“พิทักษ์-ไถ่บาป-แก้แค้น” เจาะลึกเบื้องหลังงานสร้างโลกที่แตกต่างของพวกเขาใน “Aquaman and the Lost Kingdom อควาแมน กับอาณาจักรสาบสูญ”
“Aquaman and the Lost Kingdom อควาแมน กับอาณาจักรสาบสูญ” คือผลงานภาคต่อของ Aquaman (2018) ภายใต้วิสัยทัศน์ของ เจมส์ วาน ที่กลับมาคุมบังเหียนเรื่องราวอีกครั้ง ว่าด้วยเหตุการณ์หลังจาก แบล็คแมนท่า (ยาห์ย่า อัลดุล - มาร์ทีนที่ 2) พ่ายแพ้ให้กับ อควาแมน (เจสัน โมโมอา) อย่างหมดท่า แต่เขายังคงไม่หยุดที่จะคิดหาวิธีการแก้แค้นให้กับพ่อผู้ล่วงลับ จนท้ายที่สุดก็ได้ค้นพบ ตรีศูลดำ ขุมพลังเก่าแก่จากโบราณกาล อาวุธทำลายร้ายที่พร้อมบดขยี้สายเลือดแห่งจ้าวสมุทรให้สิ้นซาก เพื่อหยุดยั้งพลังอันชั่วร้าย อควาแมนจึงต้องกลับไปขอความช่วยเหลือจาก ออม (แพทริค วิลสัน) น้องชายร่วมมารดาและอดีตราชาองค์ก่อนแห่งแอตแลนติสจากที่ขุมขัง เมื่อกระแสกำลังจะเปลี่ยน ทั้งสองพี่น้องจึงต้องยุติความบาดหมาง ข้ามผ่านอดีต เพื่อปกป้องอาณาจักร ครอบครัวอันเป็นที่รัก และระบบนิเวศของโลกใบนี้ให้พ้นจากภัยอันตรายที่กำลังคืบคลานเข้ามา
พิทักษ์ : โลกของ “อาร์เธอร์”
สถานที่ต่างๆ
● เมื่อ อาร์เธอร์ เคอรี่ ต้องเป็นทั้งคุณพ่อและผู้นำครอบครัว ประภาคารที่เขารักจึงกลายเป็นที่พักบนพื้นดินสำหรับเขา เมร่า และ อาร์เธอร์จูเนียร์ ฉากประภาคารที่ออสเตรเลียจากภาคแรกถูกสร้างขึ้นใหม่ที่ Warner Bros. Leavesden Studios ซึ่งที่นั่นจะใช้ถ่ายทำกันเป็นหลัก
● ชีวิตใหม่ของอาร์เธอร์มีผลต่อบ้านของเขา และการทำหน้าที่กษัตริย์แห่งแอตแลนติส ทำให้ชีวิตประจำวันของเขาเกี่ยวข้องกับอาณาจักรใต้ท้องทะเลมากขึ้น ผู้สร้างภาพยนตร์พยายามแสดงให้เห็นความเป็นเมืองมากขึ้น มีพื้นที่สำหรับการอยู่อาศัย มีถนนหนทาง ตลาด และร้านอาหารต่างๆ มีทั้ง “ไทม์สแควร์” ที่โดดเด่นด้วยสีสันสดใสและมีป้ายโฆษณา แสดงให้เห็นถึงการทำงานของฝ่ายปกครองแอตแลนติส พร้อมทั้งครอบครัวกษัตริย์ อควาแมน เมร่า และแอตแลนนา
ภาพลักษณ์
● ผู้ออกแบบเครื่องแต่งกาย ริชาร์ด เซล จาก Ready Player One (2018) และ Doctor Strange in the Multiverse of Madness (2022)ได้อัพเดทชุดของอควาแมนที่มีเอกลักษณ์จากภาคแรก โดยยึดจากต้นฉบับเดิมเป็นหลัก เขาร่วมมือกับทีมงานด้วยใช้วัสดุที่มีความเบาและติดแผงควบคุมไว้บนชุด สำหรับเวลาโมโมอาแสดงฉากผาดโผนและต่อสู้ด้วยตัวเอง ชุดฮีโร่ของอควาแมนมีชิ้นส่วนสีทองและสีเขียวเยอะมาก ต้องใช้ทีมงาน 3 คนเป็นเวลานาน 3 เดือนเพื่อผลิตและติดแต่ละชิ้นส่วนลงบนชุด
● ทั้งเมร่าและแอตแลนนาต่างสวมชุดที่สะท้อนความเป็นราชินีสำหรับฉากสภาของแอตแลนติส เสื้อรัดรูปของแอตแลนนามีสีสันมากกว่า 1,100 เฉดสี ทุกส่วนตกแต่งด้วยลูกปัดโดยทีมงาน มีการจำลองแบบมาจากของจริง เปลือกหอยบนชุดของเมร่าผลิตขึ้นด้วยโพลียูรีเธน ลงสีใบไม้สีทองด้วยมือ
● ผู้ปกครองใต้ท้องทะเลทุกคนต้องมีตรีศูล แผนกอุปกรณ์ตกแต่งได้ผลิตตรีศูล 15 แบบ จนกระทั่งพบแบบที่เหมาะกับอควาแมน ฮีโร่เวอร์ชันจะเป็นตรีศูลสีทองของอาร์เธอร์ที่ปรับเปลี่ยนให้ทันสมัย 3 แบบ แบบแรกเป็นอลูมิเนียมที่ติดเครื่องจักรเวอร์ชันฮีโร่ อีกแบบเป็นไฟเบอร์กลาส อีกแบบเป็นยางและโฟม (สำหรับการแสดงผาดโผน) ทั้งหมดจะใช้คาร์บอนไฟเบอร์เป็นแกนกลางเพื่อความแข็งแรงและทนทาน สำหรับฉากที่ต้องมีการต่อสู้อย่างยิ่งใหญ่ ตรีศูลแท่งคาร์บอนไฟเบอร์จะฉีดโฟมเข้าไปด้วย
การถ่ายทำ “ใต้น้ำ”
● สำหรับฉากที่ถ่ายทำกันใต้น้ำในภาคแรก ผู้สร้างภาพยนตร์ใช้ฉากบลูสกรีนและอุปกรณ์ดึงนักสดงขึ้นไป ผลลัพธ์ที่ได้สร้างความประทับใจมาก แต่วิธีนี้ทำให้นักแสดงอึดอัดและจำกัดมุมกล้อง รวมถึงการเคลื่อนไหวของ เจมส์ วาน
● สำหรับภาคต่อ ทีมงานวิชวลเอฟเฟกต์ใช้วิธีใหม่ที่ทำให้นักแสดงและกล้องมีอิสระมากขึ้น โดยอาศัย Eyeline Studio สร้างเทคโนโลยีใหม่อันน่าทึ่งขึ้นมา เจมส์ วาน และทีมงานของเขาสามารถสร้างโลกใต้น้ำแบบ 360 ขึ้นมาได้
● มีการใช้ที่ Eyeline Studio ผลิตบูธพิเศษสำหรับการติดกล้อง 136 ตัว ตั้งแต่ระดับเดียวกับเท้าจนถึงศีรษะและรอบตัวนักแสดง โดยที่นักแสดงจะทำการแสดงอยู่ตรงกลางในชุดที่แต่งครบเครื่อง ช่วยทำให้เส้นผมสยายเหมือนอยู่ใต้น้ำได้ด้วยวิชวลเอ็ฟเฟ็กต์ บูธนั้นมีขนาดกว้างมากพอที่จะนำม้าติดเครื่องยนต์เข้าไปได้ เพื่อเก็บภาพนักแสดงขี่เหล่าสิ่งมีชีวิตใต้ทะเลที่สร้างขึ้นด้วยวิชวลเอฟเฟกต์ขึ้นมา
● บรรยากาศภายในบูธ นักแสดงจะเห็นจอพลาสมา 360 องศาที่ฉายภาพวิชวลฉากนั้น บรรยากาศนอกบูธจะมีทีมเพื่อนนักแสดงร่วมแสดงกับกล้อง คอยจับสีหน้าของนักแสดงและนำไปวางซ้อนกับภาพอวตารบนจอด้านในบูธ
● วิธีการใหม่แบบนี้ทำให้นักแสดงเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระ และแสดงโต้ตอบกับคนอื่นได้ ทำให้ เจมส์ วาน มีอิสระในการใช้กล้องไปด้วยระหว่างขั้นตอนสร้างวิชวลเอฟเฟกต์หลังการถ่ายทำ
● ภาพฟุตเทจที่ได้จาก Eyeline Studio จะถูกนำมารวมกับฉากต่างๆ ที่ถ่ายทำบนบลูสกรีน และรวมเข้ากับภาพอวาตาร ฉากต่างๆ สิ่งมีชีวิตในทะเลที่สร้างขึ้นด้วยวิชวลเอฟเฟกต์ ผลลัพธ์ที่ได้น่ะหรือ? แอตแลนนาและเมร่านั่งคร่อมฉลาม ส่วนอาร์เธอร์นั่งอยู่บนอานของม้าน้ำขนาดยักษ์ระหว่างการต่อสู้กับ แบล็คแมนท่า
ไถ่บาป : โลกของ “ออม”
สถานที่ต่างๆ
● สำหรับการไถ่บาปให้กับการฆ่ากษัตริย์ฟิชเชอร์แมนในภาคแรก ออมถูกขังอยู่คุมเบื้องล่างที่ห่างไกลจากน้ำและขุมพลังของเขาให้ได้มากที่สุด เขาถูกขังในอาณาจักรดีเซอร์เทอร์อย่างรัดกุม ฝังอยู่เบื้องล่างทะเลทรายซาฮาร่า อาร์เธอร์รู้ว่าไม่มีใครจะช่วยตามล่า แบล็คแมนท่า ได้ดีกว่าออม จึงต้องช่วยเขาให้เป็นอิสระ
● ที่ L Stage ของ Warner Bros. Studios Leavesden ถูกปรับสภาพเป็นโรงเก็บเครื่องบินขนาด 48,600 ตารางฟีต และกลายเป็นฉากห้องขังที่ซับซ้อนของดีเซอร์เทอร์ มีโพรงกระต่ายที่เป็นทางเดินยาวหินทรายในตึก บรรยากาศน่ากลัวด้วยคบเพลิงและโครงกระดูกแวมไพร์สภาพแห้งกรังของดีเซอร์เทอร์
● เมื่อปราศจากน้ำ ออมใส่เสื้อผ้าเหมือนผ้าขี้ริ้ว ดูผอม มีหนวดเครา และผมเผ้ายุ่งเหยิง ในห้องขังที่ดูเหมือนเขาถูกเยาะเย้ยและทรมาณจากบรรดาผู้คุม มีสตั้นท์ดับเบิ้ลมาร่วมแสดงด้วยท่าทางที่สอดคล้องกับ แพทริค วิลสัน ก่อนนำร่างของทั้งสองมารวมเป็นหนึ่งเดียวกันด้วยวิชวลเอฟเฟกต์
● ทางหลบหนีจากดีเซอร์เทอร์ ที่อาร์เธอร์ต้องพาน้องชายร่วมมารดาของเขาออกจากห้องขังท่ามกลางกองทรายของทะเลทรายซาฮาร่า ซึ่งก่อนจะเดินทางไปถึงชายหาด อาร์เธอร์และออมถูกเหล่าผู้คุมดีเซอร์เทอร์ขี่จาจัสไล่ตาม โครงกระดูกสัตว์ขนาดยักษ์สามารถกัดเคี้ยวทะลุหินได้ บรรยากาศในโรงถ่ายที่ Leavesden เจสัน โมโมอา สเปเชียลเอฟเฟกต์ และทีมสตั้นท์แมนสนุกกับการสร้างฉากแอคชันซีนนี้ขึ้นมา อาร์เธอร์ต้องกระโดดขึ้นไปบนจาจัสเพื่อขโมยม้าพันธุ์แกร่งของพวกขา และทำให้ออมหนีสู่ทะเล
● ฉากการต่อสู้ที่นำไปสู่การถือกำเนิดใหม่ใต้น้ำของออมมีการถ่ายทำในทะเล Saunton Sands และในแทงค์น้ำที่ Leavesden เมื่อดำดิ่งลงไปใต้ทะเลออมได้ปลดปล่อยพลังความแข็งแกร่งขึ้นมาอีกครั้ง
ภาพลักษณ์
● สำหรับภารกิจความช่วยเหลือ อาร์เธอร์มีพลังวิเศษจากชุดใหม่ที่ได้มาจากแอตแลนนา ชุดรัดรูปสีฟ้า สีเทอร์ควอยส์ และสีม่วงที่เหมือนบอดี้สูทถูกผลิตขึ้นมาให้มีน้ำหนักเบา มีความยืดหยุ่นรับกับชุดรัดกล้ามเนื้อด้านบน วัสดุที่ใช้ทำให้ดูเปลี่ยนสีและสะท้อนแสงได้ มีการสะท้อนถึงเทคโนโลยีวิเศษ พร้อมด้วยความมหัศจรรย์ของวิชวลเอฟเฟกต์ ชุดนั้นทำให้อาร์เธอร์ล่องหนได้ ชวนให้นึกย้อนกลับไปหาชุดที่อควาแมนสวมในคอมมิกช่วงยุค Silver Age ซึ่งเป็นแรงบันดาลใจให้ เจมส์ วาน และทีมออกแบบ
● หลังจากห่างหายจากท่องทะเลเป็นเวลานานและฟื้นสภาพกลับคืนมาอีกครั้ง ออมจะสวมชุดม่วงอมดำและรองเท้าหนัง มีการสะท้อนถึงความซื่อสัตย์ของเขา เท้าของเขาจะดูงดงามแบบทหาร ขณะเดียวกันก็รวมความเป็นฮีโร่จากภาพยนตร์และคอมมิกช่วงยุค 1950 ถึง 1960 มีการเล็มหนวดและผมของเขาจนดูสะอาดตา
แก้แค้น : โลกของ “แบล็คแมนท่า”
สถานที่ต่างๆ…
● การค้นหาข้อมูลของ แบล็คแมนท่า และทีมของเขา เกี่ยวกับเทคโนโลยีของแอตแลนติส นำพวกเขาสูแอนตาร์กติกา สำหรับการสร้างแอนตาร์กติกาให้ดูสมจริงช่วงซัมเมอร์ที่อังกฤษใน Leavesden Studios แผนกศิลป์ต้องสร้างทุ่งทุนดราน้ำแข็งขึ้นมา โดยใช้เป็นที่ตั้งที่พักและยานพาหนะของแบล็คแมนท่า พัดมขนาดยักษ์จะพัด “หิมะ” ให้ลอยทั่วฉากและผนังของเตนท์ ทีมงานต้องสวมแวนกันแดดเพื่อป้องกันดวงตาจากแสงสว่างบนฉากสีขาว ส่วนนักแสดงต่างก็เหงื่อท่วมตัวเพราะต้องสวมชุดกันหนาวสุดไฮเทค
● มีช่วงที่ทั่วสหราชอาณาจักรขาดแคลนขี้ผึ้ง (ใช้สำหรับทำน้ำแข็ง) ระหว่างถ่ายทำ ตอนนั้นทีมสเปเชียลเอฟเฟกต์ต้องบุกถึงร้านค้าขนาดใหญ่ในท้องถิ่นของสวีเดนเพื่อซื้อเทียนสีขาวนับร้อยแท่ง
● การพบอาณาจักรที่สาบสูญของแบล็คแมนท่าทำให้เขาได้พบกับเทคโนโลยีแอตแลนติสโบราณกว่าพันปี เจมส์ วาน ท้าทายทีมงานในการสร้างเทคโนโลยีที่ดูทันสมัยและต้องมี “วัตถุโบราณ” เป็นส่วนประกอบในนั้นด้วย
● ที่ M Stage ของ WB Studios Leavesden ยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกขนาดใหญ่อีกอย่างคือนาฬิกาขนาด 35,000 ตารางฟีต ที่นี่ใช้ปักหลักเป็นถ้ำของแบล็คแมนท่า ทำให้นึกถึงที่ซ่อนตัววายร้ายของ เจมส์ บอนด์
● หนึ่งสิ่งที่ค้นพบในอาณาจักรที่สาบสูญคือออคโตบอทส์ ยานพาหนะส่วนตัวที่ใช้ได้บนบกและบนน้ำ มีแขนเหล็กเหมือนปลาหมึก ซ่อนอยู่ในคลังแสงของแบล็คแมนท่า
● มีการใช้ทีมสเปเชียลเอฟเฟกต์ 12 คน ในช่วงเวลา 4 เดือนเพื่อสร้างออคโตบอทส์ทั้ง 3 ขึ้นมา โดยแต่ละตัวจะมีชิ้นส่วน 45 ชิ้นโดยมีโครงเหล็กอยู่ด้านใน (ออคโตบอทส์ตัวแรกจะใช้ทำงานด้านใน ตัวที่สองจะใช้สำหรับฉากที่เกี่ยวกับน้ำ และมีความนุ่มด้านในสำหรับการแสดงผาดโผน ส่วนตัวที่สามจะมีการตกแต่งแค่เพียงด้านนอกสำหรับถ่ายภาพเป็นฉากหลัง)
● ออคโตบอทส์จะมีกรเคลื่อนไหวบนฐานที่มี 6 แกน (ทำให้เคลื่อนไหวทางด้านหน้าและด้านหลัง ด้านข้างและแนวตรง รวมถึงหมุนรอบ 3 ทิศทางทั้งม้วนตัว ตั้งขึ้น และเอียง)
● สำหรับเรือใต้น้ำขนาดยักษ์ของแบล็คแมนท่า เจมส์ วานได้แรงบันดาลใจจากยุค Silver Age ของดีซี รวมถึงภาพยนตร์ไซไฟยุค 1956–1970 วานอิงภาพยนตร์สยองขวัญอิตาเลียน “Planet of the Vampires (1965)” สำหรับเรือขนาดยักษ์ของแบล็คแมนท่า ชุดลูกเรือรับจ้างของเขา ภาพลักษณ์ภายนอกของเรือขนาดยักษ์เหมือนปลากระเบนหรือฉลามหัวค้อน เรือที่มีความทันสมัยดูคล้ายกับยานใต้น้ำ พรางตัวได้ง่ายในมหาสมุทรแม้จะมีขนาดใหญ่ก็ตาม
ภาพลักษณ์
● ภายในฐานที่มั่น แบล็คแมนท่ามีทีมนักวิทยาศาสตร์และทหารรับจ้างตรวจสอบเซนเซอร์ที่ตรวจจับร่องรอยเทคโนโลยีของแอตแลนติส ภายในศูนย์กลางหอควบคุมที่ถูกปิดล้อมด้วยกระจกอย่างมิดชิด จะมีชุดของแบล็คแมนท่า ซึ่งมีทั้งรอยแตกของกระจกที่สร้างรอยแผลเป็นบนใบหน้าของเขา
● สำหรับภาพยนตร์เรื่องนี้ ชุดของแบล็คแมนท่ามีการปรับโฉมใหม่อย่างเต็มตัว โดยสร้างมาจากวัสดุที่หลอมขึ้นจากร่างกายของ ยาห์ย่า อัลดุล - มาร์ทีนที่ 2 มีหน้าตาดูทันสมัยและกันน้ำได้ หมวกนิรภัยของเขาก็ดูเงางามและสวมง่ายขึ้น แม้ว่าจะสร้างความท้าทายให้นักแสดงเวลาใส่ก็ตาม (ทีมงานเสื้อผ้าและอุปกรณ์ตกแต่งต้องดัดแปลงพัฒนการออกแบบตลอดเวลาการถ่ายทำ จนช่วงที่ถ่ายทำเสร็จ หมวกนิรภัยที่ได้รับการพัฒนาจะมีกล้องตัวเล็กๆ ซ่อนอยู่ด้านใน เพื่อให้นักแสดงเห็นบรรยากาศรอบตัวบนจอเล็กๆ)
● สำหรับ ยาห์ย่า อัลดุล - มาร์ทีนที่ 2 ชุดที่ดูเงาและมีน้ำหนักเบาขึ้นดูน่าชื่นชม เพราะชุดก่อนมีความหนักและมีอุปกรณ์ติดอยู่กับชุดเผื่อเวลาศัตรูไล่ล่า ตอนนี้เขามีเทคโนโลยีใหม่และตรีศูลดำ ทำให้เขามีพลังเหลือล้นโดยไม่ต้องกังวลเรื่องอุปกรณ์ใด
● ชุดลูกจ้างของแบล็คแมนท่าสะท้อนถึงการออกแบบชุดฮีโร่ของเขา ทำให้ดูเหมือนเป็นเครื่องแบบ เป็นบทพิสูจน์ถึงเทคโนโลยีโบราณที่พวกเขาขุดขึ้นมา เช่น พวกหมวกดำน้ำ และอาวุธต่างๆ
● ตอนที่แบล็คแมนท่าพบกับแสงสะท้อนกลางหิมะแอนตาร์กติกา เขาสัมผัสได้ถึงพลังของตรีศูลดำ อุปกรณ์นี้มีความแตกต่างถึง 26 เวอร์ชัน มีอันหนึ่งที่เป็นตรีศูลอลูมิเนียมที่มีเครืองจักร อีกหลายเวอร์ชันถูกผลิตขึ้นมา สามารถนำมาใช้ในฉากต่อสู้หรือทั้งหมดได้ และเวอร์ชันหนึ่งถูกใช้เป็นมีดดาบ ซึ่งจะมีใบมีดซ่อนอยู่ด้านใน
กระแสกำลังจะเปลี่ยน! ถึงเวลาที่ราชันจะกลับมาทวงบัลลังก์ใน “Aquaman and the Lost Kingdom อควาแมน กับอาณาจักรสาบสูญ” สัมผัสประสบการณ์ความมันส์ส่งท้ายปี 20 ธันวาคมนี้ ในโรงภาพยนตร์ ทั้งระบบปกติ, Dolby Atmos, Zigma CineStadium, MX4D, 4DX, Screen X และเต็มตายิ่งกว่าด้วยสัดส่วนภาพพิเศษตลอดทั้งเรื่องพร้อมระบบแบบขั้นสุดกับ IMAX 3D