เกรท วอลล์ มอเตอร์ จับมือ Wisesight Thailand เผยเทรนด์ดิจิทัลและเทคโนโลยีปี 2565
เกรท วอลล์ มอเตอร์ จับมือ Wisesight Thailand เผยเทรนด์ดิจิทัลและเทคโนโลยีปี 2565 พร้อมแนะแนวทางการสร้างคอนเทนต์โดนใจผู้บริโภค
เกรท วอลล์ มอเตอร์ ร่วมกับ Wisesight Thailand ผู้ให้บริการด้านการวิเคราะห์ข้อมูลโซเชียลมีเดียอันดับหนึ่งในประเทศไทย จัดกิจกรรม ‘GWM Tech-in-Trend Workshop’ ณ GWM Experience Center ไอคอนสยาม สรุปรวมปรากฏการณ์สำคัญบนโลกออนไลน์ของผู้บริโภคชาวไทยในปี 2564 และเผยเทรนด์สำคัญในแวดวงดิจิทัลและเทคโนโลยีของปี 2565 พร้อมแนะนำแนวทางสร้างสรรค์คอนเทนต์ออนไลน์ให้โดนใจผู้บริโภคชาวไทย ตอกย้ำความมุ่งมั่นของเกรท วอลล์ มอเตอร์ ในการขึ้นเป็นผู้นำด้านรถยนต์พลังงานไฟฟ้าที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรมและเทคโลยีอันล้ำสมัย พร้อมรับฟังเสียงของผู้บริโภคเพื่อส่งมอบผลิตภัณฑ์และประสบการณ์การขับขี่ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์และความต้องการที่เปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่องของผู้บริโภคชาวไทยอย่างแท้จริง
นางสาวศุภรางศุ์ อนุชปรีดา ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารองค์กร เกรท วอลล์ มอเตอร์ ประเทศไทย กล่าวว่า “ในฐานะบริษัทด้านเทคโนโลยีอัจฉริยะระดับโลกที่พร้อมเดินหน้าสู่การเป็นผู้นำด้านรถยนต์ไฟฟ้าของไทย เกรท วอลล์ มอเตอร์ มีความตั้งใจที่จะรับฟังเสียงและติดตามทุกกระแสความเคลื่อนไหวของผู้บริโภค เพื่อนำไปใช้สร้างสรรค์และออกแบบผลิตภัณฑ์ เทคโนโลยี และสร้างสรรค์การบริการที่ตอบโจทย์และตรงใจลูกค้ามากที่สุด ซึ่งกิจกรรม workshop ที่เราจัดร่วมกับ Wisesight ในครั้งนี้ ทำให้เราได้เห็นกระแสความนิยมในด้านต่างๆ ของผู้บริโภคชาวไทยในโลกดิจิทัลในปีที่ผ่านมา รวมถึงแนวโน้มความต้องการภายใต้การเปลี่ยนแปลงด้านเทคโนโลยีต่างๆ ในปีนี้ได้ชัดเจนขึ้น โดยสิ่งหนึ่งที่เห็นได้ชัดตั้งแต่ปีก่อนคือ คนไทยให้ความสำคัญกับเรื่องความยั่งยืน (sustainability) เพิ่มขึ้นมาก นำไปสู่ความนิยมของผู้บริโภคที่มีต่อรถยนต์พลังงานไฟฟ้าซึ่งเพิ่มขึ้นตามไปด้วย ซึ่งเกรท วอลล์ มอเตอร์ เองก็มีความตั้งใจอย่างเต็มที่ที่จะเข้ามาช่วยเติมเต็มประสบการณ์การขับขี่ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมด้วยเทคโลยีที่ล้ำสมัยในราคาที่จับต้องได้ให้กับคนไทย พร้อมร่วมผลักดันการเติบโตของอุตสาหกรรมยานยนต์พลังงานไฟฟ้าในประเทศไทยควบคู่กัน”
กิจกรรม ‘GWM Tech-in-Trend Workshop’ ได้รับเกียรติจาก คุณพุทธศักดิ์ ตันติสุทธิเวท Data Research Manager บริษัท Wisesight Thailand มาให้ข้อมูลสรุปเหตุการณ์สำคัญของผู้บริโภคชาวไทยในปีที่ผ่านมา เทรนด์สำคัญในแวดวงดิจิทัลและเทคโนโลยีในปี 2565 รวมไปถึงเคล็ดลับในการสร้างสรรค์คอนเทนต์ออนไลน์ให้เป็นที่ตรงใจผู้บริโภคชาวไทย
เมื่อเจาะลึกลงถึงพฤติกรรมของผู้บริโภคชาวไทยในโลกออนไลน์ในปี 2564 จะเห็นถึงความเปลี่ยนแปลงทางความคิดและพฤติกรรมใน 3 ด้านหลัก ซึ่งเป็นผลมาจากความเคลื่อนไหวทางสังคมทั้งในระดับประเทศและระดับโลก รวมไปถึงผลกระทบจากวิกฤตการณ์โควิด-19 ในปีที่ผ่านมา
1. Humanity – ผู้บริโภคมีความตระหนักรู้ในความแตกต่างและยอมรับคุณค่าของความหลากหลายมากขึ้น นำมาสู่ความเคลื่อนไหวเพื่อความเท่าเทียมในสังคม อาทิ การขับเคลื่อนการสมรสเท่าเทียม ความหลากหลายทางเพศ real size beauty รวมไปถึงประเด็นด้านสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืน เช่น กระแสรณรงค์งดลอยกระทง รวมไปถึงความตื่นตัวเรื่องรถยนต์พลังงานไฟฟ้าในประเทศไทย
2. Life Appreciation – การอยู่ร่วมกับโควิด-19 มาตลอด 2 ปี ทำให้ผู้บริโภคหันมาใส่ใจและให้คุณค่ากับสิ่งเล็กๆ ใกล้ตัวมากขึ้น เพื่อเป็นอีกวิธีหนึ่งในการดูแลรักษาสุขภาพจิตของตนเอง นำมาสู่โอกาสทางการตลาดใหม่ๆ ไม่ว่าจะเป็นกระแสการจัดบ้านและโต๊ะทำงาน การปลูกต้นไม้ home gadget ต่างๆ เช่น เครื่องล้างจาน เครื่องอบผ้า รวมไปถึงความนิยมในการทำงานพร้อมเที่ยวไปด้วย (workation) เป็นต้น
3. Digital Transformation – บริการด้านออนไลน์กลายมาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นการช้อปปิ้งออนไลน์ การเรียน ทำงาน ทำกิจกรรมต่างๆ ร่วมกันผ่านทางออนไลน์ นำไปสู่ความพยายามของแบรนด์ในการสร้างประสบการณ์ที่ช่วยให้ผู้บริโภคย้ายจากโลกออฟไลน์ไปสู่ออนไลน์ได้อย่างไร้รอยต่อ อาทิ การเติบโตของ Virtual Influencer, VR, Virtual World, Metaverse รวมไปถึง Subscription content และ Digital Asset ต่างๆ
พฤติกรรมผู้บริโภคที่ให้ความสนใจในประเด็นด้านสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืนมากขึ้นในปี 2564 ที่ผ่านมา แสดงให้เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงสำคัญที่เกี่ยวเนื่องกับอุตสาหกรรมยานยนต์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งความสนใจในยานยนต์ไฟฟ้าที่เติบโตอย่างก้าวกระโดดในปีที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็น รถยนต์ไฟฟ้าแบบไฮบริด (Hybrid Electric Vehicle: HEV) รถยนต์ไฟฟ้าแบบปลั๊กอินไฮบริด (Plug-in Hybrid Electric Vehicle: PHEV) และรถยนต์ไฟฟ้าแบบแบตเตอรี่ (Battery Electric Vehicle: BEV) สอดคล้องกับความสำเร็จที่เกรท วอลล์ มอเตอร์ ได้สร้างในอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยในปี 2564 ด้วยเป้าหมายในการก้าวสู่การเป็นผู้นำ xEV ซึ่งรถยนต์พลังงานทางเลือกทั้ง 3 รุ่นที่เกรท วอลล์ มอเตอร์ ได้เผยโฉมสู่ผู้บริโภคชาวไทย ล้วนได้รับเสียงตอบรับที่อบอุ่น ทั้ง All New HAVAL H6 Hybrid SUV ที่ทำผลงานยอดเยี่ยมตั้งแต่เริ่มเปิดจองในเดือนมิถุนายน และครองยอดขายรถยนต์คอมแพคเอสยูวีในประเทศสูงสุดถึง 3 เดือนติดต่อกันในเดือนสิงหาคมจนถึงเดือนตุลาคม 2564 ส่วน ORA Good Cat ก็ได้สร้างปรากฎการณ์ครั้งใหญ่ในวงการยานยนต์ไฟฟ้า สร้างการตระหนักรู้และกระตุ้นความสนใจในรถยนต์ไฟฟ้า 100% ได้อย่างโดดเด่น ขณะที่ All New HAVAL JOLION Hybrid SUV ก็เป็นรถยนต์ไฮบริดอีกหนึ่งรุ่นที่สะท้อนถึงความนิยมรถยนต์พลังงานทางเลือกที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ กระแสด้าน Digital Transformation ที่ยังคงเป็นกระแสหลักในทุกอุตสาหกรรม ก็สะท้อนถึงความเปลี่ยนแปลงทั้งในด้านพฤติกรรมผู้บริโภคและเทคโนโลยี การเชื่อมต่อระหว่างโลกออนไลน์และออฟไลน์ที่ไร้รอยต่อยิ่งขึ้น กลายมาเป็นอีกหนึ่งปรากฏการณ์ในอุตสาหกรรมยานยนต์เช่นกัน สำหรับ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ได้ออกแบบรูปแบบธุรกิจใหม่ที่ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงทุกบริการทั้งด้านการขายและบริการหลังการขายได้อย่างง่ายดายเพียงปลายนิ้วสัมผัส ตั้งแต่การค้นหาข้อมูล การจองทดลองขับ การจองรถยนต์ที่สนใจซื้อ และการนัดหมายรับบริการหลังการขาย ไปจนถึงการควบคุมฟังก์ชั่นต่างๆ ของตัวรถจากระยะไกล ก็สามารถทำได้อย่างสะดวกสบายผ่าน GWM Application แพลตฟอร์มที่เชื่อมต่อประสบการณ์ O2O (Online-to-Offline) ทุกรูปแบบไว้ด้วยกันเพื่อเสริมสร้างประสบการณ์และการให้บริการที่เหมาะกับพฤติกรรมของลูกค้าในยุคปัจจุบันมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ GWM Application ยังเป็นแพลตฟอร์มสังคมออนไลน์ของกลุ่มคนที่รักในแบรนด์ GWM และการสร้างความสัมพันธ์ การทำกิจกรรมร่วมกันระหว่างผู้ใช้กับแบรนด์ รวมถึงยังเป็นแหล่งรวมไอเท็มไลฟ์สไตล์ที่คัดสรรมาอย่างดีเพื่อผู้ใช้ ผ่าน Brand Store ต่างๆ อีกด้วย
“ความเปลี่ยนแปลงด้านพฤติกรรมผู้บริโภคทั้งสามด้านนี้ เป็นข้อมูลสำคัญอย่างหนึ่งในการกำหนดทิศทางการดำเนินธุรกิจของเกรท วอลล์ มอเตอร์ ที่มุ่งมั่นในการสร้างความเปลี่ยนแปลงใน 5 ด้าน ได้แก่ ด้านผลิตภัณฑ์ ช่องทางการจัดจำหน่าย การสร้างประสบการณ์ การบริการหลังการขาย และการสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้า ในฐานะบริษัทที่ให้บริการเทคโนโลยีอัจฉริยะระดับโลก (Global Intelligent Technology Company) เราพร้อมที่จะสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ในทุกมิติ รับฟังเสียงของผู้บริโภค และเปิดรับการเปลี่ยนแปลงที่อาจเกิดขึ้นได้ทุกที่ทุกเวลา เพื่อตอบรับความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นหัวใจสำคัญในการดำเนินธุรกิจของเกรท วอลล์ มอเตอร์” นางสาวศุภรางศุ์ กล่าว
สำหรับในปี 2565 นี้ Wisesight คาดการณ์ว่าจะเห็นกระแสการขับเคลื่อนประเด็นด้านความหลากหลาย (Diversity) ของกลุ่มผู้บริโภคชาวไทยผ่านทางโลกออนไลน์มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการสร้างความเท่าเทียม การยอมรับความแตกต่าง และการแก้ไขความเข้าใจที่ไม่ถูกต้องทางสังคม ขณะเดียวกัน ปีนี้จะเป็นโอกาสสำหรับแบรนด์ที่สามารถผลิตสินค้าและบริการที่สามารถพัฒนาคุณภาพชีวิตให้กับลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น และเนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 ที่ยังคงมีผลกระทบอย่างต่อเนื่องกับการดำเนินชีวิตของผู้บริโภค การเตรียมความพร้อมให้สามารถใช้ชีวิตทั้งในแบบออฟไลน์และออนไลน์ได้อย่างสมดุลจะเป็นอีกสิ่งสำคัญทั้งสำหรับแบรนด์และผู้บริโภคที่จะต้องตระหนักและปรับตัวรวมถึงรูปแบบการดำเนินธุรกิจให้เข้ากับสภาวะในปัจจุบันให้ได้มากที่สุด
ในส่วนของคอนเทนต์ที่จะโดนใจผู้บริโภคในปี 2565 นั้น คอนเทนต์ที่สั้นและย่อยง่าย ซึ่งรวมไปถึงคอนเทนต์ในรูปแบบวิดีโอ โดยเฉพาะใน TikTok จะยังคงเป็นสิ่งที่ผู้บริโภคมองหา เช่นเดียวกับการนำเสนอแบบ livestreaming จะยังคงเติบโตยิ่งขึ้น นอกจากนี้ คาดว่าคอนเทนต์ในรูปแบบ AR/VR มีแนวโน้มจะเป็นที่นิยมมากขึ้นโดยเฉพาะอย่างยิ่งหากได้รับการสนับสนุนจากแพลตฟอร์มขนาดใหญ่
อย่างไรก็ดี หนึ่งในความท้าทายสำหรับผู้ผลิตคอนเทนต์คือ การปรับคอนเทนต์อย่างไรให้สามารถเข้าถึงผู้คนได้จำนวนมากขึ้น แต่ขณะเดียวกันยังต้องสามารถรักษาลูกค้าเดิมไว้ได้ ซึ่ง Wisesight ได้แนะนำไว้ว่า สิ่งสำคัญที่สุดคือการทำวิจัยเพื่อให้แน่ใจก่อนว่าคอนเทนต์ของแบรนด์อยู่ในที่เดียวกับลูกค้า ใช้ภาษาและคุยเรื่องเดียวกันกับพวกเขา เมื่อได้เข้าใจ insight ที่แท้จริงของลูกค้าแล้ว แบรนด์จะสามารถเลือกช่องทางนำเสนอและรูปแบบได้เหมาะสมยิ่งขึ้น และเมื่อนำเสนอคอนเทนต์ออกไปแล้ว สิ่งสำคัญคือจะต้องสามารถวัดผลได้ เช่น Reach, Engagement และ Conversion จึงจะสามารถวิเคราะห์และประเมินผลได้ว่าคอนเทนต์ของเราประสบความสำเร็จจริง
ทั้งนี้ ในฐานะบริษัทที่ให้บริการเทคโนโลยีอัจฉริยะระดับโลก (Global Intelligent Technology Company) ที่มุ่งก้าวเป็นผู้นำด้านรถยนต์พลังงานไฟฟ้าในประเทศไทย เกรท วอลล์ มอเตอร์ พร้อมรับฟังเสียงผู้บริโภคทั้งในออนไลน์และออฟไลน์ เพื่อนำมาใช้พัฒนาบริการในแบบ O2O ที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการของผู้บริโภคชาวไทย ควบคู่ไปกับการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมยานยนต์พลังงานไฟฟ้าไทยให้ก้าวไกลยิ่งขึ้น