คุยกับผู้กำกับ “จินอ่อง” และ “แจ็ค ตัน” จากภาพยนตร์สุดประทับใจ “Abang Adik ล่าฝันเมืองเดือด”
“Abang Adik ล่าฝันเมืองเดือด” ว่าด้วยเรื่องราวของ อาบัง (อู๋คังเหริน) กับ อาดิ (แจ็ค ตัน) เป็นเด็กกำพร้าที่ไม่มีบัตรประชาชนมาเลเซีย แม้ไม่รู้จักผู้ให้กำเนิด แต่ชายหนุ่มทั้งสองคนก็ทึกทักเอาว่าพวกเขาเป็นพี่น้องกัน อาบังเป็นคนหูหนวกและทนทำงานหนักเก็บเงินเพื่อถีบตัวเองและน้องชายให้พ้นจากความยากจน ในขณะที่อาดิไม่อยากเลือกหนทางลำบากแบบพี่ชาย ความฝันของเขาใหญ่กว่า และไฟในใจของเด็กหนุ่มก็รุ่มร้อนกว่า จนนำเขาไปในโลกอาชญากรรม ในขณะที่ทางการมาเลเซียเริ่มกวดขันเรื่องคนไร้สัญชาติ พร้อมกับปัญหาจากผู้มีอิทธิพลที่อาดิเข้าไปพัวพัน ความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นของสองพี่น้อง อาบัง-อาดิ กำลังจะได้รับการทดสอบ
Abang Adik เข้าชิง 7 รางวัลม้าทองคำจากไต้หวันปีล่าสุด และคว้ารางวัล นักแสดงนำชายยอดเยี่ยม (อู๋คังเหริน) มาครองได้สำเร็จ นอกจากนี้หนังยังทำเงินถล่มทลาย ในไต้หวันผ่านหลัก 100 ล้านเหรียญไต้หวันท่ามกลางเสียงชื่นชมจากนักวิจารณ์
บทสัมภาษณ์ผู้กำกับ จิน อ่อง จาก Abang Adik
อะไรทำให้คุณตัดสินใจมาเป็นผู้กำกับหนัง ทั้งที่คุณอยู่ในวงการมานานมาก
จิน อ่อง : ผมอยู่ในวงการเพลงมาโดยตลอด ผมทำงานโปรโมทให้กับโซนีมิวสิก เป็นครีเอทีฟคลื่นวิทยุ และผมก็เปิดบริษัทของตัวเองด้วย (More Entertainment) บริษัทผมเริ่มทำหนัง และผมก็มาทดลองเป็นโปรดิวเซอร์ ผมโปรดิวซ์หนังไป 2 เรื่อง จนพอมาช่วงโควิด ทำให้ผมคิดว่า ผมอยากลองกำกับหนังดูเองบ้าง
แล้วคุณก็เลือกทำหนังดราม่า
จิน อ่อง : ผมสนใจประเด็นทางสังคมมาตลอด แม้ว่าผมจะอยู่ในวงการบันเทิง ผมอยากเล่าสิ่งที่เกิดขึ้นในสังคม ผมคิดว่าหนังควรเล่าสิ่งที่อยู่ในชีวิตประจำวันของเรา แต่เราไม่เคยหันไปมองมันอย่างจริงๆ จังๆ หนัง 2 เรื่องก่อนที่ผมโปรดิวซ์คือ Shuttle Life เล่าถึงปัญหาความยากจนในมาเลเซีย และ Miss Andy พูดถึงกลุ่มคนข้ามเพศ
ทำไมคุณถึงเขียนเรื่อง Abang Adik
จิน อ่อง : เดิมทีผมต้องการพูดเรื่องคนไร้สัญชาติ และสิ่งที่รัฐทำกับคนเหล่านี้ ผมเขียนให้ตัว อาดิก เป็นตัวหลักของเรื่อง และทีแรกอาบังไม่ได้หูหนวกเป็นใบ้นะ ผมมาเปลี่ยนบทในร่างต่อ ๆ มา คำว่า Abang ภาษามาเลย์แปลว่าพี่ชาย ส่วน Adik แปลว่าน้องชาย เมื่อเอาสองคำนี้มารวมกัน จะแปลว่า พี่น้อง
หนังมีกลิ่นของ LGBTQ อยู่พอสมควร คุณต้องระวังเรื่องเซ็นเซอร์มากแค่ไหน
จิน อ่อง : ระวังมาก ผมตัดหลายฉากออกไปด้วย เพราะไม่อยากให้มันดูคลุมเครือเกินไป ฉากที่พี่น้องนอนกอดกัน ผมก็ตัดออก เพราะมันอาจสื่อถึงเรื่องเพศได้ ทั้งๆ ที่ตามเนื้อเรื่องแล้วพวกเขาโตมาด้วยกัน นอนกอดกันมาตั้งแต่เด็ก เซ็นเซอร์ที่มาเลเซียค่อนข้างเข้มงวด ฉากที่เห็นตำรวจติดสินบนก็ต้องโดนตัดออก ผมต้องต่อรองกับเซ็นเซอร์จนเหนื่อย
คุณมองนักแสดงไว้ตั้งแต่เขียนบทเลยหรือเปล่า
จิน อ่อง : ใช่แล้ว ผมเห็นภาพแจ็ค ตัน (เฉินเสอเย่า) มาเล่นเป็น อาดิก แต่บทอาบัง ผมยังไม่ได้มองใครทั้งนั้น ตอนผมเอาบทไปคุยกับผู้ร่วมทุน มีบางคนเสนอว่าให้ลองทาบทาม อู๋คังเหริน มาเล่น เพราะเขาเป็นคนที่เล่นดราม่าได้ดี พอผมมารู้ตัวอีกที พวกเขาก็ติดต่ออู๋คังเหรินไปแล้ว และอู๋คังเหรินได้อ่านบทแล้วก็อยากเล่นด้วย
การกำกับหนังครั้งแรกยากแค่ไหน
จิน อ่อง : ตอนออกกองถ่ายช่วงแรก ๆ ผมลืมสั่งคัตทุกที ผู้ช่วยผู้กำกับต้องเตือนว่าคุณต้องสั่งคัตด้วยสิ
ฉากเอาไข่ต้มเคาะหัวคุณไปเอามาจากไหน
จิน อ่อง : มาจากประสบการณ์ตรง สมัยเรียนชั้นประถม ผมก็ทำแบบนั้นกับเพื่อนๆ บ่อย ๆ
บทสัมภาษณ์ แจ็ค ตัน (เฉินเสอเย่า) จาก Abang Adik
คุณอยู่ในวงการมานานมากแล้ว นี่เป็นบทที่ท้าทายที่สุดของคุณเลยหรือเปล่า
แจ็ค ตัน : ผมอยู่ในวงการมา 14 ปี ทั้งผมและพี่คังเหริน เราเข้าวงการมาไล่เลี่ยกันนะ ผมทุ่มเทกับทุกเรื่องที่เล่น แต่เรื่องนี้เรียกร้องความทุ่มเทสูงมาก ผมรู้ว่าในมาเลเซียมีคนไร้สัญชาติอยู่มากมาย ที่นี่เป็นบ้านเกิดของผม ผมเห็นพวกเขาจนชินตา แต่น่าเศร้าที่ผมไม่เคยรับรู้เรื่องราวในชีวิตของพวกเขาเลย
คุณเคยไปเป็นนักแสดงที่ไต้หวันมาก่อน
แจ็ค ตัน : ช่วงเข้าวงการใหม่ๆ เป็นช่วงที่ผมเกือบถอดใจหลายรอบมาก วงการนี้ทุกคนเป็นมืออาชีพ ตอนผมไปเล่นหนังที่ไต้หวัน ผมโดนผู้กำกับด่าเพียงเพราะว่าสำเนียงของผมดูไม่เหมือนคนไต้หวัน ผมต้องปรับสำเนียงอยู่นานมาก และเครียดมากด้วย กว่าจะได้อย่างที่เขาต้องการ มันไม่ใช่งานง่ายเลย
คุณเตรียมตัวกับบท อาดิก ใน Abang Adik อย่างไรบ้าง
แจ็ค ตัน : ผมรู้ว่าจินอ่องอยากให้ผมมาเล่น ผมจึงต้องพยายามทำให้ดีที่สุด และผมโชคดีมากๆ ที่ได้มาเจอกับพี่คังเหริน เพราะเขาเป็นคนที่ทุ่มเทให้กับการแสดงมากที่สุดคนหนึ่งเลย เขาบินมาอยู่มาเลเซียก่อนเปิดกล้องถึง 3 เดือน และผมกับเขาก็ต้องอยู่ด้วยกันเพื่อทำความคุ้นเคยกัน เราต้องไปเดินตลาดสดด้วยกันเกือบทุกวันเลยนะ ไปพูดคุยกับพ่อค้าแม่ค้า คุยกับคนไร้สัญชาติ มันทำให้ผมเห็นมุมมองใหม่ๆ เห็นอุปสรรคในชีวิตของพวกเขา และผมตั้งใจว่าจะช่วยเหลือพวกเขาเท่าที่ตัวผมจะทำได้
คุณต้องเรียนภาษามือด้วยใช่ไหม
แจ็ค ตัน : ใช่ ผมน่าจะเรียนจนใช้คล่องแล้วล่ะ จำได้ว่ามีฉากท้ายๆ ที่ตามบทแล้วผมต้องพูดกับอาบังยาวมากๆ แต่จู่ๆ ผมก็เลือกที่จะใช้ภาษามือแทน ผู้กำกับไม่สั่งคัต ทุกคนปล่อยให้ผมเล่นไปเลย และมันก็ออกมาน่าพอใจมากๆ
ด้วยความที่เป็นหนังดราม่าหนักๆ คุณกับอู๋คังเหรินนัดแนะกันอย่างไรบ้างให้เล่นได้เข้าขากัน
แจ็ค ตัน : โชคดีที่เราสนิทกันไวมาก ส่วนคำแนะนำที่เขาบอกผมก็คือ นายอย่าเล่นเยอะจนเกินไปนะ เพราะถ้าผู้กำกับสั่งให้เราเล่นหลายเทค จะหมดแรงไปเสียก่อน (หัวเราะ)
“Abang Adik ล่าฝันเมืองเดือด” วันนี้ที่โรงภาพยนตร์ HOUSE SAMYAN