5 ประเพณีคริสต์มาสสุดแปลกจากทั่วโลก
วันคริสต์มาสเป็นวันเฉลิมฉลองของชาวคริสต์ ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 25 ธันวาคมของทุกปี เพื่อเฉลิมฉลองการประสูติของพระเยซู ซึ่งส่วนใหญ่เมื่อกล่าวถึงวันคริสต์มาสเพื่อน ๆจะคิดถึงความอบอุ่นอบอวลไปด้วยความสุข มีซานต้าแจกของขวัญกับเด็ก ๆ โดยวันนี้ผู้เขียนจะมานำเสนอวันคริสต์มาสที่ต่างกันออกไปของแต่ละประเทศ เราไปดูกันดีกว่าว่าคริสต์มาสสุดแปลกของประเทศต่าง ๆเป็นอย่างไรกันบ้าง
1.การไล่ซานต้าในประเทศสวิตเซอร์แลนด์
ประเทศต่าง ๆของโลก หากพูดถึงวันคริสต์มาสก็จะนึกถึงภาพที่ผู้คนต้อนรับและรอของขวัญจากซานต้าอย่างอบอุ่น แต่อาจจะไม่ใช่ที่หมู่บ้านคุสนาคท์ (Küssnacht) ในประเทศสวิตเซอร์แลนด์อย่างแน่นอน เนื่องจากหมู่บ้านนี้มีประเพณีประหลาดซึ่งเกิดขึ้นในสมัยยุคกลาง โดยทุก ๆวันที่ 5 ธันวาคม คนในหมู่บ้านรวมถึงนักท่องเที่ยวจะมาชุมนุมกันเพื่อขับไล่ซานต้าโดยจุดประสงค์คือต้องการร่วมกันทำเสียงดังเพื่อขับไล่วิญญาณชั่วร้ายนั่นเอง
2.ต้นใยแมงมุมในประเทศยูเครน
เมื่อถึงวันคริสต์มาสต้นไม้ส่วนใหญ่ในประเทศยูเครนจะถูกทำให้เหมือนถูกใยแมงมุมปกคลุมไปทั่ว ซึ่งความเชื่อนี้มาจากนิทานที่เล่าเรื่องของครอบครัวยากจนครอบครัวหนึ่งที่ปลูกต้นคริสต์มาสจากลูกสนแต่ครอบครัวของพวกเขายากจนจนไม่มีเงินซื้อของตกแต่งต้นคริสต์มาให้สวยงามได้ แต่เช้าวันรุ่งขึ้นลูก ๆของเธอก็ตื่นมาเพื่อดูต้นไม้ที่เต็มไปด้วยใยและเมื่อแสงแรกแห่งวันคริสต์มาสแต่ที่ด้ายของพวกเขา ด้ายจึงกลายเป็นทองคำและเงินให้แก่ครอบครัวนี้ ดังนั้นวันคริสต์มาสในประเทศยูเครนจึงเชื่อกันว่า การได้เห็นใยแมงมุมในเช้าวันคริสต์มาสจะนำโชคดีมาให้แก่ตนเองและครอบครัว
3.การโยนรองเท้าของสาธารณรัฐเช็ค
สาธารณรัฐเช็คมีความเชื่อหนึ่งที่เกิดขึ้นในวันคริสต์มาสคือ การโยนรองเท้า ซึ่งผู้คนมักจะยืนหลังประตูและโยนรองเท้าทับไหล่ตนเองในวันคริสต์มาสโดยมีความเชื่อว่า หากรองเท้าที่มีนิ้วเท้าชี้ไปข้างหน้าที่ประตู หมายความว่าคุณจะได้แต่งงานในไม่ช้าและจะได้พบกับคนรักที่ดี
4. การเผาแพะของประเทศสวีเดน
การเผาแพะเกิดขึ้นที่เมืองเยฟเล (Gävle) ในประเทศสวีเดน ซึ่งชาวเมืองจะสร้างหุ่นฟางแพะขนาดยักษ์ชื่อในตำนานของสวีเดนเรียกว่า ยูเล (Yule) โดยชาวบ้านจะมาแอบวางเพลิงเพื่อเผาเจ้าแกะยูเลตัวนี้ในวันคริสต์มาส ซึ่งการวางเพลิงนี้เกิดขึ้นตั้งแต่คริสต์มาสในปี 1966 ซึ่งกระทำกันมาตลอดจนเปรียบเสมือนเป็นประเพณีหนึ่งในวันคริสต์มาสไปแล้ว
5.คริสต์มาสที่ซานต้าไม่ใช่พระเอกของงานแต่เป็นแม่มดในประเทศอิตาลี
ที่ประเทศอิตาลีตัวเอกของงานไม่ใช่ซานตาคลอสแต่เป็นแม่มดผู้ใจดี นามว่า บานาฟา (ซึ่งแปลเป็นภาษาไทยว่า ผู้ให้ของขวัญ) โดยแม่มดท่านนี้เป็นผู้ควบคุมการแจกจ่ายของขวัญในวันคริสต์มาสโดยความเชื่อที่ว่าแม่มดใจดีตนนี้จะเข้ามาตามปล่องไฟเพื่อแจกของขวัญและขี่ไม้กวาดบินไปรอบ ๆบ้านเพื่อแจกเสื้อผ้า ของเล่นและของขวัญต่าง ๆให้กับเด็กที่มีความประพฤติดี โดยทุกวันที่ 5 มกราคมของทุกปีเจ้าบ้านจะนำบล็อกโคลี ไส้กรอก จัดใส่จานรวมถึงนำไวน์ใส่แก้วไว้ต้อนรับแม่มดบานาฟาและในเช้าวันที่ 6 มกราคาเด็ก ๆก็จะตื่นมาพบกับของขวัญในถุงเท้าที่แขวนไว้ที่ต้นคริสต์มาส
เมื่อเพื่อน ๆทราบเรื่องราวและความเชื่อในคริสต์มาสของประเทศต่าง ๆ อาจจะอึ้งไปเลยใช่ไหมคะว่ามีประเพณีแปลก ๆแบบนี้เกิดขึ้นด้วยหรอ อย่างไรแล้วการจัดงานเฉลิมฉลองวันคริสต์มาสแต่ละประเทศถึงแม้ว่าจะแตกต่างกันตามลักษณะความเชื่อ แต่อย่างไรแล้วจุดประสงค์หลักที่เหมือนกันก็คือการเฉลิมฉลองให้ผู้คนมีความสุขในวันคริสต์มาสและผู้เขียนก็ขออวยพรให้ทุกท่านมีความสุขในวันคริสต์มาสด้วยนะคะ