White Bird : เรียบง่ายแต่ทรงพลัง เปี่ยมล้นด้วยความหวังและความอบอุ่นของหัวใจมหัศจรรย์ | Film to Watch Short Review
“White Bird ไวต์ เบิร์ด หัวใจมหัศจรรย์” คือผลงานที่เล่าเรื่องราวต่อเนื่องจาก “Wonder ชีวิตมหัศจรรย์วันเดอร์” หลังเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้น “จูเลียน” จอมบูลลี่เติบโตมาเป็นเด็กหนุ่มผู้เงียบขรึมและเก็บตัว เขามีโอกาสได้ต้อนรับ “คุณย่า” ที่เดินทางมาจากปารีส ก่อนที่คุณย่าจะเล่าเรื่องราวในอดีตสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 เมื่อครั้งที่เธอเป็นเพียงแค่เด็กสาวชาวยิวและพักอาศัยอยู่ในเมืองอันเงียบสงบของฝรั่งเศส ซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกับที่กองทัพนาซีเข้ารุกราน ทำให้เธอได้พบกับเด็กหนุ่มพิการคนหนึ่งที่ความเมตตาของเขาเปรียบดังแสงสว่างในโมงยามที่มืดมิด เผื่อว่าประสบการณ์ครั้งนี้จะทำให้หลานชายของเธอเลือกใช้ชีวิตให้มีความหมายเพิ่มมากขึ้น
ความคิดเห็นส่วนตัว White Bird คืออีกหนึ่งผลงานที่ว่าด้วยเรื่องราวในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ผลงานที่ดูแค่ตัวอย่างก็พอช่วยให้เราเดาทิศทางของเรื่องได้ไม่ยาก แต่สิ่งที่ทำให้ White Bird ดูโดดเด่นเพิ่มมากขึ้นก็คือการฉายภาพผลกระทบของสงครามและความเป็นมนุษย์ได้รอบด้าน ซึ่งมีทั้งดีแท้และดีแตก ผ่านมุมมองของ “ซาร่า” หรือคุณย่าวัยเด็กสาว และ “จูเลียน” เด็กหนุ่มพิการ แม้ภาพที่นำเสนอออกมาจะไม่ได้มุ่งเน้นไปที่ภาพความรุนแรงของสงครามแบบเน้น ๆ แต่เรายังสัมผัสได้ถึงความสูญเสียและผลกระทบทางตรงและทางอ้อมจากมันได้ตลอดทั้งเรื่อง
นอกจากนี้ อีกหนึ่งความโดดเด่นของ White Bird คือการนำเสนอเรื่องราวมิตรภาพและความรักระหว่าง “ซาร่า” และ “จูเลียน” ที่ดูละเมียดละไม อบอุ่น และชุบชูใจ โดยที่ “ความเมตตา” ของเด็กหนุ่มคือเครื่องตอกย้ำให้เด็กสาวรวมไปถึงคนดูอย่างเรา เข้าใจความหมายที่แท้จริงของคำว่า “กล้าหาญ” ซึ่งบอกเล่าแบบเรียบง่าย แต่ทรงพลัง และเปี่ยมด้วยความหวังอย่างแท้จริง
White Bird จึงไม่ใช่แค่ผลงานที่ว่าด้วยสงครามและผลกระทบจากมันอีกเรื่องหนึ่ง ที่มอบให้เพียงแค่ความบันเทิงซาบซึ้งกินใจ แต่ White Bird คือผลงานที่ช่วยตอกย้ำให้เห็นถึงความสำคัญของการทำดีต่อกันไว้แม้ในวันที่ไฟเผาไหม้ไปทั่วทั้งโลก นี่คือความกล้าหาญที่ไม่ใช่เพื่อทำให้โลกใบนี้ใจดีกับเรา แต่เผื่อว่าสักวันการทำดีต่อกันมันจะช่วยขับเคลื่อนสังคมของเราให้น่าอยู่อย่างแท้จริง