ประวัติความเป็นมาของอัญมณีในประเทศไทย
ความสนใจในความสวยงามของอัญมณีและเครื่องประดับของคนเรานั้นมีมาตั้งแต่สมัยโบราณกาลอย่างน้อยประมาณ ๑๕๐,๐๐๐ ปีมาแล้ว อัญมณีที่รวบรวม ได้จากสุสานโบราณทําให้เรารู้ว่ามีการนําเอาอัญมณี มาใช้ทําเป็นอาวุธพอๆ กับทําเครื่องประดับ เพชร, พลอย ที่ขุดพบในหลุมฝังศพอายุประมาณ 20,000 ปี มีตั้งแต่ เปลือกหอยทะเลราคาถูก ไปจนถึงก้อนมรกตที่ ยังไม่เจียระไน ในอดีตผู้คนนําอัญมณีในท้องถิ่นมาใช้เป็นส่วนใหญ่ ประเทศจีนมีการแกะสลักหยกตั้งแต่ เมื่อ 4,500 ปีก่อน ช่างชาวอียิปต์และสุเมเรียนใช้ ลาพิส ลาซูลี คาร์เนเลียน และเทอร์คอยส์ และช่างชาว โรมันใช้อะเกตในการแกะสลัก ส่วนทางเอเชียนิยมใช้เพชร ทับทิมและแซปไฟร์ตํานานและการแพทย์ ผู้คน เชื่อกันว่าทั้งสีที่ส่องประกายและรูปผลึกที่ สมบูรณ์เป็นความงดงามของอัญมณีที่มาจากสวรรค์ จึงเกิดความ หลงเชื่อไปทั่วว่าอัญมณีแต่ละชนิดบันดาล ให้เกิดสิ่งต่างๆ ได้
ประเทศไทยมีชื่อเสียงด้านการเป็นศูนย์กลางของ อารยธรรมในตะวันออก โดยมีผลมาจากการที่ไทยมี ศิลปะที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเองอย่างสมบูรณ์แบบ ฝีมือศิลปะของช่างคนไทยไม่ว่าจะหญิงหรือชายก็จะมี ชื่อเสียงในเรื่องของความสวยงามประณีตและละเอียดของชิ้นงานซึ่งมีชื่อเสียงไปทั่วโลก โดยเป็นการส่งต่อ ผลงานและชื่อเสียงมายาวนานจากรุ่นเก่าจนมาถึงช่างรุ่นปัจจุบัน อัญมณีและเครื่องประดับเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรม หลักที่เคยเจริญรุ่งเรืองมาตั้งแต่สมัยโบราณ และด้วย ความเชื่อดั้งเดิมที่ว่าการสวมใส่อัญมณีตามราศีที่เกิด หรือสวมใส่เสื้อผ้าที่มีสีสันตามสีประจําวันนั้น จะเป็น การนําความโชคดีและความสําเร็จในเรื่องต่างๆนั้นก็ยังคงเป็นความเชื่อ และถือปฏิบัติกันมาจนถึงทุกวันนี้