่เหล่านักแสดงและทีมงานทุกฝ่ายทุ่มเทกันอย่างสุดพลังว่า
“บอกตรงๆ ว่าผมต้องใช้ความรู้ความชำนาญและประสบการณ์ทั้งหมดของผมเพื่อให้ฉากนี้ออกมาสำเร็จ ผมมั่นใจว่าความพยายามของทุกคนจะคุ้มค่ากับผลลัพธ์ที่ออกมา”
ด้าน “มอร์แกน เชตซูติ” ผู้ดูแลฉากแอ็กชันของเรื่องได้เผยถึงรายละเอียดของการถ่ายทำฉากนี้ว่า "เพื่อบรรลุเป้าหมายนี้ให้สำเร็จลุล่วง เราซ้อมกันที่ศูนย์ฝึกสตันต์ของเราอยู่หลายวัน และยังย้ายไปซ้อมคิวที่สถานที่จริงอยู่นานก่อนถ่ายจริง" การันตีความพร้อมเดือดในฉากไล่ล่าที่ท่าเรือนี้กันได้เลย
และอีกหนึ่งฉากแอ็กชันที่ชวนให้แฟนหนังตั้งตารอไม่แพ้กันนั่นคือ “ฉากต่อสู้บนลิฟต์ที่กำลังเคลื่อนที่” โดยผู้เขียนบทมือดี “แดน ฮอลล์” ได้พูดถึงความระทึกที่เต็มไปด้วยจุดพลิกผันนี้ว่า
“มีฉากหนึ่งเกิดขึ้นในลิฟต์ สองตัวละครนำกดปุ่มฉุกเฉินเพื่อขอความช่วยเหลือ แต่พวกเขาไม่ได้ยินว่ามีใครตอบรับหรือไม่ กว่าจะมีคนตอบ พวกเขาก็วางสายไปแล้ว”
โดยฉากนี้เปิดโอกาสให้นักแสดงหนุ่ม “โจเอล คินนาแมน” ในบทยอดนักสืบที่สูญเสียการได้ยินได้ร่วมออกแบบการต่อสู้และท่าไม้ตายด้วยตนเองโดยอิงจากวิชาบราซิลเลียนยิวยิตสูของเขา
อีกทั้งยังถือเป็นความท้าทายครั้งใหญ่ของทีมงานเบื้องหลังที่ต้องคิดค้นระบบกลไกของลิฟต์ใหม่ทั้งหมดเพื่อใช้ในการถ่ายทำ ซึ่ง “เคนเนท แคสซาร์” หัวหน้าฝ่ายเทคนิคพิเศษ (SFX) ได้เผยถึงเบื้องหลังฉากนี้ว่า
“กลไกของลิฟต์พร้อมระบบอิเล็กทรอนิกส์ทั้งหมดที่เกี่ยวข้อง ตั้งแต่การเปิดและปิดประตูไปจนถึงตัวเลขที่บอกชั้น นับเป็นความสำเร็จของทีมเรา... และสิ่งที่ผมประทับใจมากที่สุดคือการโฟกัสที่ภาพรวมของ ‘แบรด’ (ผู้กำกับ) ไม่ใช่แค่สิ่งที่เกิดขึ้นแค่หน้ากอง วิสัยทัศน์ของเขาแน่วแน่ซึ่งช่วยให้ทุกคนเข้าใจสิ่งที่เขาต้องการนำเสนอ”
จากเรื่องจริงของตำรวจนิวยอร์ก สู่เรื่องราวการไล่ล่าโคตรเดือดบนจอยักษ์ คอหนังแอ็กชันชาวไทยเตรียมมันส์กระหน่ำส่งท้ายปีใน “The Silent Hour เงียบระห่ำ ลั่นนรก” 7 พฤศจิกายนนี้ ในโรงภาพยนตร์