RADISH ผักกาดหัวคู่ครัวเอเซีย
ทุกวันนี้ราคาผักในท้องตลาดมีตั้งแต่หลักสิบไปจนถึงร้อย ยังไม่รับรวมผักนำเข้าจากต่างประเทศที่ราคาสูงไปถึงหลักหมื่นต่อกิโลกรัม ซึ่งหากมองกันที่คุณค่าด้านโภชนาการแล้ว ราคามิได้เป็นตัวบ่งชี้ถึงคุณค่าที่แฝงอยู่ในผัก ดังนั้นการรู้จักเลือกซื้อและรับประทานจะทำให้เราได้คุณค่ามากที่สุด
หนึ่งในผักที่มีราคาไม่สูงมากแต่ให้คุณประโยชน์ต่อร่างกายก็คือ หัวไชเท้า(Radish)หรืออาจจะเรียกในอีกชื่อหนึ่งว่า ‘‘ ผักกาดหัว’’ เป็นผักที่มีรากทำหน้าที่ในการเก็บสะสมอาหารและขยายพองออกเป็นทรงกระบองสีขาว หาซื้อได้ง่ายตาม ท้องตลาดทั่วไปราคาต่อกิโลกรัมไม่เกิน 30 บาท ซึ่งเป็นผักที่ได้รับความนิยมในการนําไปเป็น วัตถุดิบ เพิ่มรสชาติและลูกเล่นให้กับอาหาร เมนูสายพันธุ์เอเชียอย่างหลากหลาย
ทางฟากฝั่งเอเชียประเทศแรก ที่มีการปลูกหัวไชเท้าคือประเทศจีน เมื่อประมาณ 500 ปีก่อนคริสตกาล จากนั้นจึงแพร่หลายไปทั่วทุกภูมิภาครวมถึง ประเทศไทยด้วย คนไทยเรามักจะนําหัวไชเท้ามาประกอบในเมนูต้มไม่ว่าจะเป็นแกงส้ม หรือต้มจืด เพราะหัวไชเท้ายิ่งต้มนาน ก็จะยิ่งนิ่มรับประทานได้ง่าย และทําให้น้ำซุปหวานน้ำต้มผัก ส่วนคนจีนมักนําเอาหัวไชเท้าไปดองแล้วตากแห้งเป็นหัวไชโป ทานกับข้าวต้มหรือนําไปผัดกับไข่ คนญี่ปุ่นนั้นจะนิยมนําเอาหัวไชเท้าไปขูดเป็นเส้นฝอย ทานเคียงกับน้ำซอส และที่คุ้นตาก็คือกิมจิ เมนูเครื่องเคียงในมื้ออาหารของชาวเกาหลี
ตามตําราของจีนนั้นกล่าวไว้ว่าหัวไชเท้า มีฤทธิ์เป็นหยาง หรือมีฤทธิ์เย็น สามารถกําจัดสิ่งที่หมักหมมในร่างกายได้ โดยมีสารอาหารสําคัญ ได้แก่ วิตามิน เกลือแร่ คาร์โบไฮเดรต โปรตีน และเส้นใยอาหาร ช่วยในการเผาผลาญ แก้ไข้หวัดบํารุงผิวพรรณ ฟื้นฟูระบบคุ้มกันในร่างกาย และล้างสารพิษในระบบเลือดเป็นต้น