เกมของเธอ กฏของเธอ “Challengers ชาเลนเจอร์ส” ผลงานเรื่องล่าสุดจาก ลูกา กัวดาดีโน วันนี้ในโรงภาพยนตร์

เกมของเธอ กฏของเธอ “Challengers ชาเลนเจอร์ส” ผลงานเรื่องล่าสุดจาก ลูกา กัวดาดีโน วันนี้ในโรงภาพยนตร์

ผลงานจากผู้สร้างภาพยนตร์ช่างจินตนาการ ลูก้า กวาดาญีโน่ เรื่อง “Challengers ชาเลนเจอร์ส” นำแสดงโดย เซนเดย์อา ในบท ทาชิ ดันแคน อดีตนักเทนนิสผู้มีพรสวรรค์พิเศษที่ผันตัวมาเป็นโค้ช และไม่เคยทำให้ต้องผดหวังในเกมการเล่นของเธอทั้งในและนอกสนาม เธอแต่งงานกับแชมป์ในเกมที่พ่ายแพ้ อาร์ท โดนัลด์สัน (ไมค์ ไฟสต์ - West Side Story) แผนการของทาชิในการกู้ชื่อเสียงให้สามีของเธอสร้างความเซอร์ไพรส์ เมื่อเขาต้องพบกับ แพทริค ซวิก (จอช โอ’คอนนอร์ - TheCrown) อดีตเพื่อนซี้ของเขาและคนรักเก่าของทาชิ เมื่ออดีตและปัจจุบันของพวกเขาเกิดความขัดแย้งกัน ความเครียดต่างๆ เพิ่มขึ้นทวีคูณ ทาชิต้องถามตัวเองว่าเธอต้องแลกกับอะไรเพื่อชัยชนะบ้าง?

ความน่าสนใจของตัวละครทั้งในและนอกสนาม

ตัวละครมีแรงดึงดูดและดูมีพลังเฉพาะตัวสูงมาก เวลาที่เราเห็นใครสักคนมุ่งมั่นในสิ่งที่พวกเขาหลงใหล ศิลปะหรือเป้าหมายของพวกเขา มันดูมีพลังกระตุ้นเกิดขึ้นเสมอ และทำให้เรารู้สึกว่าความรัก ความปรารถนา ความจริงจังของพวกเขาที่มีคือความได้เปรียบ แม้ว่าเราจะไม่แน่ใจว่าใครได้เปรียบหรือเสียเปรียบจากสิ่งนั้นก็ตาม การได้เห็นการสาดพลังใส่กันอาจดูเป็นเรื่องที่น่าทึ่ง และการได้เห็นเธอบริหารพลังของตัวเองออกมาก็ดูน่าดึงดูดใจ

ภาพยนตร์กำกับฯ โดยผู้สร้างภาพยนตร์ที่เคยชิงรางวัล Academy Award®️ และ BAFTA มาแล้ว ลูก้า กวาดาญีโน่ (Call Me By Your Name, I Am Love, Suspiria, A Bigger Splash, Bones and All) ภาพยนตร์เรื่อง Challengers เป็นผลงานที่สร้างความตื่นเต้นและทันสมัย พร้อมด้วยภาพที่ดูมีสไตล์อ่อนโยนจากช่างภาพ สยมภู มุกดีพร้อม (Call Me By Your Name, Suspiria) และเพลงประกอบภาพยนตร์ที่สร้างความตราตรึงจากเจ้าของรางวัล Oscar®️ ถึง 2 รางวัล เทรนต์ เรซนอร์ และ แอตติคัส รอส (The Social Network, Pixar’s Soul) เสื้อผ้าที่มีความสร้างสรรค์จากดีไซน์เนอร์ที่ได้รับการชื่นชมจากต่างประเทศ โจนาธาน แอนเดอร์สัน

ทาชิ ดันแคน (รับบทโดย เซนเดย์อา หนึ่งในนักแสดงที่สร้างความตื่นเต้นและเคยแสดงเรื่อง Dune Parts One and Two, Spider-Man ไตรภาค และเจ้าของรางวัล Emmy®️ ถึง 2 รางวัลจากเรื่อง Euphoria) เต็มไปด้วยพรสวรรค์และความมุ่งมั่น นักเทนนิสสาวดาวรุ่งที่มีความดุดันในเกมการเล่น สอดค้ลองกับความแข็งแรงทางร่างกาย ความมั่นใจ และพลังที่เธอมี เมื่อนักเทนนสรุ่นเดียวกับเธออย่าง แพทริค ซวิก (จอช โอ’คอนนอร์ - The Crown) และ อาร์ท โดนัลด์สัน (ไมค์ เฟสต์ - West Side Story) เห็นทาชิเล่นในสนามช่วงแรกที่เข้าวงการ สองเพื่อนซี้ได้เข้ามาหา โดยที่แพทริคและอาร์ทรู้จักกันตั้งแต่สมัยที่ทั้งคู่เป็นเพื่อนร่วมชั้นเรียน ก่อนช่วงวัยรุ่นที่โรงเรียนสอนเทนนิสและมีการแข่งขัน ทาชิมีไหวพริบกว่าอาร์ทและแพทริคในช่วงที่ทั้ง 3 คนต่างมีอายุเพียง 18 ปี เธอมองเห็นทุกสิ่ง... แม้แต่สิ่งที่อาร์ทและแพทริคมองไม่เห็น หรือไม่ต้องการจะเห็นมันก็ตาม

เมื่อเริ่มเส้นทางที่พา ทาชิ อาร์ท และ แพทริคมา ถึงจุดที่ไม่เคยมีใครคาดคิดมาก่อน ในเรื่อง Challengers จะสะท้อนเรื่องราวที่เกิดขึ้นย้อนกลับไปมาบนเส้นทางชีวิตของตัวละคร จากเหตุการณ์ “คู่แข่ง” เกมเทนนิสระหว่างอาร์ทและแพทริคที่เกิดขึ้น 13 ปีหลังจากที่ทั้งคู่ได้พบกับทาชิ หลังจากอาการบาดเจ็บได้เปลี่ยนเส้นทางชีวิตของเธอ หลังจากอาร์ทและทาชิแต่งงานมีลูกสาวด้วยกัน หลังจากแพทริคทำให้ทาชิและอาร์ทต้องทบทวนเรื่องราวทุกอย่าง ในเรื่องจะเล่ากลับไปมาระหว่างช่วงแรกก่อนเกิดเรื่องราวทุกอย่างและปี 2019 เราจะได้เห็นเส้นทางชีวิตของพวกเขา เกมส์การเล่นของพวกเขา และความฝันที่พวกเขาเลือกเดินตาม แต่เพราะพลัง อารมณ์ความรู้สึก และความรักของทาชิที่เป็นทั้งหัวใจสำคัญและตัวหยุดยั้งความสัมพันธ์ทุกอย่างที่พวกเขามีร่วมกัน

ภาพยนตร์เรื่อง Challengers มีสไตล์ที่ซับซ้อน และมีการเชื่อมโยงกันระหว่างตัวละครอย่างชัดเจนและน่าสนใจ เมื่อเราได้พบพวกเขาคือช่วงที่แพทริคและอาร์ทต้องเลือกระหว่างความเป็นเพื่อนกับเส้นทางอาชีพ พวกเขาเป็นเพื่อนกันตอนเรียนที่โรงเรียนสอนเทนนิสตั้งแต่อายุ 12 ปี เป็นทั้งเพื่อนซี้และคู่แข่งที่สนิทกัน ทั้งคู่เป็นที่รู้จักในวงการเทนนิสว่าเหมือน “ไฟกับน้ำแข็ง” เมื่อพวกเขาได้พบกับทาชิ เธอกำลังเป็นดาวรุ่งและมีแรงดึงดูดในตัวสูง เมื่อทาชิเข้ามาในชีวิตของพวกเขาทำให้เกิดความแตกหักระหว่างแพทริคกับอาร์ท เธอทำให้พวกเขารู้ว่าความรักคือตัวขัดขวางมิตรภาพระหว่างพวกเขา ทาชิและแพทริคกลายเป็นคู่รักกัน แต่หลังจากนั้นเธอกับอาร์ทออกเดทและแต่งงานกัน หนุ่มๆ ขาดการติดต่อกันแม้จะอยู่ในอีเวนท์เดียวกันและโลกของกีฬาเหมือนกัน จากนั้นจะเป็นช่วงเกมกีฬาในภาพยนตร์ของช่วงเวลาปัจจุบันที่แพทริคและอาร์ทไม่มองหน้ากัน โดยมีทาชิคอยจับตาดูอยู่ ทุกสิ่งที่เราเห็นจากใบหน้าของพวกเขาสะท้อนถึงทุกความรู้สึกอย่างชัดเจน

“ความนับถือในตัวผู้อำนวยการสร้างฯ เอมี่ ปาสคาล คือเหตุผลหนึ่งที่สำคัญมาก! เหตุผลรองลงมาคือบทที่สนุกของ จัสติน คูริตซคีส ที่มีจังหวะดี มันมีทั้งมุกตลกและความเย็นชา มีเรื่องราวที่ล้ำค่า มนุษย์ผู้มีความซับซ้อนและไม่เคยรู้จักพอ แต่กลับถนัดเรื่องทำให้ตัวเองวุ่นวายมากขึ้น” ลูก้า กวาดาญีโน่ กล่าว

“ความซับซ้อนวุ่นวายในสายสัมพันธ์ทำให้ผมหลงใหล” กวาดาญีโน่ เล่าต่อ “ความสัมพันธ์มาพร้อมการควบคุมอีกฝ่าย แต่สุดท้ายพวกเขาก็ควบคุมความรู้สึกในตัวเองด้วยเช่นกัน รายละเอียดเหล่านั้นมีความสำคัญต่อผมมาก ผมไม่รู้เรื่องเทนนิสเลยสักนิด แต่หน้าที่ของผมในฐานะผู้สร้างภาพยนตร์คือการศึกษาและค้นคว้าข้อมูลเรื่องที่ไม่รู้มาก่อน ผมมีโอกาสได้ทำความเข้าใจเรื่องพลังแห่งแรงปรารถนา และพลังในการควบคุมรวมถึงการควบคุมตัวเอง ซึ่งล้วนเป็นสิ่งสะท้อนถึงความงดงามและพลังของเกมการเล่นเทนนิส”

“ครั้งแรกที่เราคุยกับลูก้าเรื่องการกำกับหนัง ลูก้าพูดว่า ‘ผมไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับเทนนิสสักเทาไหร่ แต่ผมรู้เรื่องแรงปรารถนาเยอะเลยล่ะ’” ราเชล โอ’คอนนอร์ ผู้สร้างฯ กล่าว (Little Women, The Post, Spider-Man ไตรภาค) “ลูก้าอยากให้โลกของภาพยนตร์และอารมณ์ต่างๆ ดูสมจริงและมีความน่าสนใจ”

เซนเดย์อา ผู้อำนวยการสร้างฯ ในเรื่องอีกคนหนึ่งกล่าวว่า “ลูก้ามีมุมมองต่อตัวละครแต่ละตัวในเรื่อง Challengers ที่น่าสนใจผ่านความอ่อนโยนและมองพวกเขาในฐานะมนุษย์ เขาชำนาญด้านการดึงรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ และความเป็นมนุษย์ของตัวละครที่มีความเปราะบางและเราเข้าถึงได้ออกมา”

“จากการคุยกันในช่วงแรกระหว่างฉันกับเอมี่และลูก้า เห็นได้ชัดเลยว่าเรามีภาพต่อหนังเรื่องนี้เหมือนกัน มันควรมีความสนุกสนานและความคึกคะนองในเรื่อง รวมถึงเหตุการณ์ต่างๆ ในชีวิตที่มีรายละเอียดยิบย่อยและตัวละครต่างๆ มีความเจ็บปวดในใจ” เซนเดย์อา กล่าว

“ฉันนึกภาพผู้สร้างภาพยนตร์คนอื่นทำหนังเรื่องนี้ไม่ออกเลย” ผู้อำนวยการสร้างที่เคยชิงรางวัล Oscar®️ เอมี่ ปาสคาล (LittleWomen,ThePost, Spider-Manไตรภาค) กล่าว “นี่เป็นเรื่องราวของการยอมอ่อนข้อกันของผู้คนที่มีความซับซ้อน และด้วยเส้นทางที่วกวนนั่นคือสิ่งเดียวที่เราจะทำได้ มันเป็นเรื่องราวของความอยากจะเป็นคนเก่ง เป็นเรื่องของมิตรภาพระหว่างผู้ชาย 2 คน และความซับซ้อนเมื่อทั้งคู่รักผู้หญิงคนหนึ่ง โดยที่ทั้งคู่เองต่างก็รักกันด้วย”

“นี่เป็นเรื่องราวของเด็ก 3 คนที่ผ่านช่วงชีวิตที่วุ่นวายตอนเด็กมาด้วยกัน จากนั้นโตเป็นผู้ใหญ่และพยายามหาคนที่อยู่ในอดีตของพวกเขา มันเต็มไปด้วยความวุ่นวายเพราะชีวิตก็เป็นแบบนั้น” กวาดาญีโน่ กล่าว

จัสติน คูริตซ์คีส ผู้เขียนบทภาพยนตร์กล่าวว่า “ไม่มีผู้สร้างภาพยนตร์คนไหนเหมือนลูก้า เขามีวิชวลสไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์ แต่มีความน่าสนใจมาก เขาเข้าใจดีว่าอะไรตรงใจผู้ชม”

‘Challengers ’ คนรักและเพื่อน

เรื่องราวของ Challengers มีความเป็นเอกลักษณ์ตั้งแต่แรกสำหรับ คูริตซ์คีส เขาเขียนบทภาพยนตร์ขึ้นมาเป็นครั้งแรกหลังจากพัฒนาตัวเองเป็นผู้เขียนบท คูริตซ์คีส ศึกษาเรื่องราวชีวิตคุณปู่ของเขา ผู้เป็นประธานสำนักแห่ง Queens เมืองนิวยอร์ค (ที่จัด U.S. Openจากบรรดาพื้นที่จัดงานเทนนิสอื่น) ปี 1980 เขาได้เจาะลึกถึงประวัติศาสตร์ของ Arthur Ashe Stadium ที่จัดงานเปิดตัวเมื่อปี 1997 คูริตซ์คีสได้ดูการแข่งขันระหว่าง เซเรน่า วิลลเยมส์ กับ นาโอมิ โอซาก้า เมื่อปี 2019 ด้วย

“ผมไม่ใช่แฟนเทนนิสสักเท่าไหร่ แต่ครอบครัวของผมเป็นแฟนเทนนิสอย่างเต็มตัว” คูริตซ์คีส กล่าว “เราได้ดู เซเรน่า วิลเลียมส์ กับ นาโอมิ โอซาก้า ในรอบไฟนอลด้วยกัน มีการร้องเรียนกันเรืองวิลเลียมส์ได้รับคำแนะนำจากข้างสนาม ผมไม่เคยได้ยินเรื่องนั้นมาก่อน แต่มันตรงใจผมในมุมบรรยากาศที่ตึงเครียดในหนัง”

“ไอเดียนั้นเริ่มพุ่งเข้ามาในหัวผม” ผู้เขียนบทเล่าต่อ “ตอนนั้นสิ่งที่เกิดขึ้นพร้อมกันคือผมกลายเป็นแฟนเทนนิสและเริ่มดูอีเวนท์ที่เรียกว่า ‘เกมท้าชิง’ ซึ่งเป็นเกมที่ลดหลั่นลงมาจากเทนนิสทัวร์นาเมนท์ระดับมืออาชีพ ผมคิดว่ามันเป็นสถานที่น่าสนใจสำหรับผู้ชาย 2 คนที่ไม่ได้เจอกันมานานแล้วได้กลับมาพบกันอีก”

ผู้เล่นที่คาดไม่ถึงในเกมนี้คือ ทาชิ ดันแคน นักเทนนิสสาวชื่อดังผู้เป็นชนวนสำคัญในรักสามเศร้านี้ จนทำลายมิตรภาพระหว่าง แพทริค ซวิก และ อาร์ท โดนัลด์สัน (ผู้เล่นที่ได้กลับมาพบกันอีกครั้งอีเวนท์ท้าชิง) นอกจากความน่าหลงใหลที่ท้าทายทั้งอาร์ทและแพทริคแล้ว ทาชิยังถ่ายทอดอารมณ์และเสน่ห์ของทั้งคู่ออกมาได้อย่างที่พวกเขาไม่เคยรู้ตัวมาก่อน ทาชิเป็นหญิงแกร่ง เชื่อมั่นในตัวเอง เป็นคนตรงไปตรงมาและเหมือนวัยรุ่นทั่วไป ตลอดทั้งเรื่องเราจะเห็นเธอเอาชนะคนอื่นได้ บางครั้งเธอดูเกเรแต่นั่นเป็นเพราะเธอต้องการสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับตัวเอง โดยเฉพาะเมื่อเป็นเรื่องของเทนนิส

เซนเดย์อา เล่าว่า “เทนนิสในเรื่องนี้จะเทียบกับพลัง และพลังที่ส่งผลต่อคนที่ต้องพึ่งพากัน ซึ่งบางครั้งมันอาจจะมากเกินไปหน่อย”

“รักแรกของทาชิคือเทนนิส นั่นคือสิ่งที่มอบความเข้มแข็งและพลังให้เธอจนทำให้เธอกลายเป็นคนแบบนี้” เซนเดย์อา กล่าวต่อ “ฉันเข้าใจพลังนั้นได้ เพราะฉันค้นพบตัวเองจากการทำงานของฉันเหมือนกันค่ะ ช่วงเวลาที่เธอพบกับความเจ็บปวด ทาชิไม่สามารถทำสิ่งที่เธอรู้สึกว่าเป็นตัวเองได้อีกต่อไป เธอต้องหาทางอื่นเพื่อสร้างตัวเองขึ้นมาใหม่ เธอมีความถนัดเรื่องการควบคุมทุกสิง และสามารถควบคุมอารมณ์เพื่อให้ได้สิ่งที่เธอต้องการในชีวิตได้ แต่ฉันไม่แน่ใจว่าเธอรู้ไหมมันจะนำไปสู่อะไร ฉันคิดว่าผู้หญิงหลายคนจะเห็นตัวเองจากตัวละครทาชิ”

จอช โอ’คอนนอร์ กล่าวว่า “แพทริคและอาร์ทต่างมีพรสวรรค์สูง เป็นคู่แข่งที่สมน้ำสมเนื้อกัน แพทริคเป็นนักเทนนิสที่ดูมีความเกเรกว่า ส่วนอาร์ทเป็นผู้เล่นที่ดูใสสะอาดและมีมารยาท และทาชิคือผู้ที่อยู่เหนือกว่าทุกคน”

การแสดงของ เซนเดย์อา ในเรื่อง Challengers เป็นการเปลี่ยนแปลงจากบทเดิมๆ และการเป็นเจ้าของรางวัล Emmy®️ และ Golden Globe®️ ในแง่ความงดงามครั้งใหม่

กวาดาญีโน่ เล่าว่า “หลายปีก่อนถ่ายทำเรื่องนี้ผมได้พบกับเซนเดย์อาในงานอีเวนท์ ผมได้นั่งข้างเธอและรู้สึกหลงใหลหญิงสาวคนนี้ เธอรู้จักวางตัวท่ามกลางคนมากมาย แต่ยังดูจริงใจและสง่างามมาก”

“คงจะเป็นเรื่องง่ายหากทำให้ทาชิเป็นตัวละครที่มีมิติเดียว เป็นผู้หญิงที่เต็มไปด้วยความมุ่งมั่น” กวาดาญีโน่ เล่าต่อ “แต่เซนเดย์อาทำสิ่งที่ตรงข้ามกัน เธอใส่พลังการควบคุมและการมีอำนาจลงไปด้วย ขณะเดียวกันได้พัฒนาความเปราะบางในความเข้มแข็งที่อยู่ในตัวทาชิด้วย มันคือตัวตนที่แท้จริงของเธอ”

“เซนเดย์อาเป็นนักแสดงที่เก่ง และเป็นผู้สร้างที่น่าทึ่งในเรื่องนี้ด้วย เธอทำทุกอย่างตามที่อยากลองและทำได้ดีมาก” เขากล่าวเสริม

“ทาชิ ดันแคน เป็นผู้หญิงที่มีพลัง มีความมั่นใจ มีความมุ่งมั่น ชอบการแข่งขัน เซนเดย์อาใส่ความเป็นมนุษย์ที่เข้าใจได้ง่ายลงไปให้เห็นด้วย” ราเชล โอ’คอนนอร์ กล่าว “แม้ผู้หญิงจะไม่เดินแบบทาชิในโลกแห่งความจริง แต่เซนเดย์อาจะทำให้คุณเข้าใจว่าทุกอย่างมาจากไหน นี่เป็นครั้งแรกที่เธอรับบททั้งคุณแม่และภรรยา เป็นตัวละครผู้ใหญ่ที่มีหลายมุม และแทบไม่ต้องใช้ความพยายามในการพลิกโฉมเธอในฐานะนักแสดงเลย”

ปาสคาล กล่าวเสริม “เราพบทาชิตอนที่เธอเริ่มเป็นวัยรุ่นและเติบโตเป็นหญิงสาววัย 30 ตอนต้น ในฐานะนักแสดง การสร้างสมดุลในช่วงเวลานั้นได้เป็นเรื่องที่น่าทึ่งมาก การแสดงของเซนเดย์อามีรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ให้เห็น มีความสนุกสนาน ความซับซ้อน ความแข็งแกร่ง และความรักให้เห็น”

แพทริค ซวิก และ อาร์ท โดนัลด์สัน เป็นเพื่อนกันตั้งแต่อายุ 12 ปี พวกเขาตัวตดกันและต้องวนเวียนกันตลอดทั้งเรื่องจนกลายเป็นความซับซ้อน “ผมชอบเวลาที่คนแก่พูดว่า ‘ระวังในสิ่งที่หวังเอาไว้ให้ดี’ - ‘มีใครเคยสนใจบ้าง’ นั่นคือสิ่งที่แพทริคและอาร์ทต่างพบเจอ” กวาดาญีโน่ กล่าว “บนความกระตือรือร้นและเป้าหมายในการเล่นเทนนิสที่ทั้งคู่ต่างต้องการความสำเร็จ และอยากให้ทาชิเลือกตัวเอง ความมุ่งมั่นนั้นกลับทำลายมิตรภาพกลายเป็นการปลดปล่อยอารมณ์ที่โหดร้ายออกมา”

ตัวละคร แพทริค ที่แสดงโดย จอช โอ’คอนนอร์ คือผู้ที่ถ่ายทอดการแสดงที่มีความซับซ้อนเอาไว้ในเรื่อง The Crown มีรายละเอียดหลายอย่างถ่ายทอดออกมาได้ในช่วงเวลาเดียวกัน รวมถึงชีวิตส่วนตัวที่มีความซับซ้อน ความเซ็กซี่ และความมั่นใจของแพทริคด้วย

“แพทริคเป็นคนที่พร้อมแสดงความเป็นตัวของตัวเองออกมา แต่ขณะเดียวกันก็ดูมีความใจดีอยู่ในตัว เพราะเขาไม่เคยเสแสร้ง เขาเป็นคนตรงไปตรงมา มีความสับสนในตัว และพร้อมรับเรื่องวุ่นวายในชีวิตของเขา” กวาดาญีโน่ กล่าว “เขาควบคุมตัวเองไม่ได้ในหลายเรื่อง แต่นั่นคือสิ่งที่ทำให้เขาต่อต้านคนอื่นไม่ได้เช่นกัน ความมีเสน่ห์ การดึงดูดความสนใจให้ผู้คนเวลาอยู่ใกล้ นั่นคือสิ่งที่ทุกคนต้องการไม่ใช่หรือ? ผมรู้สึกว่าตัวละครนั้นมีความอบอุ่นและร้อนแรงมาก”

“ผมร่วมงานกับจอชในการปรับจูนตัวละครที่มีความเป็น ‘ชาวอเมริกันแบบไอวี่ลีก’ ที่ดูเหมือนไม่ต้องการอยู่ในโลกที่มีสิทธิพิเศษ แต่เขาก็ยังได้รับความพิเศษ และนั่นเป็นเรื่องธรรมดามาก มันวิเศษมากที่ได้เห็นจอชถ่ายทอดสู่ตัวละครแพทริคได้” กวาดาญีโน่ กล่าวต่อ

“ลูก้ากับผมคุยกันตั้งแต่แรกว่าจะให้แพทริคเป็นคน ‘แสดงออกอย่างเปิดเผย’” จอช โอ’คอนนอร์ “เขาเป็นตัวละครที่ไม่กังวลเรื่องอะไรเลย ด้วยความพิเศษที่เขามีทำให้เขาสะดวกสบายในทุกสถานการณ์ และเขาเองก็เป็นคนสบายๆ ด้วย ลูก้ากับผมคุยกันว่าแพทริคเป็นคนที่รู้จักตัวเองดีจนดูหยิ่ง นั่นก็เพราะความอุ่นใจที่เขามี แต่แพทริครู้ว่าเขาพ่ายแพ้ในเกมเทนนิสและทำหลายอย่างผิดพลาด มนช่วยทำให้ผมเห็นภาพเขาได้ชัดเจน และหาจุดอ่อนของตัวละครที่ดูมีความมั่นใจเจอ”

ราเชล โอ’คอนนอร์ เล่าว่า “จอชเป็นนักแสดงที่สร้างความตื่นเต้นได้ค่ะ เราเห็นเขาจากเรื่อง The Crown และภาพยนตร์อินดี้ที่เขาแสดงบางเรื่อง เรารู้ว่าเขาแสดงได้ดีขนาดไหน เขาคือตัวเลือกแรกสำหรับทุกคนเลยค่ะ จอชถ่ายทอดความเป็นมนุษย์สู่แพทริคได้จนเราเกลียดตัวละครนี้ไม่ลง เพราะเราเข้าใจเขา แม้เขาจะสร้างปัญหาให้ทุกคนก็ตาม”

ปาสคาล เล่าเสริมว่า “แพทริคในเรื่องนี้ดูมีความมาดมั่น เซ็กซี่ และมั่นใจ แม้ว่าเขาจะทำลายความสุขระหว่างทาชิและอาร์ท แต่เขาก็รักทั้งคู่มาก”

สำหรับตัวละคร อาร์ท ที่แสดงโดย ไมค์ เฟสต์ ได้สร้างความประทับใจได้เหมือนตัวละครริฟฟ์ในเรื่อง West Side Story ที่ตัดสินใจทุกอย่างด้วยความมั่นใจ แต่ก็เป็นคนช่างคิดด้วย อย่างที่เห็นว่าอาร์ทพยายามมองว่าตัวเองต้องการอะไรในเส้นทางอาชีพของเขา

“สิ่งที่ฝังใจเกี่ยวกับตัวละคร อาร์ท โดนัลด์สัน และความเป็นตัวเขา คือบางคนอาจปราศจากความรักเพราะฝีมือของตัวเอง” เฟสต์ กล่าว “เราทุกคนบางครั้งเคยคิดว่าอยากจะเป็นอะไร ‘เมื่อเราโตขึ้น’ ตอนเด็กเรามั่นใจมาก จากนั้นหลายสิ่งก็เปลี่ยนไปเมื่อพบกับโลกแห่งความจริง ในเรื่อง Challengers เราได้เห็นเด็กเหล่านี้รักในสิ่งที่ทำ เราเห็นพวกเขาโตขึ้นและเผชิญหลายเรื่องในชีวิตจนคิดว่า ‘ชีวิตที่เหลืออยู่เราอยากให้มันเป็นแบบไหน?”

“ตอนเริ่มเรื่องอาร์ทเป็นนักเล่นเทนนิสที่ติด 5 อันดับแรกของโลก เขาเป็นผู้ชนะแกรนด์สแลมหลายรายการที่ท้าชิง” เฟสต์ เล่าต่อ “เขาชนะทุกรายการเว้นแต่ US Open เขาอยู่ระหว่างทางไปสู่เป้าหมายนั้น แต่เขาก็ใกล้ช่วงวางมือด้วย จนเกิดคำถามว่ายังมีอะไรรอเขาอยู่ต่อไปอีกบ้าง หรือเขาจะลองไปรายการใหญ่กว่านั้น”

“สิ่งหนึ่งที่เป็นเสน่ห์ในตัวไมค์คือเขามาจากการแสดงละครเวที ท่าทางการเต้น การตีกล้อง การร้องเพลงทั้งบนหน้าจอและบนบรอดเวย์” กวาดาญีโน่ กล่าว  “นั่นเป็นเรื่องสำคัญเพราะอาร์ท โดนัลด์สันเป็นคนที่เคลื่อนไหว แต่ขณะเดียวกันก็ควบคุมตัวเองได้ดีและมีความอดทนสูง สำหรับผมไมค์ถ่ายทอดความแตกต่างออกมาได้อย่างดงาม”

“ในเรื่องอาร์ทเป็นคนที่มีความซับซ้อน” ราเชล โอ’คอนนอร์ กล่าว “เขามองว่าตัวเองเป็นคนดี ส่วนไมค์ เฟสต์เป็นคนดึงหลายด้านของเขาออกมา ไมค์มีความฉลาดและอ่อนแออยู่ในตัว แต่อีกด้านที่เห็นได้ในตัวละครคือการช่างวางแผน ซึ่งเหมาะกับเรื่องราวนี้”

“ทาชิ แพทริค และอาร์ทต่างเป็นคู่แข่งกันโดยสัญชาตญาณ และพวกเขานำไปสู่รักสามเศร้าอันซับซ้อนด้วย” ราเชล โอ’คอนนอร์ กล่าว “มันทำให้เกิดแรงดึงดูดอีกขั้นในมิตรภาพของจอชและไมค์ ฉันคิดว่านั่นทำให้เรื่องราวมี 3 ด้านและน่าสนใจมากขึ้น”

“ไมค์และจอชแสดงฝีมือสุดพลังและทุ่มเทกับผลงานของพวกเขามาก” คูริตซ์คีส กล่าว “พวกเขาเป็นนักแสดงที่มีความจริงจัง ดูคลาสสิคและมีความเป็นศิลปินในแง่การถ่ายทอดตัวละครออกมา”

“ส่วนตัวละครแพทริคผ่านการแสดงของ จอช โอ’คอนนอร์ มีทั้งอารมณ์ขันและความท้อแท้บางอย่าง ผมคิดว่าตัวละครอาร์ทที่ส่งผ่าน ไมค์ เฟสต์ แสดงให้เห็นความเป็นพี่น้อง ความเจ็บปวด และความเปราะบางได้” กวาดาญีโน่ กล่าว “ทั้งคู่ถูกควบคุมโดยทาชิผู้หญิงที่มีพลัง เธอเชื่อมโยงถึงพวกเขาได้ และทั้ง 3 ได้ก้าวข้ามผ่านเส้นกั้นที่เราขีดเอาไว้ในแง่ความปรารถนา นั่นคือรายละเอียดอีกเรื่องที่ผมรู้สึกว่ามีความน่าสนใจ”

“ผมคิดว่านั่นเป็นเพราะมันเป็นไปตามเกม และเทียบได้กับเกมเทนนิสในโลก ลูก้าทำให้ดูดุดันและจริงใจเหมือนความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นได้” ปาสคาล กล่าว

“Challengers ชาเลนเจอร์ส” วันนี้ในโรงภาพยนตร์

 

เกมของเธอ กฏของเธอ “Challengers ชาเลนเจอร์ส” ผลงานเรื่องล่าสุดจาก ลูกา กัวดาดีโน วันนี้ในโรงภาพยนตร์