Project Silence : เค-ซอมบี้อย่าได้วางใจ เพราะหมาคลั่งพร้อมขย้ำแล้ว มหกรรมภัยพิบัติ-ไซไฟ-ระทึกขวัญ-แอ็คชั่นแบบนอนสต็อป | Film to Watch Short Review
จากคำโปรยที่ว่า “ปรากฏการณ์คลั่งเมกะโปรเจกต์ครั้งใหญ่” ดูท่าคงจะไม่เกินความจริง สำหรับ “Project Silence เขี้ยวชีวะคลั่งสะพานนรก” ภาพยนตร์แนวภัยพิบัติ-ไซไฟ-ระทึกขวัญ-แอ็คชั่น ที่ว่าด้วยเหตุการณ์หมอกปริศนาปกคลุมเส้นทางจราจรของเกาหลี จนทำให้เกิดอุบัติเหตุครั้งใหญ่บนสะพาน ขณะเดียวกันรถบรรทุก “ฝูงหมาทดลองสุดคลั่ง” ของทางทหารก็ดันเกิดอุบัติเหตุกับเขาด้วย นำไปสู่เหตุการณ์สุดโกลาหลบนพื้นที่ปิดตาย ทีนี้ผู้รอดชีวิตต้องวัดดวงแล้วล่ะสิ ว่าจะนั่งรออยู่เฉยๆ ให้สะพานถล่ม หรือวิ่งออกไปเผชิญหน้ากับเขี้ยวชีวะที่พร้อมขย้ำเราทุกวินาที
สำหรับภาพรวมของ Project Silence บอกได้เลยว่านี่คืออีกหนึ่งผลงานจากเกาหลีที่ดำเนินเรื่องแบบตามสูตร มีความกลมกล่อมทางอารมณ์ ทั้งแอคชั่น ดราม่า ลุ้นระทึก และคอมเมดี้ มีการวิพากษ์การทำงานของเจ้าหน้าที่รัฐได้อย่างแสบสันพร้อมเชิดชูมโนธรรมตามแบบฉบับที่เราคุ้นเคยกันดี ขณะเดียวกันก็บอกเล่าผ่านเลนส์ภัยพิบัติ-ไซไฟได้อย่างลงตัว
ในแง่ของการเล่าเรื่อง ทางผู้กำกับและมือเขียนบทก็พร้อมสาดซัดหนึ่งวันพันเหตุการณ์นับตั้งแต่เปิดเรื่อง นำพาตัวละครพร้อมกับเราคนดูไปสู่สถานการณ์สุดโกลาหลได้อย่างรวดเร็ว และอึกทึกครึกโครมจนแอบตกใจเบาๆ ว่านี่เราดูในระบบ IMAX อยู่หรือเปล่า เพราะดิจิตอลซาวด์เช็คเทสลำโพงได้โคตรดี เซ็ตติ้งพร้อมวางหมากจุดพลิกผัน-พลิกแพลงเรื่องราวได้เฉียบคมมาก เรียกได้ว่าเกาหลีเกาใจเขาทำถึงอีกแล้วครับท่านผู้ชม
นอกจากนี้ Project Silence คือผลงานการแสดงเรื่องสุดท้ายของ ‘อีซอนคยุน’ นักแสดงมากฝีมือผู้ล่วงลับที่รับบทเป็น ‘นายทำเนียบ’ ได้สมบทบาทและสมศักดิ์ศรีเป็นที่สุด แฟนๆ คงมีแอบยิ้มทั้งน้ำตากับซีนสุดท้ายของเขาภายในเรื่องนี้อย่างแน่นอน
และที่โดนใจมากเป็นพิเศษก็คือ ‘จูจีฮุน’ ในบท ‘นายรถลาก’ ที่นอกจากจะพลิกบทบาทเป็นตัวละครจอมปากดีที่ไม่มีพิษมีภัย เขาคือชายผู้สร้างสีสันให้กับเรื่องราวได้อย่างแพรวพราว ตัดเลี่ยนความลุ้นระทึกตึงเครียดในแทบจะทุกซีน ถ้าไม่มีเขาสักคนนะ ความกลมกล่อมทางอารมณ์ของหนังคงมีดร็อปลงแน่นอน