หลังสร้างปรากฏการณ์ ‘หลานม่า’ ที่ทำถึงจนคนดูนั่งน้ำตาซึมเป็นแถว GDH พร้อมตอกย้ำความปังไม่ให้แผ่วด้วย ‘วิมานหนาม’ ผลงานรสชาติเจ็บที่จะทำให้คุณรู้ซึ้งถึงความไม่เท่าเทียม ว่าด้วยเรื่องราวคู่รัก LGBTQ ที่มีสวนทุเรียนเป็นเหมือนวิมานรัก แต่แล้วทุกอย่างกลับตาลปัตร เมื่ออุบัติเหตุที่ไม่มีใครคาดคิด เปลี่ยนวิมานในฝันให้กลายเป็นบัลลังก์ที่มีแต่ขวางหนาม พร้อมทิ่งแทงทุกชีวิตที่หวังคิดจะครอบครอง

สำหรับ ‘วิมานหนาม’ นี่คืออีกหนึ่งผลงานที่ตอกย้ำว่า GDH ยังคงเป็นแบรนด์ที่เหล่าคอหนังไทยให้ความศรัทธาได้เสมอ ด้วยเรื่องราวดราม่าทริลเลอร์แบบถึงแก่น ผ่านศึกแย่งชิงที่ดินที่เฉือนคมกันได้แสบสันผ่านตัวละคร ทองคำ, แม่แสง, โหม๋ และ จิ่งนะ ที่ทุกคนล้วนเป็นตัวแทนของความไม่เท่าเทียมในแง่มุมที่แตกต่างกันไป ทั้งเรื่องเพศสภาพ เพศวิถี ชนชั้นทางสังคม ขนบธรรมเนียนประเพณี และชาติพันธุ์ ซึ่งนำเสนอออกมาได้รอบด้านและมีมิติที่น่าสนใจ

หลากตัวละครหลักภายในเรื่องล้วนมีสถานะเป็นผู้ทำกระและถูกกระทำต่างวาระกรรมกันไป มีเหตุผลในการกระทำและแรงผลักดันที่พอเข้าใจได้ ซึ่งถือเป็นหมัดเด็ดที่ชวนให้เรารู้สึกเห็นใจในชะตากรรม แต่ก็ไม่อาจรับได้ในหลายกรณีจากวิธีการที่ตัวละครใช้โต้ตอบกัน

ซึ่งทางผู้กำกับ บอส นฤเบศ กูโน มีมุมมองในการกำกับที่เฉียบคมมาก เรียกได้ว่าขยี้ในขยี้ในขยี้จนต้องยอมรับว่าภาพรวมของ ‘วิมานหนาม’ ทำถึงจริง ๆ ไหนจะการแสดงของ เจฟ ชาเตอร์, อิงฟ้า วราหะ, สีดา พัวพิมล, หฤษฎ์ บัวย้อย และ พงศกร เมตตาริกานนท์ ที่เชือดเฉือนกันได้เดือดมาก ไม่มีใครหาย ไม่ตาย ไม่จมเลยสักซีน เข้มข้นในระดับที่คนดูนั่งกำหมัดแทบจะตลอด 125 นาทีของเรื่อง

ไหนจะงานกำกับภาพ มุมกล้อง การวางเฟรม เกรดสี คอสตูม ดนตรีประกอบ ที่ช่วยส่งเสริมกันและกันให้ทุกอย่างมันดำเนินไปในทิศทางเดียวกันอีก

ส่งผลให้ ‘วิมานหนาม’ เป็นผลงานที่พร้อมมอบประสบการณ์ความเจ็บปวดจากความไม่เท่าเทียมแห่งปีจาก GDH ที่ไม่มีการประนีประนอมใด ๆ แก่คนดูอย่างแท้จริง #วิมานหนาม #TheParadiseOfThorns