นายกฯ ลั่น ตั้งเป้าเปิดประเทศให้ได้ภายใน 120 วัน ย้ำภารกิจปูพรมฉีดวัคซีนให้ได้ตามเป้าทั่วประเทศ
วันนี้ (16 มิ.ย 64) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แถลงผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย ถึงความคืบหน้าการเดินหน้าโรดแมปเพื่อพลิกฟื้นจากวิกฤตโควิด-19 โดยมีเนื้อหาใจความสำคัญการแถลงข่าวครั้งนี้ นายกฯ ได้ให้คำมั่นสัญญาอยู่ 5 ประเด็นด้วยกันคือ
1. การประกาศเปิดประเทศอย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งนายกฯ ได้ตั้งกรอบเวลาไว้ว่าภายใน 120 วันนับจากวันนี้ ก็คือราว ๆ กลางเดือนตุลาคม 2564 จะสามารถเปิดประเทศให้เดินทางเข้า - ออก ประเทศ ได้ตามปกติ เพื่อให้ระบบเศรษฐกิจกลับมาเหมือนเดิมที่สุด
2.นักท่องเที่ยวที่ฉีดวัคซีนครบโดสควรเดินทางเข้าประเทศไทยได้โดยไม่ต้องกักตัว รวมทั้งคนไทยที่เดินทางไปต่างประเทศที่ฉีดวัคซีนครบโดสแล้ว ก็ควรเดินทางกลับเข้าประเทศโดยไม่ต้องกักตัวเช่นกัน รวมทั้งสถานที่ทำงานและธุรกิจร้านค้าต่าง ๆ ต้องกลับมาเปิดทำการได้ การเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศควรไม่มีข้อห้ามหรือข้อบังคับแบบเหมารวมทั้งจังหวัด
3.จะนำร่องจังหวัดท่องเที่ยว โดยจังหวัดแรกคือ '' ภูเก็ต Sandbox’'' ที่จะนำร่องเปิดเมืองท่องเที่ยวเข้าที่ประชุม ครม. เพื่อเตรียมการเปิดประเทศ โดยเฉพาะเมืองท่องเที่ยวบางส่วน หากเมืองท่องเที่ยวไหนพร้อม ก็สามารถเปิดได้โดยไม่ต้องรอกรอบเวลา 120 วัน
4.เตรียมการป้องกันรับมือการระบาดในประเทศอย่างเข้มงวดเมื่อเปิดประเทศ เพื่อความไม่ประมาท โดยทำให้สถานการณ์โควิด อยู่ในจุดที่ควบคุมได้ พร้อมขอให้ประชาชนรับความเสี่ยงร่วมกัน เพื่อให้ระบบเศรษฐกิจกลับมาเดินหน้า และจะไม่มีการปิดสถานที่เพิ่มเติม แม้มีผู้ป่วย ยกเว้นเกิดเหตุการณ์ที่ร้ายแรง
5.นายกจะทำทุกทางเพื่อให้ได้รับการส่งมอบวัคซีนได้ตามกำหนดการ ซึ่งขณะนี้มีความคืบหน้าเจรจากับผู้ผลิตวัคซีน จำนวน 6 รายแล้ว ได้แก่ ไฟเซอร์ จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน โมเดิร์นน่า แอสตราเซเนกา ซิโนแวคและซิโนฟาร์ม โดยลงนามในสัญญาจองหรือสัญญาซื้อไปแล้ว 105.5 ล้านโดส โดยทั้งหมดจะทยอยส่งมอบเข้ามาภายในปีนี้ และเดินหน้าจัดหาวัคซีนเพิ่มเติมอีกสำหรับปีหน้า ยืนยันว่า สามารถฉีดวัคซีนให้ประชาชนเฉลี่ยประมาณเดือนละกว่า 10 ล้านโดส หากวัคซีนเพียงพอและประมาณต้นเดือนตุลาคม จะมีประชาชนที่ได้รับการฉีดวัคซีน อย่างน้อยเข็มแรกแล้ว จำนวน 50 ล้านคนเพื่อให้เปิดประเทศได้ภายใน 120 วัน
เป้าหมายในระยะสั้น: ประชาชนทุกคนควรได้รับการฉีดวัคซีนอย่างน้อยเข็มแรก จะช่วยลดความเสี่ยงจากการเจ็บป่วยหรือเสียชีวิตได้
เป้าหมายในระยะยาว: จะมีสายการผลิตวัคซีนเองในประเทศ ประชาชนจะสามารถฉีดวัคซีนได้ตราบเท่าที่เราต้องการ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก : เว็บรัฐบาลไทย