THE BEATLES "COME TOGETHER"
ถ้าเอ่ยถึงชื่อของ LSD (Lysergic acid diethylamide) บางคน อาจจะรู้จักมันในฐานะยาเมาชนิดหนึ่ง ที่ได้รับความนิยมในหมู่ วัยรุ่นดารานักร้องคนดังยุค 60's-70's ที่บางคนรู้จักในชื่อของ “กระดาษเมา” หรือ “แสตมป์มรณะ” เพราะหลายคนเสียชีวิตจาก การเสพยาตัวนี้เกิดอาการหูแว่ว เห็นภาพหลอนต่าง ๆ จนฆ่าตัวตาย
คุณอาจจะสงสัยว่า แล้วมันเกี่ยวอะไรกับเพลง Come Together เพลงนี้ ตอบว่า...เพราะเพลงนี้เป็นผลงานการประพันธ์ของจอห์น เลนนอน ที่จําต้องมีชื่อของ พอล แม็คคาร์ทนีย์ พ่วงไว้ด้วย ตาม ข้อตกลงของทั้งคู่ว่าไม่ว่าใครจะเป็นคนแต่ง ก็จะใส่เครดิตของอีกคนไว้ด้วยเสมอความตั้งใจแรกที่จอห์น เลนนอน เขียนเพลงนี้ คือเขียนเพื่อ ใช้เป็นเพลงรณรงค์หาเสียงให้กับผู้สมัครชิงตําแหน่งผู้ว่าการรัฐ แคลิฟอร์เนียคนหนึ่ง ชื่อว่า นายทิโมธี แลร์รี่ นักวิจัยทางจิตวิทยา แห่งมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด
ผลงานที่ฮือฮามากของคุณทิโมธี คือการเสนอทฤษฎีว่าด้วยผลดี ของยา LSD ที่มีต่อผู้ป่วยทางจิตเวชบางจําพวกเช่น ผู้ป่วยซึมเศร้า แต่งานวิจัยของเขากลายเป็นสิ่งต้องห้าม เมื่อทางการสหรัฐประกาศ แบน LSD ที่กําลังแพร่หลายในหมู่นักศึกษา และขึ้นทะเบียนเป็นยาเสพติดให้โทษ เพื่อผลักดันให้ LSD ได้รับการยอมรับ ทิโมที แลร์รี่ ถึงกับลงทุน สมัครลงแข่งขันชิงตําแหน่งผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนียสมัยเดียวกับ อดีตพระเอกคาวบอยคนหนึ่ง ซึ่งกลายเป็นประธานาธิบดีของ สหรัฐฯ ในเวลาต่อมา นั่นคือ โรนัลด์ เรแกนทิโมที แลร์รี่ ซึ่งรู้จักมักคุ้นกับจอห์น เลนนอน ที่เชื่อกันว่า เป็น ฝ่ายสนับสนุนแนวคิดเรื่อง LSD (เขาเคยเขียนเพลง Lucy In The Sky With Diamonds ที่เชื่อกันว่า เป็นการพูดถึง LSD) จึงขอร้อง ให้จอห์น เลนนอน ช่วยแต่งเพลงเพื่อช่วยรณรงค์หาเสียงให้เขา โดย ใช้สโลแกนในการหาเสียงว่า “Come Together. Join The Party!” ซึ่งเป็นที่มาของชื่อเพลง
อย่างไรก็ดี เพลงนี้ก็ไม่ได้ถูกใช้รณรงค์หาเสียงอย่างที่ตั้งใจกันไว้ เพราะเพลงมันไม่น่าเหมาะกับการหาเสียง จอห์น เลนนอน แสดง ความเห็นไว้เช่นนั้น ส่วนตัวทิโมธี แลร์รี่ ก็สะดุดขาตัวเองเมื่อถูกจับ และติดคุกในข้อหามีปัญหาไว้ในครอบครอง
He come grooving up slowly
He got joo joo eyeball
He one holy roller
He got hair down to his knee
Got to be a joker coz he's so hard to please.
He wear no shoe shine
He got toe jam football
He got monkey finger
He shoot Coca-Cola
He say I know you, you know me
One thing I can tell you is you got to be free Come together right now over me
He bag production
He got walrus gumboot
He got Ono sideboard
He one spinal cracker
He got feet down below his ke
Hold you in his armchair you can feel his disease Come together right now over me
He roller coaster He got early warning He got Muddy Water
He one Mojo filter
He say. "One and one and one is three"
Got to be good looking 'cause he so hard to see Come together right now over me
Oh! Come together
Songwriters: John Lennon & Paul McCartney
แม้ว่าจะไม่ได้ถูกใช้งานตามความตั้งใจแรก แต่เพลงที่ถูกบรรจุ ไว้ในอัลบั้ม Abbey Road นี้ก็กลายเป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์ เพราะเป็นเพลงอันดับ 1 บนบิลบอร์ดชาร์ทของอเมริกาเพลงที่ 18 ของเดอะบีทเทิลส์ ทําให้พวกเขาแซงหน้าเอลวิส เพรสลีย์ ที่มีอันดับ หนึ่งในอเมริกา 17 เพลง
ในขณะที่ชาร์ทของอังกฤษ เพลงนี้ถูกแบนจากบีบีซี เหตุเพราะ มีเนื้อเพลงพูดถึง Coca-Cola ซึ่งผิดกฎของบีบีซี ที่ห้ามไม่ให้เพลงมี โฆษณาแฝง ทําให้อันดับไม่ดีนัก และยังมีข่าวเรื่องความขัดแย้งของ เลนนอน กับแม็คคาร์ทนีย์ อันนําไปสู่การยุบแยกวงในเวลาต่อมา