หากพูดถึงนักแสดงดาวค้างฟ้าของเกาหลี ชื่อของ จูจีฮุน และ ฮันฮโยจู คงจะติดอันดับนักแสดงในดวงใจของผู้คนทั่วโลก กับบทบาทสุดประทับใจ ที่ฝากตำนานเอาไว้กับผู้ชมในทุกช่วงอายุ แต่พวกเขาจะกลับมาสร้างตำนานอีกครั้งในซีรีส์เกาหลี “Blood Free” พร้อมเอาใจคอซีรีส์แอ็กชัน-สืบสวนที่คาดเดาความคิดของตัวละครไม่ได้ กับฉากหลังที่เปิดโลกไซไฟจากห้องแล็บที่จะมากระตุ้นความคิดว่าด้วยอนาคตของการผลิตอาหารและประเด็นขัดแย้งทางจริยธรรมที่มาพร้อมกับความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี เตรียมสตรีม Blood Free บน Disney+ Hotstar 10 เมษายนนี้

งานนี้เรียกได้ว่า จูจีฮุน พร้อมสลัดบทบาทเจ้าชายรัชทายาท จาก Kingdom มารับบทเป็น อูแชอุน อดีตนายทหารและปัจจุบันทำงานเป็นบอดี้การ์ด จับมือนำทัพนักแสดงชั้นนำกับ ฮันฮโยจู เจ้าของบทบาท อีมีฮยอน แม่ของ คิมบงซอก จากซีรีส์เกาหลีเรื่องดัง Moving และ มารับบทเป็น ยุนจายู ซีอีโอ บริษัท BF บริษัทที่ปลูกเนื้อสัตว์เทียมในห้องแล็บ Blood Free พร้อมเปิดตำนานการเดินทางครั้งใหม่ สู่บทนำในซีรีส์แนว แอ็กชันสืบสวนสอบสวน ไซไฟ  Blood Free ที่จะพลิกบทบาทของพวกเขาให้เป็นอีกหนึ่งตำนานในใจผู้ชม

เพราะ Blood Free จะเปิดศักราชแห่งบทบาทการแสดงของ จูจีฮุน และ ฮันฮโยจู ด้วยความท้าทายที่พวกเขายืนยันว่าทุกตัวละครพร้อมเชือดเฉือนกันได้ทุกเมื่อ ที่มีมนุษยชาติเป็นเดิมพัน!

แต่ก่อนสตรีมพร้อมกัน Disney+ Hotstar พาจูจีฮุนและฮันโยจู มาเปิดใจพูดคุยกันเรื่องความท้าทาย อุ่นเครื่องเตรียมรับความตื่นเต้นก่อนรับชม

เปิดใจสองนักแสดง จูจีฮุน - ฮันฮโยจู กับการเดินทางครั้งใหม่ในซีรีส์ Blood Free

เมื่อเราถามถึงความตื่นเต้นก่อนรับบทนำในซีรีส์เรื่อง Blood Free ฮันฮโยจู กล่าวทันทีว่า “แน่นอนว่าต้องเป็นมือเขียนบทเลยค่ะ ฉันรักงานเขียนบทของลีซูยอนมาก โดยเฉพาะในเรื่อง Stranger พอได้ยินว่าเธอได้ลงมือเขียนบทให้ Blood Free ก็รู้สึกสนใจในทันทีเลย ฉันรีบอ่านบทตอนที่ 1 และ 2 แล้วได้พบว่ามันสุดยอดมาก ๆ”

ด้าน จูจีฮุน เล่าความรู้สึกว่า เขาเองก็ตื่นเต้นกับบทซีรีส์จากปลายปากกาของ ลีซูยอน เช่นเดียวกัน พร้อมขึ้นแท่นเป็นแฟนตัวยงของเธอจากเรื่อง Stranger “โดนใจตั้งแต่ตอนได้อ่านบท Blood Free เป็นครั้งแรกเลยครับ มันสุดยอดและตื่นเต้นมาก อีกทั้งยังแปลกใหม่ด้วย ผมตื่นเต้นมากที่ได้ร่วมงานกับทีมที่สุดยอดแบบนี้!”

จูจีฮุน เสริมว่าทีมงานตั้งแต่ผู้กำกับไปจนถึงนักแสดง ยังมีความกระตือรือร้นและความตั้งใจในการร่วมมือกันรังสรรค์ซีรีส์เรื่องนี้ เขากล่าวอีกว่า “เราทุกคนยังได้ร่วมกันระดมไอเดียกัน ทุกคนเองก็ตั้งใจฟังกันและกันมาก ๆ มันทำให้ผมมีความทรงจำที่ดีในกองถ่ายจริง ๆ ครับ”

ฮันฮโยจู เองยังได้มีความสุขกับช่วงเวลาดี ๆ ที่ได้ใช้ร่วมกันกับทีมงาน ที่ได้สร้างความประทับใจจนลืมไม่ลง “เราถ่ายทำกันที่เมืองซาชอน ถึงแม้ว่ามันจะไกลมาก แต่ฉันก็มีความสุขกับการที่ได้อยู่ในหอพักกับทีมงานทุกคน เรากลายมาเป็นเพื่อนกันอย่างรวดเร็ว และได้ดูฟุตบอล World Cup ด้วยกันด้วยค่ะ”

“อูแชอุน - ยุนจายู” บทบาทที่ใกล้ตัวและเป็นธรรมชาติ

“ผมรับบทเป็นอูแชอุน อดีตนายทหารที่กลายมาเป็นบอดี้การ์ด และได้ร่วมงานกับซีอีโอของบริษัท BF ที่รับบทโดยคุณฮันฮโยจู”  จูจีฮุน กล่าวถึงบทบาทของเขา และเล่าถึงการเตรียมความพร้อมก่อนถ่ายทำงาน “นอกจากนี้ยังมีฉากแอ็กชันที่ผมต้องถ่ายด้วย ผมต้องออกกำลังกายอย่างหนักก่อนถ่ายทำเพื่องานนี้โดยเฉพาะ”

อูแชอุน ยังได้รับภารกิจในการตามหาตัวการของเหตุการณ์ก่อการร้าย ที่เขาได้เห็นกับตาเมื่อหลายปีก่อน และด้วยแชอุนยังมีอดีตที่ต้องซ่อนเอาไว้ ทำให้ จูจีฮุน ต้องใช้เวลาการทำการบ้านเรื่องฉากหลังของตัวละครนี้ที่ทำให้ในระหว่างทางเขาได้พบกับความคล้ายคลึงกันระหว่างเขากับตัวละคร

“ผมพบว่าทั้งผมและแชอุนนั้นมีความรับผิดชอบสูงมาก นั่นคือสิ่งที่เราเหมือนกันครับ และเพราะแชอุนได้เสียสิ่งที่สำคัญต่อเขาไปหลายอย่างจากเหตุการณ์ก่อการร้ายในครั้งนั้น ทำให้เขามีความมุ่งมั่นในการค้นหาความจริง ผมเองก็อยากจะเล่นบทนี้ให้คนดูได้เข้าใจเขาจริง ๆ”

นอกจากที่ จูจีฮุน จะฟิตร่างกายเตรียมพร้อม ฮันฮโยจู เอง ก็ยังทุ่มเทกับการแสดงเรื่องนี้ด้วยการไว้ผมยาว และตัดผมเมื่อถึงฉากสำคัญ อีกทั้งยังใส่ใจกับความพิถีพิถันของเครื่องแต่งกายของ “ยุนจายู” ซึ่งเป็นตัวละครที่เธอเล่นอีกด้วย

เธอยังพูดคุยกับมือเขียนบทของเรื่องเพื่อทำความเข้าใจกับตัวละคร และได้พบว่าเธอสามารถเชื่อมโยงกับจุดยืนของ ยุนจายู เป็นอย่างมาก

“คุณจะได้เห็นว่าเรื่องนี้มีคนอยู่สองกลุ่ม คือคนที่พยายามจะครอบครองและผูกขาดทรัพยากร กับคนที่พร้อมรักษาไว้ซึ่งมนุษยธรรมและเห็นแก่ประโยชน์ของคนส่วนใหญ่ มันจะมีจุดเล็ก ๆ ของเรื่องค่ะที่ทำให้ตั้งคำถามว่า แล้วยุนจายูอยู่กลุ่มไหมกันแน่ แต่ไม่ว่าจะเป็นยังไง ฉันก็เข้าใจจุดยืนของเธอมากค่ะ” ฮันฮโยจู ย้ำ

ก้าวแรกที่สุดพิเศษกับก้าวต่อไปที่เปี่ยมไปด้วยความหวัง

สำหรับ จูจีฮุน นับเป็นครั้งแรกที่เขาแสดงในซีรีส์ออริจินอลของทาง Disney+ โดยเจ้าตัวเปิดใจว่าเขาชื่นชอบการรับชมคอนเทนต์จาก Disney+ ตั้งแต่ครั้งแรกที่เปิดตัวในประเทศเกาหลี พร้อมย้ำว่า “มันคือประสบการณ์พิเศษที่ได้ทำงานกับทีมงาน Disney+ ในซีรีส์เรื่อง Blood Free จริง ๆ ครับ”

ด้าน ฮันฮโยจู ผู้ซึ่งเคยมีประสบการณ์ร่วมงานกับ Disney+ มาก่อนหน้านี้ กล่าวว่า “ฉันได้มาเป็นส่วนหนึ่งกับครอบครัว Disney จากซีรีส์เรื่อง Moving และมันรู้สึกดีมาก ๆ ที่ได้กลับมาร่วมงานกันอีกครั้งใน Blood Free ฉันหวังว่าซีรีส์เรื่องนี้จะประสบความสำเร็จเช่นเดียวกัน”

ลุ้นคลี่คลายปมปริศนาสุดระทึกไปพร้อมกับนักแสดงแถวหน้าของวงการ

ฮันฮโยจู ทิ้งท้ายว่า “คุณนักแสดงลีฮีจุนนั้นรับบทเป็นนายกรัฐมนตรี ฉันว่าบทของเขามันสุดยอดมาก แล้วก็จริงมากด้วย ฉันว่ามันน่าดูมาก ๆ เลย และความขัดแย้งระหว่างเขากับยุนจายูนั้นก็เป็นเรื่องที่น่าติดตามมาก”

“ทุกตัวละครมีเรื่องราวที่ซ่อนเอาไว้ ถ้าคุณดูดี ๆ และจดไปด้วยว่าทำไมตัวละครนั้น ๆ ถึงทำอะไรบางอย่าง หรือทำไมมันถึงเกิดเหตุการณ์อะไรก็ตามขึ้น คุณจะยิ่งสนุกกับเรื่องนี้มากขึ้นไปอีก” จูจีฮุน ฝากเคล็ดลับที่จะทำให้คนดูดูเรื่องนี้ได้อย่างสนุกเต็มอิ่ม

Blood Free ถ่ายทอดเรื่องราวสุดลุ้นระทึกกับความจริงที่บิดเบี้ยวเกินกว่าใครจะจินตนาการได้ 

เมื่ออดีตทหารชั้นยอดอย่าง อูแชอุน ผู้ซึ่งต้องทนทุกข์ทรมานกับความทรงจำอันโหดร้ายหลังการโจมตีของผู้ก่อการร้ายที่พรากชีวิตของเพื่อนเขาและทำให้ประธานาธิบดีเกาหลีกลายเป็นอัมพาต อูแชอุน พร้อมทำทุกทางเพื่อสืบมาให้ได้ว่าใครคือคนที่ต้องรับผิดชอบ หลังลงแรงตามหาผู้ต้องหาที่มีชีวิตรอดจากเหตุการณ์ดังกล่าว แชอุนได้ค้นพบเบาะแสที่น่าสงสัย นั่นคือบริษัทของซีอีโอ ยุนจายู ได้รับผลกำไรเป็นประวัติการณ์ในช่วงปีที่ผ่านมานับตั้งแต่การโจมตี แต่เนื่องจาก ยุนจายู ตกอยู่ภายใต้ภัยคุกคามจากกลุ่มค้ายา ผู้ก่อการร้าย แฮกเกอร์ และกลุ่มคนผู้นิยมวิธีการที่รุนแรง แชอุนจึงสวมรอยเป็นบอดี้การ์ดส่วนตัวของเธอ เพื่อแทรกซึมเข้าไปในองค์กรของ ยุนจายู  

เตรียมสตรีม Blood Free พร้อมกัน ตั้งแต่ 10 เมษายน นี้ เฉพาะบน Disney+ Hotstar เท่านั้น

โซเชียลมีเดีย: 

X : @DisneyPlusTH

Facebook : @DisneyPlusHotstarTH

Instagram : @DisneyPlusHotstarTH

TikTok : @DisneyPlusTH

Hashtag : #DisneyPlusHotstarTH