นาฬิกาโอเมก้า ระดมเทคโนโลยีเพื่อโอลิมปิกเกมส์ เพื่อการตัดสินที่แม่นยำชมผ่านจอคมชัดทุกแง่มุม

นาฬิกาโอเมก้า ระดมเทคโนโลยีเพื่อโอลิมปิกเกมส์ เพื่อการตัดสินที่แม่นยำชมผ่านจอคมชัดทุกแง่มุม

โอเมก้านาฬิกาแบร์นดังที่ทั่วโลกยอมรับ  ฉลองครั้งที่ 31 ในการเป็นผู้บอกเวลาอย่างเป็นทางการ ในมหกรรมการแข่งขันกีฬา โอลิมปิก 2024 หรือ ปารีสเกมส์ ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ระหว่างวันที่ 26 กรกฏาคม - 11 สิงหาคมนี้ กับการแข่งขันมากถึง 329 รายการกับ 32 ชนิดกีฬา รวมถึงการแข่งขัน พาราลิมปิก 2024 ระหว่างวันที่ 28 สิงหาคม - 8 กันยายนนี้  ได้ระดมเทคโนโลยีที่ก้าวหน้ามากที่สุดมาใช้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ด้วยระบบ สแกนโอ วิชั่น อัลติแมต (Scan ‘O’ Vision Ultimate) เพิ่มความแม่นยำในการเข้าเส้นชัยที่คมชัดที่จับภาพดิจิทัลได้อย่างแม่นยำแม้เสี้ยววินาทีพร้อมเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์วิชั่น (Computer Vision) เพื่อติดตามนักกีฬา และวัตถุต่างๆ ตลอดการแข่งขันในทุกชนิดกีฬาทุกแง่มุม ยังได้เปิดตัว"วิโอนาร์โด้" (Vionardo) เทคโนโลยีแสดงภาพกราฟฟิกที่ชัดเจนและสะกดสายตาแบบเรียลไทม์ ตอบความต้องการของผู้ถือลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดของแต่ละภูมิภาค

ในการแข่ขัน โอลิมปิก ทุกครั้งมักจะเกิดการทำลายสถิติต่างๆมากมาย โอเมก้า คือนาฬิกาแบรนด์มาตรฐานในการชี้วัด สถิติเหล่านี้ ตั้งแต่ที่การแข่งขันที่ลอสแอนเจลิสเมื่อปี 1932 และทำหน้าที่บอกเวลาอย่างเป็นทางการมายาวนานกว่า 92 ปี เช่นเดียวกับ โอลิมปิก ปารีส เกมส์ ครั้งนี้ ที่ประเทศฝั่งเศส  ที่ได้นำเทคโนยีต่างๆมาใช้อย่างเต็มที่ผ่านอุปกรณ์สำคัญ ทั้ง ปืนสัญญาณออกตัวอิเล็กทรอนิกส์, บล็อกออกตัวกรีฑา, นาฬิกาจับเวลาควอนตัม ที่มอบความละเอียดด้วยความคลาดเคลื่อนเพียงหนึ่งในสิบล้านวินาทีซึ่งเที่ยงตรงมากกว่าเดิมกว่า 5 เท่า,เทคโนโลยีโฟโต้เซลล์, ทัชแพด ในกีฬาว่ายน้ำ, ระบบ สวิงมิ่ง ไลท์ โชว์ (Swimming Light Show ),สกอร์บอร์ดความละเอียดสูง,เซ็นเซอร์ตรวจจับการเคลื่อนไหวและระบบระบุตำแหน่ง ที่ใช้ในหลากหลายประเภทกีฬา ทั้ง ว่ายน้ำ และกรีฑา

อีกทั้งได้เสริม เทคโนโลยี ใหม่ ด้วยระบบ สแกน โอ วิชั่น อัลติแมต (Scan ‘O’ Vision Ultimate) เพิ่มความแม่นยำในการเข้าเส้นชัยที่คมชัดที่สุดจับภาพดิจิทัลได้มากถึง 40,000 ภาพต่อวินาที ณ เส้นชัย, เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์วิชั่น (Computer Vision) ในการติดตามนักกีฬา และวัตถุต่างๆ ตลอดการแข่งขัน ที่จะเปิดเผยในทุกแง่มุม อาทิเช่น ในกีฬาวอลเลย์บอลชายหาด, ในกีฬากระโดดน้ำ, ในกีฬาเทนนิส, ในกีฬากระโดดค้ำถ่อ, ในกีฬายิมนาสติก ที่จะสามารถถ่ายทอดทุกมุมมองในระหว่างการแข่งขันของนักกีฬาเพื่อความแม่นยำ และช่วยเหลือกรรรมการในการตัดสินผลแพ้ชนะอย่างบริสุทธิ์ยุติธรรม นอกจากนี้ยังได้เปิดตัว"วิโอนาร์โด้"(Vionardo) เทคโนโลยีกราฟฟิกเจเนอเรชั่แสดงผลในเชิงลึก และข้อมูลที่ละเอียดตั้งแต่การบอกเวลาและการให้คะแนนแบบสด ไปจนถึงผลลัพธ์การแข่งขันและข้อมูลนักกีฬาแสดงผลแบบสดและต่อเนื่อง ในการรับชมทางโทรทัศน์ แสดงกราฟิกความละเอียดสูงในระดับ 4K UHD (ความคมชัดสูงมากที่สุด) มอบกราฟิกที่ชัดเจนสะกดสายตาแบบเรียลไทม์ นำเสนอเนื้อหากราฟิกสำหรับโทรทัศน์ในภาษาต่างๆ ตามความต้องการของผู้ถือลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดแต่ละภูมิภาคด้วยอินเทอร์เฟซผู้ใช้งานแบบอินเตอร์แอคทีฟ เทคโนโลยีนี้จะสามารถใช้งานได้โดยเจ้าหน้าที่ถ่ายทอดสดของโอลิมปิกหรือแม้กระทั่งอาสาสมัคร และยังสามารถให้บริการกราฟิกสำหรับโทรทัศน์จากระยะไกล ช่วยลดการใช้โครงสร้างพื้นฐานในสถานที่จัดการแข่งขันและส่งเสริมมาตรการสร้างความยั่งยืน โดยบางระบบจะถูกติดตั้งที่ศูนย์กระจายสัญญาณนานาชาติ (IBC) สำหรับการผลิตเนื้อหาจากระยะไกลเฉพาะบางรายการ จากที่นั่น กราฟิกจะถูกมอบให้กับหน่วยบริการกระจายเสียงแพร่ภาพโอลิมปิก (OBS) ที่จะส่งต่อให้กับผู้ถือลิขสิทธิ์การถ่ายทอดต่างๆ ทั่วโลก 


"โอเมก้า กับ โอลิมปิก เกมส์"

ตั้งแต่ก้าวแรกเป็นที่ประจักษ์ชัดเจนว่า โอเมก้า มีความโดดเด่นในด้านความเที่ยงตรงเป็นเวลากว่า 92 ปีตั้งแต่ที่การแข่งขันที่ลอสแอนเจลิสเมื่อปี 1932 ทำให้คณะกรรมการโอลิมปิกสากลยังคงให้ความเชื่อมั่นเทคโนโลยีของ โอเมก้า ในการแข่งขัน ซึ่งเราเองก็ไม่เคยหยุดยั้งในเรื่องพัฒนาการ ไม่ว่าจะเป็นปี 1948 กับกล้องโฟโต้ฟินิชและโฟโต้อิเล็กทริกเซลล์รุ่นแรก รวมถึงอุปกรณ์รุ่นใหม่ในปี 1956 กับ 1968 กีฬาทางน้ำก็ถูกปฏิวัติด้วยนาฬิกาจับเวลาแบบกึ่งอัตโนมัติ ก่อนพัฒนาสู่เทคโนโลยี ทัชแพด (Touch Pad) ในปัจจุบัน รวมถึงบล็อคออกตัว และระบบตรวจจับการออกตัวที่ผิดกติกาในกรีฑา ซึ่งถูกพัฒนาและปรับปรุงตั้งแต่ปี 1984 เป็นต้นมา

ปัจจุบัน โอเมก้า ดินทางผ่านยุคของนาฬิกาจับเวลาไปสู่นาฬิกาจับเวลาควอนตัมพลังควอตซ์ที่เปิดตัวครั้งแรกเมื่อปี 2012 ซึ่งสามารถบอกเวลาได้ละเอียดถึงระดับหนึ่งในล้านของวินาที ตั้งแต่ปี 2018 ทาง OMEGA ก็ยังกลายเป็นผู้นำในด้านเซ็นเซอร์ตรวจจับการเคลื่อนไหวและระบบระบุตำแหน่งซึ่งสามารถบอกสมรรถนะของนักกีฬาทุกรายตั้งแต่การออกตัวไปจนถึงเส้นชัย แสดงให้เห็นว่าการแข่งขันแต่ละครั้งแพ้หรือชนะอย่างไร ซึ่งนี่คือเรื่องราวของการพัฒนาสุดยอดเทคโนโลยีซึ่งเคียงข้างไปกับช่วงเวลาสำคัญทางประวัติศาสตร์การกีฬา มันเป็นมากกว่าหน้าที่ สำหรับ OMEGA มหกรรมกีฬาโอลิมปิกได้กลายเป็นความหลงใหลที่แสดงถึงพันธกิจของบริษัทในด้านความเที่ยงตรง คุณภาพ และความสำเร็จ ทั้งนี้คอลเลคชั่น โอลิมปิก 2024 โอเมก้า ยังได้เผยโฉม นาฬิกาออกมา 2 รุ่นพิเศษสำหรับการแข่งขันครั้งนี้ กับ Seamaster Diver 300M “Paris 2024” Special Edition อีกด้วย

โอเมก้านาฬิกาแบร์นดังที่ทั่วโลกยอมรับ ฉลองครั้งที่ 31 ในการเป็นผู้บอกเวลาอย่างเป็นทางการ