เปิดหน้าต่างเบื้องหลังโปรดักชัน “Land of Tanabata” ซีรีส์ญี่ปุ่นม้ามืดบน Disney+ Hotstar ที่ดึงความโหดและกลิ่นอายจากอนิเมะออกมาได้อย่างถึงเครื่อง!
หากพูดถึงซีรีส์ญี่ปุ่นที่เรียกได้ว่าเป็น “ม้ามืด” ในชั่วโมงนี้คงจะหนีไม่พ้นเรื่อง Land of Tanabata ที่ปล่อยมาให้คอญี่ปุ่น ไปจนถึงสาวกซีรีส์แนวลึกลับเหนือธรรมชาติได้สตรีม 5 ตอนแรกเป็นที่เรียบร้อยบน Disney+ Hotstar พร้อมกับช่วงเทศกาลทานาบาตะของญี่ปุ่นพอดี โดยหลังจากเปิดตัวไปไม่นาน ซีรีส์ดังกล่าวก็ได้กระแสตอบรับอย่างล้มหลามที่พูดเป็นเสียงเดียวกันว่าซีรีส์เรื่องนี้ทำได้อย่าง “ถึงเครื่อง” ไม่ว่าจะเป็นพล็อตสุดหักมุมที่ทำให้ลุ้นแทบนั่งไม่ติดจนต้องกดสตรีมตอนต่อไป ซึ่งอีกหนึ่งความโดดเด่นของ Land of Tanabata ที่ได้รับเสียงชื่นชมไม่แพ้การเล่าเรื่องคือโปรดักชันสุดอลังการที่แม้เรื่องนี้จะถูกดัดแปลงจากมังงะชื่อดัง แต่ก็ยังคงกลิ่นอายความโหด ปนบรรยากาศลึกลับในหมู่บ้านที่มาพร้อมกับคดีฆาตกรรม และพิธีกรรมที่สืบทอดมาจากบรรพบุรุษได้เป็นอย่างดี และสามารถจับฐานแฟนมังงะ รวมถึงแฟนซีรีส์ได้อย่างไม่ผิดหวัง
สำหรับ Land of Tanabata เป็นซีรีส์ออริจินัลไลฟ์แอ็กชันญี่ปุ่นบน Disney+ Hotstar ที่ดัดแปลงจากมังงะต้นฉบับในชื่อเดียวกันของอาจารย์ Hitoshi Iwaaki เจ้าของผลงานสุดโด่งดังอย่าง Parasyte ว่าด้วยเรื่องราวของ มินามิมารุ โยจิ หรือ “นัมมารุ” เด็กหนุ่มมหาวิทยาลัยปีสี่ที่มีพลังจิตสามารถสร้าง “รู” ได้ ซึ่งเป็นความสามารถที่ตกทอดมาจากบรรพบุรุษ โดย “นัมมารุ” ได้ค่อย ๆ ค้นพบความจริงเบื้องหลังพลังสุดแปลกและบรรพบุรุษของตนเอง ขณะเดินทางไปยังหมู่บ้าน มารุคามิพร้อมกับเหล่าผู้ช่วยอาจารย์ เพื่อตามหามารุคามิ มาซามิ อาจารย์มหาวิทยาลัยที่หายตัวไปอย่างลึกลับ ซึ่งความท้าทายของเรื่องนี้คือการสร้างโลก Land of Tanabata ขึ้นมาให้สมจริงที่สุด แต่ขณะเดียวกันก็ยังต้องคงกลิ่นอายความเหนือธรรมชาติของเรื่องราวเอาไว้ผ่านความละเอียดลออของโปรดักชันตั้งแต่การใช้ CGI ไปจนถึงการเลือกฉาก และเสียงเป็นต้น
เบื้องหลัง CGI ที่ผสานจุดกึ่งกลางระหว่างมังงะและไลฟ์แอ็กชัน
หากพูดถึงแก่นของ Land of Tanabata สิ่งหนึ่งที่เป็นสัญลักษณ์ชัดเจนของซีรีส์เรื่องนี้คือ “รู” ปริศนาที่นัมมารุได้สร้างขึ้นจากพลังจิตลึกลับของตนเอง ที่เมื่อสิ่งใดไปสัมผัสเข้าจะทำให้ส่วนที่สัมผัสถูกตัดไปทันทีราวกับของแหลมคม โดย Yusuke Taki ผู้กำกับ และผู้อำนวยการสร้างอย่าง Teruhisa Yamamoto ที่เคยสร้างสรรค์ผลงานชื่อดังอย่าง Gannibal ได้ผสานเทคนิคการสร้าง “รู” ที่โหดยิ่งขึ้น โดยให้ฝ่าย CGI สร้างวงกลมปริศนาที่น่าดึงดูดและเย้ายวนให้ผู้คนยื่นมือเข้าไปสัมผัสเมื่อพบเห็น แต่ยังต้องคงรูปร่างจากต้นฉบับมังงะได้อย่างดี
นอกจากนี้ สำหรับภูเขามารุคามิที่มีรูปร่างคล้าย “พุดดิ้ง” อันเป็นเอกลักษณ์ ยังเป็นอีกหนึ่งความท้าทายที่ถึงแม้จะมีภูเขาจริงที่มีรูปร่างเช่นเดียวกับที่กล่าวถึงในฉบับมังงะ แต่การจะขึ้นไปถ่ายทำบนยอดเขา รวมถึงต้องมองลงไปแล้วเห็นหมู่บ้านนั้นเป็นเรื่องยาก ดังนั้นเพื่อความสมจริง ทีมงานจึงได้ใช้ CGI เพื่อถ่ายทำฉากบนยอดเขาที่มาพร้อมบรรยากาศรอบตัวที่สยองขวัญให้สมกับเป็นสถานที่ตั้งทำพิธีกรรมปริศนา
การคัดเลือกฉากหลังที่สมจริงเพื่อสร้างโลกของหมู่บ้านมารุคามิ
หมู่บ้านมารุคามิถือเป็นสถานที่ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นหัวใจหลักของเรื่อง โดยจากต้นฉบับอ้างอิงถึงหมู่บ้านแห่งนี้ว่าตั้งอยู่ ณ เมืองมารุคามิ แต่ไม่ได้มีแจ้งสถานที่ชัดเจนแต่อย่างใด การเลือกสถานที่ถ่ายทำจึงถือเป็นความท้าทายอย่างมาก อย่างไรก็ตาม เพื่อสร้างโลกของ Land of Tanabata ที่มีหมู่บ้านลึกลับเป็นดั่งหัวใจของเรื่องนั้น ทีมงานจึงได้ทำการบ้านอย่างหนักและเผชิญความท้าทายมากมาย โดยแรกเริ่มทีมงานได้ตัดสินใจถ่ายทำที่จังหวัดอาคิตะ อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ในเรื่องเกิดขึ้นช่วงฤดูร้อน จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะถ่ายทำในสถานที่ซึ่งมีหิมะปกคลุมอย่างจังหวัดดังกล่าว ดังนั้น ทีมงานจึงได้เลือกจังหวัดชิซุโอกะเป็นสถานที่ถ่ายทำในที่สุด
ปลุกกลิ่นอายความโหดของพลังของ “รู” ปริศนา กับซาวด์เอฟเฟ็กต์สุดสยองขวัญ
ด้วยความที่ผู้กำกับอย่าง Yusuke Taki ผู้กำกับ และผู้อำนวยการสร้าง Teruhisa Yamamoto ต่างเป็นแฟนตัวยงของ มังงะต้นฉบับอยู่แล้ว ดังนั้นจึงให้ความสำคัญกับการสร้างสรรค์ภาพของพลังจิตของ “ผู้เปิดหน้าต่าง” อย่างมาก โดยไม่เพียงแต่เน้นการสร้าง CGI ให้สมจริงและคงกลิ่นอายความพิศวงจากมังงะเท่านั้น แต่ “เสียง” ก็เป็นองค์ประกอบสำคัญที่ไม่สามารถมองข้ามได้ โดยทางทีมงานได้พยายามสร้างเสียง“โป๊ะ!” ที่ทั้งน่าขนลุกและสร้างความมหัศจรรย์ไปพร้อม ๆ กันเมื่อมีผู้สัมผัสกับรูปริศนา ซึ่งเมื่อรูใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ เสียงที่ตามมาก็ยังสร้างแรงสั่นสะเทือนไปถึงผู้ชมอย่างน่าสยองขวัญ ทำให้แฟน ๆ ต่างสะดุ้งทุกครั้งที่ได้ยินเสียงขึ้นระหว่างสตรีม
การแต่งหน้าด้วยเทคนิคพิเศษเพื่อสร้างตัวละครที่สมบูรณ์แบบที่สุด
หากพูดถึงความสมจริงของซีรีส์ที่ถอดแบบจากมังงะต้นฉบับอย่างสมบูรณ์แบบที่สุดอีกหนึ่งด้าน คือการใช้เทคนิคแต่งหน้าตัวละครที่เรียกได้ว่าต้องใช้ความละเอียดเชี่ยวชาญอย่างมาก โดยตัวละครสำคัญอย่างมุราคามิ โยริยูกิ ที่ โดดเด่นไม่แพ้นัมมารุนั้น ทีมงานได้รังสรรค์เทคนิคการแต่งหน้าที่คล้ายหน้ากากให้กับ ยามาดะ ทาคายูกิ นักแสดงที่รับบทดังกล่าว โดยไม่ใช่แค่ความเชี่ยวชาญของทีมงานแต่งหน้าเท่านั้น แต่นักแสดงยังจำเป็นต้องใช้ความสามารถที่จะถ่ายทอดอารมณ์ของตัวละครออกมาได้อย่างลึกซึ้งภายใต้หน้ากากที่บดบังการแสดงออกทางสีหน้าทั้งหมด ซึ่งทาง ยามาดะ ทาคายูกิ ก็สามารถถ่ายทอดออกมาได้อย่างสมจริงที่สะกดอารมณ์ผู้ชมได้อย่างมืออาชีพ โดยแม้จะเผชิญความท้าทายอย่างสภาพอากาศที่ค่อนข้างร้อนเนื่องจากถ่ายทำในช่วงฤดูร้อน ทำให้ยากต่อการหายใจ แต่ยามาดะ ทาคายูกิ ก็สามารถสวมบทบาทมุราคามิ โยริยูกิ ได้อย่างน่าทึ่งโดยไม่ต้องใช้นักแสดง stand-in แม้แต่ครั้งเดียว
“ผมมองว่า Land of Tanabata มีเนื้อเรื่องและความพิเศษในตัวที่ชวนให้ติดตามต่อไปในทุก ๆ ตอน โดยการผสานทั้งความเชี่ยวชาญของนักแสดง และทีมงานโปรดักชันเบื้องหลังทั้งหมดทำให้เราสามารถสร้างโลกของซีรีส์เรื่องนี้ออกมาได้อย่างลงตัว ทำให้เชื่อว่าจะสามารถดึงดูดผู้ชมให้รู้สึกคล้อยตามไปกับเนื้อเรื่องได้ทั้ง 10 ตอน โดยทั้งบรรยากาศเหนือธรรมชาติ และความลึกลับที่จะค่อย ๆ เผยออกมาจะทำให้ผู้ชมรอคอยที่จะตามหาความจริงไปพร้อม ๆ กับตัวละครอย่างแน่นอน” Yusuke Taki ผู้กำกับซีรีส์ Land of Tanabata กล่าวเสริม
เรียกได้ว่า Land of Tanabata เป็นอีกหนึ่งซีรีส์ญี่ปุ่นที่น่าจับตามอง และถูกใจเหล่าคอซีรีส์ที่ชื่นชอบแนวฆาตกรรมปริศนาที่มีเนื้อเรื่องเกี่ยวข้องกับพิธีกรรมสุดแปลกและความลับของหมู่บ้านประหลาดอย่างแน่นอน โดยซีรีส์เรื่อง Land of Tanabata มีความยาว 10 ตอนจบที่พร้อมให้แฟน ๆ ติดตามชมตอนใหม่ทุก ๆ วันพฤหัสบดี บน Disney+ Hotstar เท่านั้น
โซเชียลมีเดีย:
Facebook: @DisneyPlusHotstarTH
Instagram: @DisneyPlusHotstarTH
TikTok: @DisneyPlusTH
Hashtag: #DisneyPlusHotstarTH