“Hit Man นักฆ่าน่าหลอก” คือผลงานการกำกับเรื่องล่าสุดของ ‘ริชาร์ด ลิงก์เลเตอร์’ จาก Before Sunrise (1995), Before Sunset (2004) และ Before Midnight” (2013) ผนึกกำลัง ‘เกลน พาวเวลล์’ นักแสดงดาวรุ่งน่าจับตาแห่งวงการฮอลลีวู้ดจาก Top Gun: Maverick (2022) ร่วมด้วย ‘เอเดรีย อาร์โจนา’ จาก Pacific Rim: Uprising (2018)

Hit Man ว่าด้วยเรื่องราวของ ‘แกรี จอห์นสัน’ ชายโสดผู้รักสันโดษ มีอาชีพหลักเป็นศาสตราจารย์สาขาปรัชญาสอนวิชาจิตวิทยา ส่วนอาชีพรองเป็นสายลับให้กับทางเอฟบีไอ ปลอมตัวเป็นนักฆ่าน่าหลอกเพื่อล่อซื้อผู้ร้ายตัวจริงให้เจ้าหน้าที่จัดการ ผู้ที่ในอนาคตอาจกลายเป็นผู้จ้างวานฆ่าในคดีฆาตกรรม ก่อนที่ในเวลาต่อมาเขาจะตกหลุมรัก ‘เมดิสัน มาสเตอร์ส’ เป้าหมายรายใหม่เข้าอย่างจัง ก่อให้เกิดเป็นความสัมพันธ์ที่อิรุงตุงนัง บานปลาย และวายป่วงเกินการควบคุม

สำหรับ Hit Man นี่คือผลงานที่ชวนให้เรารู้สึกเหมือนกำลังเข้าเรียนคลาสจิตวิทยาและอาชญากรรมเบื้องต้น ด้วยความที่ตัวละครเอกเป็นศาสตราจารย์สอนวิชาจิตวิทยา ระหว่างที่เขากำลังศึกษาข้อมูลผู้ร้ายและปลอมแปลงตัวเองอยู่นั้น ก็มีการอธิบายถึงข้อเท็จจริงและทฤษฎีต่าง ๆ แบบพอสังเขป เกี่ยวกับเรื่องการดำรงอยู่ของตัวตน การเปลี่ยนบุคลิกภาพ การวิเคราะห์แรงจูงใจของฆาตกรและรูปแบบการฆาตกรรม เรื่องของกฎหมายการลงโทษ เป็นต้น แม้จะเป็นการหย่อนข้อมูลเข้ามาทีละเล็กละน้อยขับเคลื่อนไปพร้อมกับเรื่องราว แต่ฟังแล้วไม่รู้สึกว่าน่าเบื่อเลย ผสมกับมุกตลกสุดโบ๊ะบ๊ะ จังหวะดี ทั้งขำแห้ง ฮากร๊าก ปะปนกันไป กลายเป็นส่วนผสมที่ลงตัว ดูแล้วบันเทิงมาก

ขณะเดียวกันเคมีการแสดงระหว่าง ‘เกลน พาวเวลล์’ และ ‘เอเดรีย อาร์โจนา’ ก็ดูลื่นไหลเข้ากันเป็นที่สุด สัมผัสได้ถึงความคอมเมดี้ที่ชวนยิ้ม ความโรแมนติกที่ดูน่ารักและสุดแสนจะเร้าร้อน มีเซ็กส์ซีนที่ไม่ได้ถึงขั้นหวือหวาแต่ว่าทำถึงมาก ยกระดับความแซ่บได้เป็นอย่างดี

นอกจากนี้ ‘เกลน พาวเวลล์’ ยังมีโอกาสได้ฉายแสงการแสดงของเขาพอสมควร มีเสน่ห์มาก ๆ เรียกได้ว่ามีของเท่าไหร่พี่แกปรับใช้ได้อย่างแพรวพราว เริ่มต้นที่ ‘แกรีหนุ่มสุดเฉิ่ม’ ชายหนุ่มที่ใคร ๆ ก็ไม่อยากสนทนาด้วยเพราะเนิร์ดเกินไป ก่อนแปลงร่างเป็นหลากนักฆ่าขาโหด รับบทโฉดจนคนร้ายต้องยำเกรง ตบท้ายด้วยการเป็น ‘รอนนักฆ่าหน้าหล่อ’ จนเจ้าหน้าที่ทั้งสน.อยากสนิทผูกมิตรด้วยทันที

เมื่อมองจากภาพรวม Hit Man ถือเป็นผลงานที่เล่าเรื่องออกมาได้อย่างกลมกล่อม มีพล็อตเรื่องชวนติดตาม เรียบเรียงออกมาอาจได้ไม่หวือหวา แต่แพรวพราวด้วยลูกเล่น เป็นส่วนผสมระหว่าง ‘โรแมนติก-คอมเมดี้-ทริลเลอร์’ ที่ลงตัว ทั้งตลก หวานฉ่ำ เผ็ดร้อน และชวนลุ้น แม้ดราม่าอาจไม่ได้เน้นหนัก แต่ความจิตวิทยาและอาชญากรรมก็พาเราคนดูไปแตะถึงความเป็นมนุษย์ในระดับที่น่ากลัวและน่าสนใจไปในเวลาเดียวกัน งานนี้บันเทิงแน่นอนครับ