ดิสนีย์ เอนเตอร์เทนเมนต์ ร่ายมนตร์ในคืนวันศุกร์ สะกดเหล่าแฟนดิสนีย์ให้ตื่นตะลึงในงาน D23: The Ultimate Disney Fan Event presented by Visa  ประกาศทัพไลน์อัปความบันเทิงเรื่องโปรด รวมถึงภาพยนตร์และซีรีส์จากวอลท์ ดิสนีย์ แอนิเมชัน อย่าง Zootopia 2, Toy Story 5 จากพิกซาร์ ,  Snow White จากดิสนีย์ และ  Agatha All Along จาก Marvel Television

การประกาศไลน์อัปอันหลากหลายในคืนวันศุกร์ที่งาน D23 ยังทำให้ช่วงซัมเมอร์ของบ็อกซ์ออฟฟิศร้อนแรงมากกว่าที่เคย หลัง Kingdom of the Planet of the Apes จาก 20th Century Studios  Inside Out 2 จาก พิกซาร์ แอนิเมชัน สตูดิโอส์ และ Deadpool & Wolverine จาก Marvel Studios ทำเงินรวมกันกว่า 2.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ  อีกทั้งยังครองอันดับ 1 บนบ็อกซ์ออฟฟิศ ในเดือนพฤษภาคม มิถุนายน และกรกฎาคม

การประกาศไลน์อัปในงาน D23 ซึ่งจัดขึ้นขึ้นที่ฮอนด้า เซนเตอร์ในครั้งนี้ ยังเป็นเครื่องพิสูจน์ให้เห็นว่าดิสนีย์เป็นผู้นำในการสรรค์สร้างกิจกรรมทางวัฒนธรรมผ่านการเล่าเรื่องที่สร้างสรรค์ และล้ำเหนือระดับด้วยนวัตกรรมใหม่ ๆ

“มันน่าตื่นเต้นมากที่เราได้ประกาศเรื่องราวอันน่าเหลือเชื่อ และได้พาสุดยอดแฟน ๆ มาลิ้มรสประสบการณ์จากสตูดิโอของเราที่งาน D23 นี้”  Alan Bergman ประธานร่วมของดิสนีย์ เอนเตอร์เทนเมนต์ กล่าว “การประกาศไลน์อัปในค่ำคืนนี้ ได้ทำให้เห็นสุดยอดภาพยนตร์และรายการหลากหลายแนว เราแทบรอไม่ไหวแล้ว ที่จะชวนผู้ชมมารับชมด้วยกันในปีต่อ ๆ ไป ผมรู้สึกขอบคุณคนทำหนัง ดารา และนักแสดงทุกคนที่ร่วมยืนบนเวทีกับเราในคืนนี้ เพื่อสร้างค่ำคืนอันลืมไม่ลงให้กับแฟน ๆ ไปด้วยกัน”

และนี่คือส่วนหนึ่งของประกาศสำคัญ อัปเดต และเรื่องราวที่ดิสนีย์ เอนเตอร์เทนเมนต์ ได้เปิดเผยในค่ำคืนวันศุกร์ ที่งาน D23: THE ULTIMATE DISNEY FAN EVENT

Moana 2 

ก่อนเริ่มการประกาศ ดิสนีย์ เอนเตอร์เทนเมนต์ เริ่มเปิดโชว์เคสด้วยการแสดงและการเต้นประกอบบทเพลง ทั้งยังชวน Dwayne Johnson มาเรียกความสนุกจากผู้ชม พร้อมเร้าความตื่นเต้นเพื่อต้อนรับ หนึ่งในภาพยนตร์ที่ผู้ชมรอคอยมากที่สุดแห่งปีจากวอลท์ ดิสนีย์ แอนิเมชัน สตูดิโอส์ อย่าง Moana 2

Auliʻi Cravalho  ผู้ให้เสียง Moana ยังได้แสดงบทเพลงใหม่ “We’re Back” ร่วมกับเหล่านักเต้น และวงแบนด์เต็มรูปแบบ ขณะที่เจ้าของเสียง Maui อย่าง  Dwayne Johnson พาผู้ชมมามีส่วนร่วมการแสดง เรียกเสียงเชียร์จนกำแพงฮอนด้า เซนเตอร์ ในเมืองอนาแฮม รัฐแคลิฟอร์เนียสั่นสะเทือน โดยได้มีการเผยโฉมเทรลเลอร์และโปสเตอร์ชิ้นใหม่ เพื่อเฉลิมฉลองความสำเร็จของแฟรนไชส์ยอดนิยมที่มีการเติบโตมากที่สุดเรื่องหนึ่งของดิสนีย์เรื่องนี้  ก่อนที่ภาพยนตร์ Moana 2 จะเปิดม่านการแสดงในโรงภาพยนตร์ ในวันที่ 28 พฤศจิกายน 

ก่อนหน้านี้ ภาพยนตร์เรื่อง Moana กวาดรายได้ไปกว่า 700 ล้านเหรียญสหรัฐ ในปี 2016 ก่อนจะกลายเป็นเรื่องฮิตบนสตรีมมิ่ง โดยจากรายงานยอดผู้ชมสตรีมมิ่งของ Nielsen 2023 ได้ระบุว่า Moana คือภาพยนตร์ที่ถูกสตรีมมากที่สุดจากทุกแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งในสหรัฐอเมริกา ในปี 2023 

ความสำเร็จเหล่านี้ได้นำมาสู่ภาคต่ออย่าง Moana 2 ที่ชวนให้แฟน ๆ อดตื่นเต้นไม่ได้ จนยอดการชมเทรลเลอร์พุ่งสูงที่สุดในประวัติศาสตร์ของดิสนีย์ ด้วยยอดวิวกว่า 200 ล้านวิว ใน 24 ชั่วโมง 

Frozen 3

ด้วยรายได้กว่า 2.7 พันล้าน ดอลลาร์สหรัฐในบ็อกซ์ออฟฟิศ พร้อมด้วยสินค้ามากมาย และการแสดงบทเพลง “Let It Go” อย่างนับครั้งไม่ถ้วน ทำให้ Frozen ได้กลายมาเป็นแฟรนไชส์ที่โด่งดังมากที่สุดในรอบทศวรรษ ของวอลท์ ดิสนีย์ แอนิเมชัน สตูดิโอส์

ในอีกไม่นาน  Anna, Elsa, และ Olaf จะมาฝากความอบอุ่นไว้ในหัวใจของแฟน ๆ ทั่วโลกให้มากกว่าที่เคย  

โดย Jennifer Lee ประธานฝ่ายครีเอทีฟของดิสนีย์ แอนิเมชัน ได้เผยภาพคอนเซ็ปต์อาร์ตจาก Brittney Lee ผู้ออกแบบโปรดักชัน และโลโก้ใหม่สำหรับภาพยนตร์เรื่องใหม่นี้ ที่แฟน ๆ จะได้รับชมในปี 2027 

Incredibles 3

ในค่ำคืนวันศุกร์ Pete Docter ประธานฝ่ายครีเอทีฟของ พิกซาร์ แอนิเมชัน สตูดิโอส์ มาพร้อมกับการประกาศเรื่องราวที่น่ายินดีมากมาย ทั้งจากความสำเร็จล่าสุด และเรื่องในอนาคตของสตูดิโอ

เรื่องราวเหล่านี้รวมถึงคำขอบคุณที่มอบให้แฟน ๆ ซึ่งสนับสนุน Inside Out 2 จนกลายเป็น ภาพยนตร์แอนิเมชันที่ทำรายได้สูงสุดตลอดกาล ในช่วงซัมเมอร์นี้ อีกทั้งยังได้อัปเดตไลน์อัปใหม่ อย่างซีรีส์อย่าง Win or Lose  ที่จะออกอากาศในปี 2024 นี้ ภาพยนตร์เรื่อง Elio ในปี 2025 และ Toy Story 5 ในปี 2026 นอกจากนี้ Docter ยังได้ประกาศซีรีส์เรื่องใหม่ที่ผู้ชมจะได้สตรีมพร้อมกันบน Disney+ Hotstar อย่าง Dream Productions ที่เล่าเรื่องในจักรวาลของ Inside Out  โดยสตูดิโอเตรียมพา “Hoppers” ภาพยนตร์เรื่องใหม่เข้าฉายในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ปี 2026 เช่นกัน 

อย่างไรก็ตาม เรื่องเซอร์ไพรส์ที่สุดในค่ำคืนคงหนีไม่พ้นการประกาศสร้าง  Incredibles 3 อย่างเป็นทางการ โดยผู้กำกับเจ้าของรางวัล Oscar® อย่าง Brad Bird กำลังพัฒนาการสร้างอยู่ในขณะนี้ 

สุดยอดซีรีส์ซูเปอร์ฮีโร่เรื่องนี้ ยังเป็นแฟรนไชส์ที่ได้รับความนิยมอย่างยิ่ง และได้รับการยกย่องจากนักวิจารณ์มากที่สุดเรื่องหนึ่งในวงการแอนิเมชัน โดยภาพยนตร์สองภาคแรกคว้ารายได้รวมกันเกือบ 2 พันล้านเหรียญสหรัฐ ขณะที่ภาพยนตร์ต้นฉบับเองก็ได้คว้ารางวัลออสการ์ สาขาภาพยนตร์แอนิเมชันยอดเยี่ยมมาครอง

Avatar: Fire And Ash

นอกจากแอนิเมชัน ดิสนีย์ เอนเตอร์เทนเมนต์ยังได้เผยข่าวของภาพยนตร์ไลฟ์แอคชันด้วยเช่นกัน โดยหนึ่งในนั้นคือหนึ่งในภาพยนตร์ซีรีส์ ที่ได้ครองความยิ่งใหญ่ในประวัติศาสตร์บ็อกซ์ออฟฟิศอย่าง Avatar 

แฟรนไชส์หนังไซไฟเรื่องนี้ได้พานักแสดงอย่าง Zoë Saldaña และ Sam Worthingto มาร่วมทักทายแฟน ๆ โดย James Cameron ผู้กำกับ ได้เล่าถึงภาพยนตร์ภาคต่อในแฟรนไชส์ ที่ผู้ชมจะได้รับชมในโรงภาพยนตร์ในวันที่ 18 ธันวาคม 2025 นอกจากนี้ยังได้มีการเผยโฉมคอนเซ็ปต์อาร์ต และเปิดชื่อของภาพยนตร์เรื่องที่สามของแฟรนไชส์ภาพยนตร์จาก 20th Century Studios เรื่องนี้ ในชื่อ Avatar: Fire And Ash

ในปี 2009 ภาพยนตร์เรื่อง Avatar กวาดรายได้ไปกว่า 2.9 พันล้านเหรียญ ในบ็อกซ์ออฟฟิศทั่วโลก ขณะที่ภาพยนตร์ภาคต่อในปี 2022 อย่าง Avatar: The Way of Water คว้ารายได้ตามมาที่ 2.3 พันล้านเหรียญทั่วโลก ทำให้ทั้งสองเรื่องได้ครองอันดับ 1 และ อันดับ 3 ของสุดยอดภาพยนตร์ที่ทำรายได้สูงสุดตลอดกาล 

โดยภาคต่อของ Avatar นั้นมีกำหนดฉายในปี 2029 และ 2031

The Mandalorian and Grogu

กิจกรรมในค่ำคืนวันศุกร์นั้นยังรวมไปถึงการประกาศเรื่องราวของนักล่ารางวัลและศิษย์เอกคนโปรดของเหล่าแฟน ๆ จากจักรวาลของ Star Wars 

Jon Favreau ผู้กำกับ และ Dave Filoni โปรดิวเซอร์ได้อวดโฉมฟุตเทจใหม่ของ ภาพยนตร์ที่คุณจะได้รับชมเร็ว ๆ นี้ อย่าง The Mandalorian & Grogu ที่ได้เรียกเสียงเชียร์และความตื่นเต้นจากผู้คนในฮอนด้า เซนเตอร์ได้เป็นอย่างดี 

ภาพยนตร์เรื่องนี้จะเป็นภาพยนตร์เรื่องแรกที่มีตัวละครจากรายการยอดนิยมบน Disney+ Hotstar มาโลดแล่นบนจอใหญ่ อีกทั้งยังเป็นภาพยนตร์จากแฟรนไชส์ Star Wars เรื่องแรกที่จะฉายในโรงภาพยนตร์ นับตั้งแต่ที่ Star Wars: The Rise of Skywalker ได้โลดแล่นบนจอภาพยนตร์ในปี 2019  โดย The Mandalorian & Grogu จะเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ในปี 2026 

Daredevil: Born Again

Daredevil: Born Again ซีรีส์ที่เล่าเรื่องฮีโร่คนเดินดิน จาก Marvel Television ซึ่งผู้ชมจะได้สตรีมพร้อมกันบน Disney+ Hotstar ในเดือนมีนาคม 2025 – ได้ขนทัพนักแสดงอย่าง  Charlie Cox, Vincent D’Onofrio, Deborah Ann Woll, Elden Henson และ Jon Bernthal มาร่วมทักทายแฟน ๆ ด้วยเช่นกัน 

ซีรีส์เรื่องนี้จะชวนคุณมาพบกับเรื่องราวของ Matt Murdock ทนายความตาบอดที่มีความสามารถพิเศษ และ Wilson Fisk ศัตรูคู่แค้นของเขา กับการไล่ตามความฝันทางการเมืองในมหานครนิวยอร์ก โดยเหล่านักแสดงได้เผยโฉมฟุตเทจจากซีรีส์เรื่องใหม่นี้ให้ผู้ชมในงาน D23 ได้รับชมไปพร้อมกันอีกด้วย

TRON: Ares

ภาคต่อของภาพยนตร์ซีรีส์ TRON ได้เรียกเสียงฮือฮาให้ผู้ชมอย่างมีสไตล์ในค่ำคืนวันศุกร์ เมื่อนักแสดงอย่าง  Jared Leto ปรากฏตัวบนมอเตอร์ไซค์แสงอันเป็นเอกลักษณ์ของ TRON พร้อมด้วยเพื่อนนักแสดงอย่าง Jeff Bridges, Greta Lee และ Evan Peters.

เหล่านักแสดงได้เล่ารายละเอียดของตัวละคร และได้อวดโฉมใหม่ของภาพยนตร์ให้ผู้ชมได้รับชมในงานเท่านั้น  นอกจากนี้ยังได้ประกาศข่าวใหญ่ด้วยเลเซอร์ว่า เพลงในภาพยนตร์เรื่องนี้จะสรรค์สร้างโดย Trent Reznor และ  Atticus Ross แห่ง Nine Inch Nails.

ภาพยนตร์เรื่องนี้กำกับโดย Joachim Rønning และมีกำหนดเข้าฉายในโรงภาพยนตร์วันที่ 9 ตุลาคม 2025 โดยเกาะติดเรื่องราวของ Ares โปรแกรมขั้นสูงซึ่งถูกส่งจากโลกดิจิทัลมายังโลกแห่งความเป็นจริงพร้อมภารกิจอันตราย จนกลายเป็นการเผชิญหน้าครั้งแรกระหว่างมนุษยชาติกับสิ่งมีชีวิตเป็นปัญญาประดิษฐ์

Mufasa: The Lion King

ปิดฉากโชว์เคสของดิสนีย์ เอนเตอร์เทนเมนต์ ด้วย Mufasa: The Lion King ที่ได้พาเจ้าของเสียงดนตรีในภาพยนตร์เรื่องนี้อย่าง Lebo M. ขึ้นแสดงร่วมกับคณะประสานเสียง  

ภาพยนตร์เรื่องนี้กำกับโดย Barry Jenkins ผู้กำกับมือรางวัลออสการ์ ที่จะพาไปสำรวจเรื่องราวเบื้องหลังว่า Mufasa กลายมาเป็นราชาผู้ยิ่งใหญ่แห่ง Pride Lands ได้อย่างไร โดยจะเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ในวันที่ 19 ธันวาคม 

Jenkins ได้พา Lin-Manuel Miranda ผู้ประพันธ์เพลง Mufasa ขึ้นปรากฏตัวบนเวทีในงาน D23 เป็นครั้งแรก พร้อมร่วมกันเผยรายละเอียดพิเศษในฉากหนึ่งของภาพยนตร์ ที่ชูเพลงใหม่ชื่อ “I Always Wanted a Brother” โดยยังมีเหล่านักแสดงอย่าง Aaron Pierre, Kelvin Harrison Jr., Seth Rogen, Billy Eichner, Theo Somolu, Braelyn Rankins และ Anika Noni Rose ร่วมยืนบนเวทีกับ Jenkins อีกด้วย 

Mufasa: The Lion King จะเล่าเรื่องราวภาคก่อนที่ภาพยนตร์ต้นฉบับในปี 1994 จะเริ่มต้นขึ้น เพื่อเฉลิมฉลองการครบรอบ 30 ปี และจะดำเนินเรื่องด้วยภาพยนตร์สไตล์เดียวกับ  The Lion King ที่ฉายในโรงภาพยนตร์ในปี 2019 และกวาดรายได้บนบ็อกซ์ออฟฟิศไปกว่า 1.6 พันล้าน ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเป็นการใช้นวัตกรรมมาผสมผสานกับเทคนิคการสร้างภาพยนตร์ไลฟ์แอ็กชัน เพื่อถ่ายทอดภาพแบบสมจริงด้วยคอมพิวเตอร์

นอกจากโชว์เคสจากดิสนีย์ เอ็นเตอร์เทนเมนต์ จะเปิดโอกาสให้แฟน ๆ ได้เห็นภาพไลน์อัปจากบริษัท  วอลท์ ดิสนีย์ แล้ว  ขณะเดียวกันยังได้อวดโฉมศักยภาพของดิสนีย์ในการสรรค์สร้างแฟรนไชส์และทรัพย์สินทางปัญญาอีกด้วยเช่นกัน 

นับตั้งแต่ปี 2005 เป็นต้นมา ดิสนีย์ได้มีภาพยนตร์ที่ทำเงินมากกว่า 1,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ในบ็อกซ์ออฟฟิศทั่วโลก (27) เป็นจำนวนมากกว่าที่อุตสาหกรรมภาพยนตร์ทั้งอุตสาหกรรมทำได้รวมกัน (22) รวมถึงภาพยนตร์ 4 เรื่องที่ทำรายได้มากกว่า 2,000 ล้านเหรียญสหรัฐ

และสิ่งที่ได้เห็นในค่ำคืนวันศุกร์นี้เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น ยังมีสิ่งใหม่ ๆ จากแบรนด์อันเป็นที่รักเหล่านี้ ตามมาอีกมากมาย

โซเชียลมีเดีย:

X: @DisneyPlusTH

Facebook: @DisneyPlusHotstarTH

Instagram: @DisneyPlusHotstarTH

TikTok: @DisneyPlusTH

Hashtag: #DisneyPlusHotstarTH