จิตเวชโรคที่มากับมนุษย์
โรคที่เกิดขึ้นในมนุษย์ นอกจากจะเป็นความผิดปกติทางร่างกายแล้ว ยังเกิดจากความผิดปกติจากทางด้านจิตได้อีกด้วย ในทางการแพทย์ เราเรียกกลุ่มของผู้ป่วยในภาพรวมว่าจิตเวช ซึ่งโรคทางด้านจิตเวช มีมากมาย อาทิ โรคซึมเศร้า ไบโพลาร์ หลงผิด หวาดกลัว ฯลฯ ซึ่งในระยะหลังเรามักพบ โรคทางด้านจิตเวชในรูปแบบที่หลากหลายมากขึ้นทุกวัน
ความจริงแล้ว หากย้อนกลับไปในอดีตหลายหมื่นปี โรคจิตเวช มีมานานมาก เพียงแต่วิทยาการด้านการแพทย์ในยุคก่อน ไม่สามารถ วินิจฉัยว่าเป็นผู้ป่วยได้ จึงมักถูกตีความให้เป็นเรื่องเหนือธรรมชาติ อย่างผีเข้า หรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ลงโทษ ผู้ป่วยในสมัยก่อนจึงเป็นคนที่น่าสงสาร เนื่องจากไม่มีี ใครเข้าใจในสิ่งที่เขาเป็น ความจริงอาการที่เรียกว่าคนบ้าเสียสติ มีมาตั้งแต่ในยุคแรก ๆ ที่มนุษย์เกิดมา อย่างในยุคก่อนประวัติศาสตร์ ที่มีความเชื่อในเรื่อง ภูตผีปิศาจ มักได้รับอิ ทธิพลความเชื่อทางไสยศาสตร์ หากใครที่เพี้ยน ไปจากคนปกติ ก็มักคิดว่าถูกสิ่งชั่วร้ายเข้าครอบงำ มีการพบหลักฐาน การเจาะรูที่กะโหลกในการรักษาในยุคก่อนประวัติศาสตร์ด้วย ยุคกรีกโบราณ ได้มีการพยายามค้นหาวิธีการรักษาโรคทางจิต โดยมีแพทย์อย่างฮิปโปเครตีส ซึ่งได้ยอมรับว่าเป็นบิดาแห่งการ แพทย์ตะวันตก ที่บอกว่าการวิกลจริตนั้นเป็นโรคชนิดหนึ่ง เกิดจาก ความไม่สมดุลของของเหลวในร่างกาย ยุคกลาง เป็นยุคที่มีเรื่องของแม่มดหมอผีเข้ามามีอิทธิพลต่อ สังคม ฉะนั้นใครที่ทำตัวแปลกแยกจะถูกจับจ้องจนโดนล่าแม่มด ขับไล่ โดยมีเรื่องของศาสนาเข้ามาเกี่ยวข้อง โดยมีความเชื่อว่า
ความเจ็บป่ ่วยเป็นเรื่องของจิตวิญญาณมากกว่าร่างกายการวิกิลจริต จึงเกิดจากจิตวิญญาณที่พระเจ้าไม่ทรงโปรดและก่อความผิดบาป ความจริงเรื่องของการรักษาผู้ป่วยทางจิตอย่างเป็นรูปธรรมนั้น เริ่มมีการก่อตั้งโรงพยาบาลจิตเวชขึ้นมา ตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 9 ในกลุ่มชาวยุุโร แต่อาจไม่ได้รักษาอย่างถูกต้องนัก เพราะมีการคุมขังไม่ให้ผู้ป่วยพบกับโลกภายนอก จนกระทั่งราวคริสต์ศตวรรษที่ 17 มีการก่อตั้งโรงพยาบาลจิตเวชขึ้น คือโรงพยาบาลเบธเลม (Bethlehem Hospital) แต่การรักษาก็ยังไม่ได้ถูกต้องตามหลักการเท่าใดนัก เพราะมีการล่ามโซ่ผู้ป่วยอยู่ตลอด ในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 มีความพยายามรักษาโรค ทางด้านจิตเวชอย่างจริงจัง บางอย่างมีการทดลองจนเป็นต้นแบบการ รักษามาถึงปัจจุบัน การรักษานั้นมีหลากหลายตั้งแต่ การถ่ายเลือด การเจาะกะโหลกศีรษะ การบำบัดด้วยการฉีดอินซูสิน การรักษา ด้วยไฟฟ้า ฯลฯ แน่นอนว่าในภายหลัง บางวิธีถูกการต่อต้านจึงต้อง มีเกณฑ์มาตรฐานในการวินิจฉัยรักษาโรคร่วมกันเรียกว่า DSM (Diagnostic and Statistical Manual of Mental Disorders) เป็นลำดับขั้นปรับใช้มาถึงปัจจุบัน